สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ถึงเวลานักธุรกิจแสดงบทหน้าที่พลเมือง

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
นงค์นาถ ห่านวิไล
บก.โต๊ะตลาด กรังเทพธุรกิจ

โดย : ลับคมธุรกิจ



คนไทยทุกคนที่ อาศัยแผ่นดินนี้ดำรงชีพ ต่างก็เป็นห่วง "ประเทศ" ในห้วงวิกฤติความแตกแยกในขณะนี้

เพราะหน้าที่หลักของพวกเราทุกคนคือ ความเป็น “คนไทย” เหมือนกันทั้ง 64 ล้านคน

ทั้ง 64 ล้านคน อาศัยอยู่บนบ้านหลังเดียวกัน  บ้านที่ชื่อว่า "ประเทศไทย"  ความแตกแยก ความขัดแย้ง ความไม่สบายใจ ความน้อยใจ ความไม่ไว้วางใจทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็ต้องได้รับการแก้ไขและเยียวยา โดยคนไทย ทุกคน อย่าได้ไปเหมารวมให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียว  เนื่องจากปัญหาได้สั่งสมเกาะเกลียวพันกันซับซ้อนจนยากที่คนในรัฐบาลจะถอด รหัส ซึ่งคนไทยหลายกลุ่ม ในหลากหลายอาชีพ ก็ได้เล็งเห็นจุดนี้ กำลังรวมตัวเพื่อช่วยกันหาทางออก

โดยเฉพาะนักธุรกิจ ซึ่งมีทรัพยากรมากกว่าหลายอาชีพ  ทั้งการเงิน ความคิดสร้างสรรค์และบุคลากร ถ้าภาคธุรกิจตั้งสติและเรียนรู้ว่าสังคมกับเศรษฐกิจแยกกันไม่ได้ คนเหล่านี้ก็จะช่วยประเทศได้มากเลยทีเดียว

วิเชียร พงศธร ประธานกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ กรุ๊ป  เป็นอีกคนหนึ่งที่ ไม่ได้ออกมาปรากฏตัวว่าช่วยเหลือสังคมในช่วงที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง  ทำงานปิดทองหลังพระมานาน  กระทั่งมาเจอวิกฤติครั้งนี้   ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นในรายการ "ลับคมธุรกิจ" เอฟเอ็ม 90.5 เมื่อวันก่อน ขอนำความคิด ความเห็น ข้อเสนอแนะ บางส่วนมาเล่าต่อในคอลัมน์นี้

ประธานกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ กรุ๊ป  มองว่า ถ้านักธุรกิจ ทำธุรกิจโดยไม่สนใจพื้นที่ที่ทำมาหากินอยู่ มุ่งหาประโยชน์อย่างเดียวในยุคนี้  ทำไม่ได้แล้วอย่างสิ้นเชิง นักธุรกิจต้องมาช่วยกันคิดและหาทางออกให้กับสังคมด้วย  ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งทรัพยากรการเงินมาใช้เพื่อสื่อสร้างสติและความสามัคคี ให้กับคนในชาติ หรือ การทำงานช่วยกันเยียวยาหาทางออกให้กับสังคมในด้านอื่นๆ ตามแต่ละคนถนัดในห้วงเวลาแบบนี้ จะเกิดประโยชน์กับประเทศอย่างยิ่ง

“ทุกคนมีภารกิจหลัก 2 ด้านใหญ่คือ การแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง  เพราะการใช้ความรุนแรง จะส่งผลให้เกิดความแตกแยก และ ความไม่ไว้วางใจ  คงไม่ใช่วิถีทาง ที่ถูกต้อง  จึงต้องมีกระบวนการระงับยับยั้งไม่ให้เกิดการใช้กำลังและความรุนแรง”

อีกด้านหนึ่งต้องใช้สติพินิจพิเคราะห์ให้เข้าใจถึงปัญหา และมีทางออกให้กับคนทั้งประเทศ ทุกคนอยู่ในบ้านหลังใหญ่ หลังเดียวกัน  อาจมีความแตกต่างกันบ้าง   สังคมไทยมีความเป็นครอบครัว มีความเป็นเครือญาติ เป็นเพื่อนฝูง  ไม่รู้จักกัน เราก็เรียก คุณตา คุณยาย ลุง ป้า น้าอา กระทั่งเรียกป๋า ก็มี  ไม่ว่าจะฐานะ การศึกษา ศาสนา แตกต่างกัน ทุกคนมักจะประสบพบเจอกับคนดีเป็นส่วนใหญ่ สังคมไทย เป็นสังคมที่ต่างชาติเขาเห็นแล้วเขาชอบ เขาอยากมาอยู่บ้านเรา จึงต้องช่วยกันเก็บสิ่งดีๆ เหล่านี้ไว้

แต่บ้านหลังใหญ่ ที่ชื่อประเทศไทย ตอนนี้ กำลังเกิดไฟไหม้  ถ้าเรามีทางเลือกที่จะทำอะไรได้บ้าง  เราน่าจะนั่งลงพิจารณา  ว่า  เราจะเติมเชื้อไฟลงไป หรือ มาทะเลาะกันว่าใครเป็นคนจุดเพลิง โทษกันไปโทษกันมา หรือ เราจะมาช่วยกันดับเพลิง  เมื่อเพลิงมอดก็มาช่วยกันซ่อมบ้าน แล้วช่วยกันสอดส่องมือวางเพลิง และมาวางระบบป้องกันไฟให้เข้มแข็ง เป็นการช่วยกันดูแลทุกข์สุขกันและกัน ผู้ที่มีความผิดก็ต้องผิด คนที่มีความรู้สึกไม่ไว้วางใจกันก็ต้องนำความระแวงนั้นมา ช่วยเคลียร์หาทางออก

ทุกๆฝ่ายตอนนี้ทั้งคนที่มีส่วนร่วมในความแตกแยกและคนที่ไม่มีส่วน สร้างปัญหานี้ขึ้นมา ต้องมาช่วยกันตั้งสติว่า บ้านหลังนี้เราอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขไม่ได้หรอก ถ้าฝ่ายใดชนะและมีผู้แพ้ที่อยู่ด้วยความเกลียดชัง ปัญหาก็จะปะทุขึ้นมาอีก

"ถึงเวลาที่ทุกคนต้องมีน้ำใจและเข้ามาช่วยกัน รู้จักขอโทษและให้อภัย คนที่มีทรัพยากรในมือมาก ก็นำมาใช้เสริมสร้างความสามัคคี  เพราะเราต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันในบ้านหลังนี้"   


view