จากประชาชาติธุรกิจ
นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนคดีกล่าวหานายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีพฤติการณ์เบื้องต้นว่าอาจมีทรัพย์สินบางส่วนถูกถ่ายเทไปยังบุคคลอื่น
โดยเป็นการขยายผลจากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินเดิมของ นายธาริต ซึ่งก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. ให้อายัดทรัพย์สินไว้ก่อนประมาณ 90 ล้านบาท จากทรัพย์สินทั้งหมด 346 ล้านบาท ที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจรวยผิดปกติและปัจจุบันอยู่ระหว่างการไล่สอบเส้นทางการเงิน พร้อมทั้งตรวจสอบเชิงลึก ซึ่งมีข้อมูลที่น่าเชื่อได้ว่านายธาริต ได้โยกย้ายทรัพย์สินบางส่วนมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาทไปอยู่กับคนใกล้ชิด ซึ่งจากการไต่สวนพบข้อเท็จจริงถึงการโอนทรัพย์สิน เงินและหุ้นของบริษัทต่างๆรวมถึงที่ดินบางส่วนให้กับบุตร ภรรยา คนใกล้ชิด
ทั้งนี้ ปัจจุบัน นายธาริต ถูกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อนและหลังจาก ป.ป.ช. ส่งสำนวนการไต่สวน และรายงานความเห็นกรณีชี้มูลความผิดนายธาริต ร่ำรวยผิดปกติไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ และสำนักนายกรัฐมนตรีก็มีคำสั่งไล่ออกนาย ธาริตแล้ว
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีเลขาธิการนายกรัฐมนตรีไล่ออกจากราชการ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตามมติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ว่า การไล่ออกมี 2 อย่างคือ 1.ไล่ออกเพราะมีการดำเนินการทางวินัยก็อุทธรณ์ไปที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ได้ 2.คือลงโทษทางวินัยตามที่ ป.ป.ช.ได้แจ้งมา ซึ่งกรณีนี้ไม่สามารถไปอุทธรณ์ที่ไหนต่อไปได้ถือว่ายุติที่คำสั่งป.ป.ช. แต่ตนไม่ทราบว่าในกรณีของนายธาริต ลงโทษด้วยเรื่องใด แต่เข้าใจว่าลงโทษตามที่ป.ป.ช.แจ้งความผิดมา
‘ป.ป.ช.’เล็งอายัดทรัพย์’ธาริต’อีก 100 ล. หลังพบโอนให้ญาติ-คนใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 23 เมษายน นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในฐานะผู้รับผิดชอบสำนวนคดีที่ป.ป.ช.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จ จริงกล่าวหา นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ปัจจุบันปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ (คสช.) ร่ำรวยผิดปกติอีกครั้งหนึ่ง โดยมีพฤติการณ์เบื้องต้นว่า อาจมีทรัพย์สินบางส่วนถูกถ่ายเทไปยังบุคคลอื่นนั้น ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการไต่สวนคดี ว่า เป็นการขยายผลสืบเนื่องจากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินเดิมของนายธาริต โดยเบื้องต้นมติคณะกรรมการป.ป.ช. ให้อายัดทรัพย์สินไว้ก่อนประมาณ 90 ล้านบาท จากทรัพย์สินทั้งหมด 346 ล้านบาท ที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจรวยผิดปกติ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไล่สอบเส้นทางการเงิน และตรวจสอบเชิงลึก โดยมีข้อมูลที่น่าเชื่อได้ว่า นายธาริต ได้โยกย้ายทรัพย์สินบางส่วนมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท ไปอยู่กับคนใกล้ชิด อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการไต่สวน ถ้าทรัพย์สินส่วนไหนที่นายธาริตชี้แจงได้ถูกต้อง มีที่มาที่ไปก็จะไม่ถูกอายัด แต่ถ้าส่วนไหนชี้แจงไม่ได้ หรือมีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน อาจถูกอายัดไว้เพื่อตรวจสอบก่อนได้ ยืนยันว่า ป.ป.ช. ให้ความยุติธรรมกับนายธาริตอย่างเต็มที่
แหล่งข่าวจากป.ป.ช. เปิดเผยว่า เบื้องจากการไต่สวนคดีพบข้อเท็จจริงว่า นายธาริต ได้โอนทรัพย์สินบางส่วนให้กับบุตร ภรรยา คนใกล้ชิด และนายตำรวจใกล้ชิดรายหนึ่งเป็นผู้ถือทรัพย์สินแทน โดยส่วนใหญ่เป็นเงิน และหุ้นของบริษัทต่าง ๆ รวมถึงที่ดินด้วย อย่างไรก็ตามภายหลังที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีนี้ขึ้น นายธาริต ได้ดำเนินการฟ้องต่อประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคือ นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช. หลายคดีด้วยกัน แต่ศาลได้ยกคำร้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นศาลยุติธรรมที่สู้กันถึงชั้นอุทธรณ์ และศาลแพ่ง
ทั้งนี้เมื่อต้นปี 2559 คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายธาริต ในคดีร่ำรวยผิดปกติไปแล้ว เนื่องจากพบว่า มีพฤติการณ์ให้ผู้อื่นถือทรัพย์สินแทนกว่า 346 ล้านบาท
ที่มา มติชนออนไลน์
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
