สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ความต่างในสถานะ กาญจน์ เดียวกัน

จาก โพสต์ทูเดย์

ทุกการเดินทางย่อมมีจุดหมายเป็นตัวกำหนดจุดสิ้นสุด แต่ในระหว่างย่างก้าวที่เดินไป ยังมีรายละเอียดอยู่มากมายที่ทำให้ระยะเวลาในการเดินของแต่ละคนต่างกัน

โดย...พิชญา พฤกษถานนท์กุล

ทุกการเดินทางย่อมมีจุดหมายเป็นตัวกำหนดจุดสิ้นสุด แต่ในระหว่างย่างก้าวที่เดินไป ยังมีรายละเอียดอยู่มากมายที่ทำให้ระยะเวลาในการเดินของแต่ละคนต่างกัน เหมือนการเดินชมน้ำตกเอราวัณครั้งนี้ เราใช้เวลาเดินเที่ยวในน้ำตกเอราวัณชั้น 1 เท่ากับคนที่สามารถเดินขึ้นไปพิชิตน้ำตกชั้น 7 ได้ ไม่ใช่เพราะเขาวิ่งไป หรือเพราะเรานั่งต่อเวลาให้ แต่เป็นเพราะเราเลือกที่จะเดินไปอย่างช้าๆ เพื่อให้ได้รู้ว่า ที่นี่คือ...สวรรค์กลางไพร ณ จ.กาญจนบุรี

น้ำตก ห้วยแม่ขมิ้นชั้นที่4

เวลาที่มีอยู่เพียง 2 ชั่วโมง บางคนเลือกที่จะหาทำเลดีๆ น้ำใสๆ แล้วหย่อนตัวลงไปสัมผัสบรรยากาศอันเย็นฉ่ำที่ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยป่าสีเขียว ขจี แต่บางคนกลับเลือกที่จะมองหา ค้นหา และตามหาสิ่งที่สวยงามที่สุดเพียงเพื่อจะบันทึกภาพประทับใจไว้ผ่านชัตเตอร์ ของเขา บ้างเลือกไม่เดินตามทางหลัก บ้างเดินฝ่าดงแมกไม้ บ้างยอมลงทุนเปียกน้ำ หรือบางคนก็อาจมองเพียงจุดหมายที่ต้องไปพิชิตจึงตั้งหน้าตั้งตาเดินไปให้ถึง สวรรค์ชั้น 7 ซึ่งสุดท้ายเมื่อเวลาหมดลงคนที่ยังต้วมเตี้ยมอยู่ที่ชั้น 1 หรือคนที่ได้ประกาศชัยชนะเหนือยอดน้ำตกก็ไม่ได้มีใครดีใจอะไรไปกว่าใคร เพราะต่างก็มีความสุขในแบบที่ตนเลือกเอง

ในรายละเอียดเล็กๆ ของสองข้างทางที่คนเดินผ่านมันไปอย่างรวดเร็ว สำหรับคนที่เดินช้าก็จะได้พบว่ายังมีเรื่องราวซ่อนเอาไว้อยู่มากมาย เพียงแค่เราต้องค่อยๆ มองหาถึงจะเจอ ไม่ว่าจะเป็นดอกเห็ดเล็กๆ ที่ขึ้นอยู่ตามขอนไม้ที่ผุพัง มะเดื่อป่าที่ออกผลสีแดงตัดสลับกับสีเขียวของป่า แมลงปอสีฟ้าที่ใช้ชีวิตอย่างเย็นใจอยู่ริมน้ำ หรือแม้แต่การเงยหน้ามองกิ่งก้านของต้นไม้ที่ให้ร่มเงา ก็ล้วนสร้างความสุขใจให้กับผู้ที่พบเห็นได้ แล้วถ้าหากเรามัวแต่เดินไปข้างหน้าเพื่อไปให้ถึงจุดหมายเพียงอย่างเดียว ความสวยงามของธรรมชาติเหล่านี้เราก็ไม่อาจมองเห็นได้ แต่ก็เช่นเดียวกันหากเวลาหมดลงแล้วยังไปไม่ถึงจุดหมาย เราก็ไม่อาจได้ชมความงามของปลายทางเช่นเดียวกัน

จากน้ำตกเอราวัณข้ามผ่านกำแพงปราการฝีมือมนุษย์เหนือเขื่อนศรีนครินทร์ เพื่อมาอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขาและน่านน้ำบนเรือเร็วที่แล่นจากหัว เขื่อนไปยังกลางเขื่อนได้ไม่ถึงชั่วโมง เราก็จะได้พบกับเส้นทางรถยนต์ ให้นั่งรถไปผ่านดงไผ่และน้ำตกสายเล็กๆ ที่ไหลต้อนรับนักท่องเที่ยวก่อนจะมาถึง ณ บริเวณที่ทำการอุทยานเขื่อนศรีนครินทร์ ที่มีจุดเด่นอยู่ที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นทั้ง 7 ชั้น ที่ยังคงความสวยงามจากธรรมชาติอยู่

โดยเฉพาะน้ำตกที่อยู่ชั้นเดียวกันกับที่ทำการซึ่งเป็นน้ำตกชั้นที่ 4 ที่มีชื่อว่า ฉัตรแก้ว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์ของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เพราะมีความยิ่งใหญ่สวยงามและสามารถเดินไปชมได้ง่าย จากชั้นกลางของน้ำตก ก็ต้องมาเลือกว่าจะเดินขึ้นหรือจะเดินลง ซึ่งการตัดสินใจย่อมเป็นไปตามมติคนหมู่มากที่ร่วมทริป จึงได้เดินลงไหลตามกระแสมวลชนลงสู่พื้นที่ด้านล่างของน้ำตก แต่เราก็ยังจะไหลลงอย่างช้าๆ เพราะจะคอยแวะดูโน่น ชมนี่ แต่บางคนก

บันทึก ภาพเหนือเขื่อนศรีนครินทร์

อาจจะแวะนานหน่อยเพราะอดใจไม่ไหวแล้ว จึงขอลงเล่นน้ำที่ชั้น 3 อย่างไม่สนใจใคร ส่วนเราก็เดินต่อไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่อุทยาน

“น้ำตกแห่งนี้เป็นเส้นทางน้ำตามธรรมชาติ มนุษย์ไม่ได้เข้ามาปรับแต่งมาก ยามเมื่อถึงปลายฝนต้นหนาวน้ำที่นี่จะกลายเป็นสีเขียวมรกต แต่บางครั้งน้ำก็จะมุดจากน้ำตกชั้น 5 มาโผล่อีกทีที่น้ำตกชั้น 2 จึงทำให้น้ำตกแห่งนี้มีแนวโน้มที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้อีกครั้ง เนื่องจากมีการกัดเซาะของน้ำใต้ผิวดิน” เจ้าหน้าที่อุทยานเล่าให้ฟัง

สิ้นเรื่องเล่าเจ้าหน้าที่ก็บอกให้เราหยุดเดิน เราที่มีมุมมองในระดับสายตาก็ได้แต่มองไปรอบๆ ด้วยความสงสัย แต่ไม่ทันไรเจ้าหน้าที่ก็ก้มลงหยิบเจ้าตัวอ่อนของด้วงขึ้นมาให้ชม จึงทำให้รู้ว่า การที่เรามัวแต่มองไปข้างหน้าอย่างเดียว โดยที่ไม่สนใจมองให้ทั่ว ก็อาจทำให้เราพลาดที่จะมองเห็นอะไรดีๆ แบบนี้ไปได้ โดยเฉพาะเมื่อมีโอกาสมาเดินป่า หากเราไม่รู้จักสังเกต เราอาจได้รู้แค่ว่าได้มาป่า แต่อาจจะไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ที่นี่เป็นป่า

การเดินทางในครั้งนี้ขอขอบคุณบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่เชิญมาร่วมโครงการประกวดภาพถ่าย “สัตว์มีค่า ป่ามีคุณ” ครั้งที่ 16 ณ จ.กาญจนบุรี

view