จากประชาชาติธุรกิจ
webbiz
ในที่สุด Ning.com เว็บไซต์ ที่ให้บริการสร้างโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เคยเป็นที่รู้จักกันมากพอสมควร ก็มาถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ใหม่ พร้อมกับการปรับลดพนักงานลงเกือบครึ่งหนึ่งจาก 176 คน เหลือเพียง 98 คน หลังจากที่ซีอีโอคนเก่า ′จิน่า เบียนชินิ′ อันเปรียบเสมือนไอคอนของบริษัทลาออกไปไม่นานนัก
ยุทธศาสตร์ใหม่ของ Ning.com ก็ คือยกเลิกการให้บริการฟรี เหลือไว้เฉพาะบริการเสียเงินเท่านั้น สำหรับผู้ใช้บริการฟรีอยู่เดิมจะให้เวลาสำหรับการเปลี่ยนมาเลือกใช้บริการ แบบเสียเงินแทน หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องปิดโซเชียลเน็ตเวิร์กที่สร้างเอาไว้
Ning.com เป็นผลงานการบุกเบิกที่มี ความโดดเด่นของหัวเรือใหญ่ คือ ′มาร์ค แอนดีสเซ่น′ ผู้ร่วมสร้างเว็บบราวเซอร์โมเสกที่ถือเป็นเว็บบราวเซอร์ตัวแรกซึ่งมีคนใช้ กันอย่างกว้างขวาง และต่อมาเป็น ผู้ร่วมก่อตั้ง เน็ตสเคปเจ้าของเว็บบราวเซอร์ชื่อดังในอดีตที่รู้จักกันดีนั่นเอง
ถึงแม้ว่าบน Ning.com จะ มีผู้ใช้บริการสร้างโซเชียลเน็ตเวิร์กอยู่มากถึงราว 2.3 ล้านราย และมีสมาชิกลงทะเบียนใช้งานกว่า 40 ล้านคน ในจำนวนนี้มีราว 13 เปอร์เซ็นต์ที่ใช้บริการพรีเมี่ยมกล่าวคือ เป็นลูกค้าประเภทจ่ายเงินนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีรายได้อื่น ๆ จากของขวัญเสมือนจริงอีกด้วย
แต่ยุทธศาสตร์ธุรกิจ ที่ทำมาโดยแบ่งเป็นประเภทฟรีและเสียเงินนั้น ก็ไม่ประสบความสำเร็จทางด้านรายได้ ทั้งที่เมื่อดูจากจำนวนโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เกิดจาก Ning แล้ว นับว่าไม่น้อยเลยทีเดียว แต่การจะแปรมันออกมาเป็นรายได้ก็เป็นสิ่งที่ยากเย็น
การที่เจ้าของโซเชีย ลเน็ตเวิร์กเหล่านี้ไม่ยอมอัพเกรดตัวเองมาเป็นผู้ใช้งานแบบเสียเงิน สะท้อนให้เห็นความล้มเหลวของรูปแบบแจกฟรีก่อนแล้วจ่ายเงินทีหลังอยู่ไม่น้อย ขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องเตือนใจผู้ใช้งานอยู่พอสมควรสำหรับการเลือกใช้ของ ฟรีที่ต้องพยายามให้แน่ใจว่าบริการฟรีที่เคยใช้นั้นจะฟรีอยู่ตลอดไป เพราะการสร้างโซเชียลเน็ตเวิร์กขึ้นมาสักแห่งต้องใช้ทั้งเวลาและอะไรหลายต่อ หลายอย่างยิ่งถ้าทำไปโดยไม่ได้มุ่งหวังรายได้ใด ๆ
เป็นเครื่องเตือนใจให้ผู้ ใช้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งฟรีที่มีอยู่มากมายด้วยเช่นกันว่า สักวันหนึ่งบริการฟรีที่ใช้อยู่อาจจะไม่ฟรีต่อไป หรือแม้กระทั่งเลิกให้บริการไปเลยก็ได้
