จากประชาชาติธุรกิจ
นายสุพจน์ ชิตเกษรพงศ์ เลขานุการบริษัท บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน ) (CPALL)ส่งหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ วาระพิเศษ โดยมีกรรมการอิสระของบริษัทเข้าร่วมประชุมด้วย เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2558 ได้มีข้อสรุปจากการประชุม ซึ่งมีรายละเอียดตามแถลงการณ์ของคณะกรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระตามที่แนบมาพร้อมนี้
แถลงการณ์ของคณะกรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระ สืบเนื่องจากประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงาน ก.ล.ต.”) เมื่อวันพุธที่ 2 ธันวาคม 2558 เกี่ยวกับคุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ คุณพิทยา เจียรวิสิฐกุล และคุณปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล ซึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด มหาชน (“บริษัท”) ที่ประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบ ในวาระพิเศษซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2558 โดยมีกรรมการอิสระของบริษัทเข้าร่วมประชุมด้วย ได้พิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงหน้าที่ในฐานะผู้แทนของผู้ถือหุ้นทุกรายของบริษัท
ที่ประชุมรับทราบว่าคุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ คุณพิทยา เจียรวิสิ ฐกุล และคุณปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล ได้ยอมรับในคำตัดสินของสำนักงาน ก.ล.ต. โดยได้รับการเปรียบเทียบปรับแล้ว และได้พิจารณาข้อเท็จจริงต่างๆ อย่างถี่ถ้วน โดยคำนึงถึงการลงโทษของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ตลอดจนพฤติกรรมและผลงานในอดีต รวมทั้งคุณสมบัติและประสบการณ์อันโดดเด่นของบุคคลเหล่านี้ ซึ่งหาทดแทนได้ยาก โดยเปรียบเทียบกับผลกระทบและผลประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ และความเชื่อมั่น ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก คณะกรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระจึงลงความเห็นว่า ยังสมควรที่จะให้บุคคลเหล่านี้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
อย่างไรก็ดี ด้วยความเคารพในการตัดสินของสำนักงาน ก.ล.ต. บริษัทควรจะพัฒนาและปรับปรุงแนวทาง และกระบวนการ ตลอดจนการอบรมพนักงานในเรื่องบรรษัทภิบาล เพื่อให้บริษัทดำเนินธุรกิจบนมาตรฐานบรรษัทภิบาลตามที่สาธารณชนต่างคาดหวัง จากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ประชุมจึงมีมติดังต่อไปนี้
1. จัดตั้งคณะกรรมการบรรษัทภิบาล อันจะช่วยเสริมระบบบรรษัทภิบาลในปัจจุบันให้มีความรัดกุมและครอบคลุมยิ่ง ขึ้น เพื่อให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งต่อไปพิจารณาให้ความเห็นชอบ
2. แต่งตังผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านบรรษัทภิบาลจากภายนอก ซึ่งรวมถึงที่ปรึกษากฎหมาย และการตรวจสอบ เพื่อทบทวนจุดอ่อนในโครงสร้างและกระบวนการด้านบรรษัทภิบาลต่างๆ รวมทั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุง โดยผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะรายงานต่อคณะกรรมการบรรษัทภิบาล
3. กำหนดให้จัดการอบรมที่มีเนื้อหาครอบคลุมอย่างสมํ่าเสมอแก่กรรมการและผู้ บริหารของบริษัทตลอดจนผู้ใดก็ตามที่อาจเข้าถึงข้อมูลที่มิได้เผยแพร่ต่อ สาธารณะ เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญ และให้ปฏิบัติตน ตามกฎข้อบังคับของสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน