จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ มุมคิดคนข่าว โดย patdhana patdhana@gmail.com

เขียนข่าวเรื่อง "ทองคำ" มาหลายครั้ง และแทบทุกครั้งก็มักจะต้องมานั่งไล่อ่านคอมเมนต์ใต้ข่าวในเฟซบุ๊ก เพื่อดูว่าแฟนคลับข่าวการเงินของ "ประชาชาติธุรกิจ" คิดเห็นกันอย่างไรบ้าง...วันนี้จึงได้รวมข้อสงสัยต่าง ๆ มาไขปัญหาคาใจให้หายขัดข้องกัน

คำถามอันดับ 1 (มีคนคอมเมนต์มาก และถกเถียงกันมาก) "ทำไมตอนไปขายทองที่ร้านไม่ได้ราคาตามที่สมาคมค้าทองคำประกาศ...ร้านทองโกงแน่ ๆ !!"

ปัญหานี้ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับ "ทองรูปพรรณ" ซึ่งอาจต้องตอบแบบกลาง ๆ ว่า "อาจทั้งใช่...และไม่ใช่" ที่บอกว่า "ใช่" นั่นก็เพราะคุณอาจจะโดนโกงจริง ๆ ก็ได้ ซึ่งถ้ารู้สึกว่าร้านให้ราคาไม่ดีก็อย่าเพิ่งขาย ลองไปมองหาร้านค้าทองที่น่าเชื่อถือแทน แบบนี้ก็คงมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่า ร้านค้าทองนั้น ๆ จะให้ราคารับซื้ออย่างเป็นธรรม แต่กรณีที่บอกว่า "ไม่ใช่" ก็เพราะบางครั้งเจ้าของทองรูปพรรณใส่อาจลืมคิดไปว่า เวลานำทองไปใส่ บางครั้งเกิดการกระแทก หรือกระทบขึ้น ซึ่งจะทำให้เนื้อทองคำรูดหายหลุดออกไป ตรงนี้ร้านทองก็ต้องมีหักออกบ้าง

ยังไม่ใช่แค่นี้...สำหรับทองคำความบริสุทธิ์ 96.5% (มาตรฐานในประเทศไทย) ซึ่งได้ถูกกำหนดว่า "ทองรูปพรรณ" น้ำหนัก 1 บาท จะเท่ากับ 15.16 กรัม และ "ทองคำแท่ง" น้ำหนัก 1 บาท เท่ากับ 15.244 กรัมนั้น แต่ละร้านอาจใส่เนื้อของทองคำไม่เท่ากันก็ได้...!! ตรงนี้ไม่ได้บอกว่าร้านไหนใส่ทองขาด แต่จะบอกว่ามีบางร้านที่ใส่ทองมากกว่ามาตรฐาน เช่น ฮั่วเซ่งเฮง (อาจมีร้านอื่นอีก แต่อันนี้ยกตัวอย่าง) ดังนั้น ร้านค้าของเขาจึงมั่นใจว่าจะสามารถรับซื้อทองของร้านตัวเองกลับคืนในราคาที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับรับซื้อทองจากร้านอื่น

คำถามถัดมา"ทำไมทองรูปพรรณ5บาท ขายแพงกว่าทองแท่ง นี่โกงกันใช่ไหม ?!?"

อันนี้อยากให้ใจเย็น ๆ ก่อน นั่งลง ดื่มน้ำ (เหยาะน้ำยาอุทัยเล็กน้อย) แล้วหันหน้ามาคุยกันดี ๆ...ความจริงแล้วทองคำรูปพรรณแพงกว่าทองแท่งจริง (เมื่อเทียบในน้ำหนักเท่ากัน) แต่นั่นก็เป็นเพราะกระบวนการทำทองรูปพรรณมันมีเรื่องของ "ค่าแรง" ของ "ช่างทอง" รวมอยู่ด้วย ซึ่งแรงงานเหล่านี้ต้องใช้ฝีมืออย่างมากในการทำลวดลายของทอง ดังนั้น ถ้ายิ่งเลือกซื้อทองซับซ้อนก็จะมีค่าแรงเหล่านี้รวมเข้ามา ซึ่งเรียกว่า "ค่ากำเหน็จ...ประเด็นนี้อยากให้เข้าใจฝั่งร้านค้าทองด้วยว่า ตอนนี้ช่างทองในระบบมีจำนวนไม่มากแล้ว แถมคนในวงการค้าทองต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ค่ากำเหน็จของทองรูปพรรณในประเทศไทยไม่แพงเลย เพราะจะอยู่ที่ราวบาทละ 500 บาท (ขึ้นอยู่กับลวดลายหากซับซ้อนจะแพงขึ้น) ส่วนต่างประเทศจะอยู่ที่ราวบาทละ 2,000 บาท ดังนั้น ถ้ารักจะซื้อ "ทองรูปพรรณ" ซึ่งถือเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง ก็ต้องให้ค่าฝีมือช่างด้วย แตกต่างจากทองแท่งที่ใช้วิธีหลอมและเทลงบล็อกเท่านั้น

เอาแค่หอมปากหอมคอกันเพียงเท่านี้ หากมีข้อสงสัยอย่าลืมติดตามอ่านประชาชาติธุรกิจ และคอมเมนต์ไว้ใต้ข่าว ครั้งหน้าจะได้ไขข้อสงสัยเพิ่มเติมค่ะ

สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน