จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

      พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย นัดผู้บริหารสมาคมฟุตบอลฯชุดเก่า ส่งมอบงาน แต่ได้เพียงสำเนาเอกสารภาระหนี้ที่ค้างอยู่ 20 ล้านบาท และกุญแจเข้า-ออกที่ทำการสมาคมฯเท่านั้น ขณะที่เอกสารสำคัญอย่าง บัญชี รายรับ-รายจ่าย และงบดุลต่างๆ ยังถูกเก็บเงียบ ด้าน แกรนด์สปอร์ต แอบเซ็นหนุนเสื้อบอลไทยต่อ 5 ปี
       
       เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย พล.อ.อดุลยเดช อินทะพงษ์ อุปนายกสมาคมฯ และนายชนินทร์ แก่นหิรัญ รองเลขาฯฝ่ายกฎหมาย ได้นัดหมายให้ ผู้บริหารสมาคมฟุตบอลฯชุดเก่า นำเอกสารต่างๆมาส่งมอบงานให้กับสมาคมชุดใหม่ โดยมี พ.อ.วรวุฒิ ทองศรีงาม อดีตเลขาฯ เป็นผู้เดินทางนำเอกสารมาส่งมอบ ณ ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลฯ (สนามศุภชลาศัย)
       
       ภายหลังการปิดห้องพูดคุย พล.ต.ท.พิสัณห์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการรับมอบเอกสารในเบื้องต้นเท่านั้น มีเพียงเอกสารต่างประเทศจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า), สหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) และสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่นักฟุตบอลยื่นร้องขอความเป็นธรรม รวมถึงส่งมอบกุญแจเข้าที่ทำการสมาคมฟุตบอลฯ ภายในสนามศุภชลาศัย ส่วนเอกสารสำคัญต่างๆ อาทิ บัญชี และงบดุล จะมีการมอบกันอีกครั้งภายในวันที่ 20 มีนาคม นี้
       
       "เรื่องงบดุลนนั้นเรายังไม่ได้ เพราะ พ.อ.วรวุฒิ ยืนยันว่าตนไม่รู้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรายรับ-รายจ่ายของสมาคมฯที่ผ่าน มาแต่อย่างใด ที่สำคัญสมาคมฯชุดเก่า ไม่มีการรับรองงบดุลในที่ประชุมใหญ่มาแล้ว 2 ปี คือ ปี พ.ศ. 2557 และ 2558 ซึ่งเรื่องนี้ได้มอบหมายให้ พล.อ.อดุลยเดช เป็นผู้ตรวจสอบต่อไป ว่าเมื่อได้รับแล้ว งบดุลกับสิ่งที่ปรากฎขึ้นเป็นจริงหรือไม่"
       
       "ที่สำคัญวันนี้เรายังไม่รู้ว่าเงินต่างๆที่สมาคมชุดใหม่จะได้นั้นมี เท่าไหร่ แต่เราได้ภาระหนี้ผูกพันจากสมาคมฯชุดเก่า มาแล้วประมาณ 20 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าภาษีต่างๆ 11 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายที่ค้างกับ โรงแรม โกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน ราว 6 ล้านกว่าบาท และค่าค้างชำระหนี้บุคคลที่ไม่ระบุว่าเป็นใครอีกราว 2-3 ล้านบาท โดยส่วนนี้เป็นการรับมอบภาระและหน้าที่ ซึ่งทางสมาคมฯชุดใหม่ยอมรับได้ แต่ต้องไปตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่"
       
       "เรายังไม่ได้เห็นบัญชี ว่าเงินสิทธิประโยชน์ครบหรือไม่ มีกำหนดจ่ายเมื่อไหร่ เงินที่เข้าบัญชีมาแล้วไปอยู่ไหน การเบิกเงินต้องมีที่มาที่ไป ซึ่งตอนนี้เรายังไม่ได้อะไรเลย ส่วนเรื่องศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ ที่หนองจอก นั้นเป็นทรัพย์สินของสมาคมฯ ต้องมอบคืน แต่เราอยากดูโฉนดว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ทางเข้าเป็นของใคร เป็นที่ตาบอดหรือไม่ หรือมีการระบุอะไรที่ท้ายสัญญาบ้าง" บิ๊กเจี๊ยบ กล่าว
       
       ด้าน นายชนินทร์ กล่าวว่า วันนี้เราได้รับมอบสิ่งสำคัญเพียง กุญแจเข้าออกที่ทำการสมาคมฯเท่านั้น ส่วนเอกสารต่างๆก็ไม่มีต้นฉบับ มีเพียงสำเนาสัญญา 7 ฉบับ จากผู้สนับสนุนที่สนับสนุนสมาคมโดยตรง คือ เมืองไทยประกันภัย, แกรนด์สปอร์ต, ธนาคารซิตี้แบงค์, ไทย แอร์เอเชีย, ช้าง, แมคโดนัล และบริษัท Media Exploitation Agreement จากต่างประเทศ ซึ่งจะต้องไปตรวจสอบสัญญาที่แท้จริงจากคู่สัญญาอีกครั้ง
       
       "เราต้องไปตรวจดูว่าเอกสารต่างๆถูกต้องหรือไม่ เช่น แกรนด์สปอร์ต ที่มีการต่อสัญญาเพิ่มไปอีก 5 ปี โดยมีการจ่ายเงินไปแล้วเมื่อช่วงก่อนการเลือกตั้งนายกสมาคมฯที่ผ่านมา ทั้งที่ความจริงต้องจ่ายในวันที่ 1 มีนาคม ที่สำคัญเรายังไม่เห็นเงินก้อนดังกล่าวเช่นกัน เรายังไม่ได้แม้แต่สมุดบัญชีธนาคาร ตัวอดีตเลขาฯ ปฏิเสธรู้เห็น เรื่องรายรับ-รายจ่าย โดยอ้างว่าสมุดบัญชีอยู่กับอดีตนายกสมาคม นายวรวีร์ มะกูดี และยังไม่สามารถระบุได้ด้วยว่าเป็นบัญชีของสมาคม หรือบัญชีของตัวนายวรวีร์เอง ซึ่งทุกอย่างต้องเคลียร์ให้แล้วเสร็จเพื่อนำไปรับรองในการประชุมใหญ่เดือน เมษายนนี้" นายชนินทร์ กล่าว
       
       สำหรับกรณีสิทธิประโยชน์ของ บริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก จำกัด ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอล ไทย พรีเมียร์ ลีก และดิวิชั่น 1 ทางสมาคมฯจะมีการประชุมร

สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน