จากประชาชาติธุรกิจ
1.ตามเทรนด์แต่ไม่ ทำร้ายผม อย่างการมัดผมรวบตึงต้องเลือกยางมัดผมคุณภาพ
2.เลือกแปรง ที่ดี เลือกสุขภาพดีให้เส้นผม เช่น แปรงที่ทำมาจากขนสัตว์ธรรมชาติ จะช่วยลดแรงเสียดทานในการหวีผม และช่วยกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตไขมันหล่อเลี้ยงเส้นผม
3.เล็มปลายผม อย่างสม่ำเสมอ ทุก ๆ 4-6 สัปดาห์เพื่อกำจัดปลายผมที่แตกเสีย และกระตุ้นให้ผมยาวเร็วขึ้นกว่าเดิม
4.ไม่ควรใช้หวีซี่ถี่ทำร้าย เกล็ดผมในขณะที่ผมเปียก เพราะจะเพิ่มแรงเสียดสีและทำร้ายเกล็ดผมรุนแรง หากเป็นไปได้ทุกเย็นควรใช้นิ้วนวดหนังศีรษะเบา ๆ เพื่อบำรุงรากผม และใช้ลีฟออนเคลือบเส้นผมเป็นเกราะป้องกันมลพิษและแสงแดด
5.ซับผมเบา ๆ อย่างทะนุถนอม เพราะเส้นผมเปราะบางที่สุดขณะเปียก การใช้ผ้าขนหนูขยี้แรง ๆ จะทำลายความยืดหยุ่นของเส้นผม
6.อย่าไดร์จนแห้งสนิท ควรเป่าด้วยลมเย็นทุกครั้งไม่ให้เส้นผมขาดความชุ่มชื้น
7.เลือกกิน อาหารที่มีประโยชน์ ลดการดื่มชา กาแฟ และแอลกอฮอล์ เพราะกาเฟอีนมีผลต่อความสามารถในการซึมซับสารอาหารต่าง ๆ ของเส้นผม และควรออกกำลังกายเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและกระตุ้นการซ่อมแซมของ เส้นผม
8.ใช้คอนดิชันเนอร์บำรุงเส้นผมทุกวัน จะช่วยลดการเสียดสีที่ทำร้ายเกล็ดผมขณะผมเปียก แถมยังช่วยปรับสภาพและเคลือบผมให้เงางาม
9.ทรีตเมนต์มาสก์ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ครั้งละ 3 นาที
10.ล้างด้วยน้ำเย็นหลังสระ ผมทุกครั้ง ให้ใช้น้ำเย็นล้างผมเป็นน้ำสุดท้ายเสมอเพื่อปิดเกล็ดผมและเพิ่มประกายเงางาม ให้เส้นผม กระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือด และสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย สำหรับคนทำสีผมน้ำเย็นยังช่วยยืดอายุของสีผมได้อีกด้วย ข้อมูลจาก:หน้าพิเศษ D-Life