สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

5สภาวิชาชีพแพทย์ประณามแดงหยุดคุกคามแพทย์

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

แพทยสภา-สภาการ พยาบาล-สภาเภสัชฯ-สภาเทคนิคแพทย์-สภากายภาพฯ ออกแถลงการณ์ประณามม็อบบุกร.พ.จุฬาฯคุกคามบุคลากร ขัดหลักมนุษยธรรมสนธิสัญญาเจนีวา

ที่สำนักแพทยสภา ภาคีสภาวิชาชีพด้านสุขภาพแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย แพทยสภา  สภาการพยาบาล  สภาเภสัชกรรม สภาเทคนิคการแพทย์ และสภากายภาพบำบัด ออกแถลงการณ์ เรื่อง "ขอให้ยุติการคุกคามและปฏิบัติต่อโรงพยาบาล รถพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และผู้บาดเจ็บ ที่ไม่เป็นไปตามหลักสากลและหลักมนุษยธรรม"

ศาสตราจารย์ น.พ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา อ่านแถลงการณ์ว่า เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองมีความขัดแย้งนำมาซึ่งการสูญเสีย และบาดเจ็บของประชาชนและเจ้าหน้าที่จำนวนมาก และปรากฏการบุกรุกตรวจค้นโรงพยาบาล คุกคามบุคลากรทางการแพทย์ และขัดขวางการเคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์การปะทะ ทางสภาวิชาชีพมีความเสียใจต่อเหตุการณ์เกิดขึ้นและขอประณามการกระทำที่ไม่ เป็นไปตามหลักสากลและหลักมนุษยธรรม 

น.พ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ภาคีสภาวิชาชีพด้านสุขภาพฯ จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายมีสติ หนักแน่น เคารพหลักการสากลและหลักมนุษยธรรมในการดูแลรักษาผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ ดังนี้

1.ภาคีสภาวิชาชีพด้านสุขภาพฯ ขอให้สมาชิกยึดมั่นในจริยธรรมวิชาชีพในการดูแลผู้ป่วยอย่างเคร่งครัด ไม่เลือกปฏิบัติต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ว่าภายใต้เงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
 2.ใน หลักสากลแม้กระทั่งในยามสงครามหรือความขัดแย้ง สู้รบระหว่างประเทศ โรงพยาบาล รถพยาบาล เครื่องมือทางการแพทย์  บุคลากรทางการแพทย์ ต้องได้รับการคุ้มครองจากทุกฝ่ายให้มีความปลอดภัยและสามารถปฏิบัติหน้าที่ ตามหลักมนุษยธรรมได้อย่างเต็มที่
 3.  ในประเทศไทยขณะนี้เป็นเพียงความขัดแย้งทางความคิดของคนในชาติเดียวกัน จึงขอให้ทุกฝ่ายเคารพความเป็นกลางของบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาล รถพยาบาล ถอยห่างจากพื้นที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 100 เมตร และละเว้นการกระทำใดๆ ที่ขัดขวางการปฏิบัติงานและกีดขวางทางเข้า-ออกโรงพยาบาล
 4.  ผู้บาดเจ็บไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม และผู้ที่เข้าให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ จะต้องได้รับการคุ้มครองความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการนำส่งเพื่อการ รักษาอย่างทันท่วงทีจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
 5.ขอให้ทุกฝ่ายยุติการ กระทำที่ไม่ถูกต้องตามหลักสากลโดยทันที และขอให้กำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ตามหลัก มนุษยธรรมโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย

นายกแพทยสภา กล่าวอีกว่า จริงๆ แล้วแนวปฏิบัติด้านการแพทย์ในยามเกิดเหตุความไม่สงบ กาชาดสากลได้ออกสนธิสัญญาเจนีวา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1949 หรือ พ.ศ.2492 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ระบุแนวปฏิบัติ 3 ข้อหลัก คือ 1.รถพยาบาล โรงพยาบาล และบุคลากรด้านการแพทย์เป็นกลาง ต้องได้รับการคุ้มครองจากทุกฝ่าย 2.ประชาชนที่เข้าช่วยเหลือผู้ป่วยต้องได้รับการคุ้มครอง และ3.ผู้บาดเจ็บและผู้ป่วยต้องได้รับการช่วยเหลือ ผู้ชุมนุมอาจจะไม่รู้และไม่ได้มีการศึกษาในเรื่องหลักสากลเกี่ยวกับเรื่อง นี้

แต่ในที่ชุมนุมมีบุคลากรทางการแพทย์ อยู่จำนวนไม่น้อย ซึ่งมั่นใจว่า รู้หลักเกณฑ์สากลเป็นอย่างดี จึงควรแนะนำให้ผู้ชุมนุมคนอื่นรู้จะได้ไม่กระทำสิ่งที่เป็นการละเมิดหลัก สากล และหวังว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก  สิ่งที่ผู้ชุมนุมบุกค้นโรงพยาบาลอาจเป็นเพราะความเครียด ทำให้เกิดการหวาดระแวงเห็นอะไรขยับก็กลัว หากเป็นเช่นนี้เรื่อยๆก็เสี่ยงที่จะมีอาการทางจิตชนิดหวาดระแวงได้

"เชื่อว่าผู้ที่เป็นแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ ถูกสั่งสอนมาให้มีจิตสำนึกในเรื่องนี้ทุกคน การที่สภาวิชาชีพออกแถลงการณ์น่าจะเพียงพอ ที่จะทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีจิตสำนึกและรู้ว่าเป็นการกระทำที่ผิด พร้อมที่จะแก้ไขให้เป็นไปตามหลักสากล เพราะแม้แต่ในประเทศที่เป็นคอมมิวนิสต์ก็ไม่มีใครไปยุ่งกับบุคลากรทางการ แพทย์และรถพยาบาล  ที่ผ่านมานับแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ไม่เคยมีประเทศไหนกระทำการเช่นนี้มาก่อน เนื่องจากรู้ดีว่าหากละเมิดจะถูกประเทศต่างๆรุมประณามอย่างหนัก ขายหน้าทั่วโลก” นายแพทย์สมศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า  แกนนำผู้ชุมนุมในการบุกค้นโรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นส.ส.มีความเหมาะสมหรือไม่ นายกแพทยสภา ตอบว่า ส.ส.ไม่ควรกระทำการเช่นนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าส.ส.มีความรู้เรื่องหลักสากลนี้หรือไม่ จึงเตรียมส่งสนธิสัญญาเจนีวาไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ส.ส.มีความรู้ ความใจในแนวปฏิบัตินี้ด้วยเช่นกัน


view