จาก โพสต์ทูเดย์   

ถ้าลองนำหลักคำสอนของพระพุทธศาสนามาปรับใช้ โดยยกระดับและพัฒนาจิตใจของคนในองค์กร ส่งเสริมให้ใช้หลักธรรมในการแก้ปัญหา เชื่อว่าจะส่งผลดีในระยะยาว

โดย...วรธาร ทัดแก้ว

มีฝรั่งคนหนึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทขุดเจาะน้ำมันในไทย มีความสนใจและศึกษาพระพุทธศาสนามานาน จนสามารถนำหลักคำสอนของพระพุทธศาสนามาใช้ในการบริหารงานภายในองค์กรจนได้ผล เป็นที่พอใจ และสร้างความประทับใจให้กับพนักงานในองค์กรและบุคคลภายนอกองค์กร เขาคนนั้นคือ จอห์น กริฟฟิทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิวคอสตอล (ประเทศไทย) มาดูว่าเขาบริหารอย่างไร

ประทับใจพุทธศาสนา

จอห์น กริฟฟิทธ์

จอห์นเล่าความสนใจพระพุทธศาสนาว่า เกิดขึ้นจากครั้งหนึ่งมีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา กับเพื่อนคนไทยเมื่อหลายปี แล้วรู้สึกประทับใจในความสามัคคีของชาวพุทธที่มาร่วมกิจกรรมมากมาย และจากที่ได้ฟังธรรมในวันนั้นก็มีความรู้สึกว่าจิตใจมีความสงบเป็นพิเศษ ต่อมาจึงได้เริ่มศึกษาพระพุทธศาสนาจริงจัง จากหนังสือทางพระพุทธศาสนาต่างๆ เรื่อยมาถึงปัจจุบัน

“พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ทุกคนรู้จักปล่อยวาง สอนให้ยินดีพอใจในสิ่งที่ตนมี ไม่ให้โลภมากอยากได้ในของคนอื่น สอนให้มองและปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกันโดยปราศจากอคติ สอนให้ใช้ปัญญาในการแก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิตซึ่งมีกระบวนการที่ชัดเจนตามหลักอริยสัจ 4 สอนให้ลดละความโกรธด้วยจิตสงบและเมตตา และสอนว่าคนเราควรจะปฏิบัติต่อตัวเองและผู้อื่นด้วยหลักของศีลธรรม”

จากมุมมองนี้ทำให้เขาเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ และเริ่มศึกษาถึงการนำวิถีพุทธมาปรับใช้ในการบริหารงานโดยเริ่มจากตัวธุรกิจ เอง ให้ความเป็นธรรมกับพนักงาน ไม่ถือตนเป็นใหญ่ แต่เปิดกว้างเพื่อรับฟังความคิดเห็นของทุกคนมากขึ้น

ใช้หลักธรรมาธิปไตย

จอห์น บอกว่า หลักที่ยึดเป็นแนวทางในการบริหารมาตลอดคือ หลักธรรมาธิปไตย (Meritocracy) ซึ่งก็ได้แก่การถือหลักการความจริง ความถูกต้อง ความดีงาม และเหตุผลเป็นใหญ่ การกระทำในสิ่งต่างๆ ที่ได้มีการศึกษาตรวจสอบตามข้อเท็จจริง และความคิดเห็นที่ได้รับฟังอย่างกว้างขวางแจ้งชัดและพิจารณาอย่างดีที่สุด มองด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า เป็นไปโดยชอบธรรมและเป็นธรรม

“การจะทำอะไรก็ตามต้องศึกษาค้นคว้าวิเคราะห์ข้อเท็จจริงเสียก่อนโดยอาศัย การมีส่วนร่วม การรับฟัง พิจารณาอย่างกว้างขวางและบริหารด้วยความเป็นธรรมและถูกต้องถูกธรรม”
นอก จากนี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิวคอสตอล (ประเทศไทย) ยังมองว่า การมีส่วนร่วมนั้นถือเป็นปรัชญาพื้นฐานของชาวตะวันออก และพุทธศาสนาก็เช่นกันเน้นที่ความสามัคคี เน้นการทำงานเป็นทีม (Group) เป็นหลัก เช่น เวลาที่พระสงฆ์ทำสังฆกรรมต่างๆ ก็พร้อมเพรียงกันทำ หรือสังคมแบบพุทธก็เน้นสามัคคี เช่น เหตุการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมามีนักศึกษา ประชาชน ดารา กว่าพันคนมารวมตัวกันทำความสะอาดเมืองเป็นภาพที่วิเศษมาก นั่นคือหลักของการทำงานร่วมกัน และความมีจิตอาสาในแบบของชาวพุทธ

“สำหรับผมเองในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เหมือนบริหารในท่ามกลางวิกฤตด้วยปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับชุมชนกลุ่ม หนึ่ง ซึ่งเขาได้รับให้ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับการทำงานของเรา และในวิกฤตนั้นผมหันมาปลูกฝังและเสริมสร้างจริยธรรมให้เกิดขึ้นกับทุกคนใน องค์กรโดยไม่รู้ตัว พยายามคุยและอยู่กับพนักงานทุกคนอย่างเพื่อน อย่างพ่อลูก เนื่องจากพนักงานเกือบทั้งหมดเป็นคนไทย”

ต้องมีธรรมในใจก่อน

จอห์น เล่าว่า ปัญหาความขัดแย้งทั้งหลายที่เกิดขึ้น ถ้าทุกคนคิดว่าทุกคนอยู่ในบ้านหลังเดียวกันก็ต้องหันหน้าหากัน เข้ามาคุยกัน ด้วยหลักของเหตุและผล ปัญหาก็จะได้รับการแก้ไขที่ง่ายขึ้น ความสุขก็จะเกิดขึ้นตามมา ส่วนความโกรธหรือการกล่าวโทษนั้น ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ซ้ำร้ายอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปทุกขณะ

“ผมเชื่อว่าการบริหารคนและการบริหารงานที่สำคัญคือ ตัวเราต้องมีธรรมในใจก่อน และเชื่อว่าธรรมนั้นสามารถเปลี่ยนจิตใจคนได้ และการจะทำให้ชีวิตและหน้าที่การงานดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ก็ต้องไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน ต้องรู้จักความพอดี และมีความเป็นธรรม”

เขามองว่าโลกทุกวันนี้กำลังลุกโชนไปด้วยไฟแห่งความโกรธแค้น อันเกิดจากความขัดแย้งนานาประการ ทำให้การใช้ชีวิตมีความยากลำบากขึ้นทุกขณะ จึงอยากให้ทุกคนหมั่นเจริญสติทุกวัน เพราะถ้าไม่หมั่นเจริญสติแล้วงานที่ทำก็จะออกมาไม่มีประสิทธิภาพ บางครั้งก็ไม่สามารถทำงานกันต่อไปได้ แต่ถ้าทุกคนได้ฝึกสติกันก็เชื่อว่าจะพูดกันด้วยเหตุด้วยผล ต่างฝ่ายต่างเห็นใจซึ่งกันและกัน และมีการช่วยเหลือกันเกิดขึ้น

“มันจะเป็นสิ่งที่ดีมากถ้าองค์กรต่างๆ ในปัจจุบันมุ่งเน้นการพัฒนาที่ตัวบุคคลมากกว่าผลงาน เพราะว่าการมุ่งเน้นพัฒนาที่ผลงานอย่างเดียวจะทำให้ขาดการพัฒนาศักยภาพ และเพิ่มคุณค่าของคนในองค์กร ส่งผลให้เกิดการแก่งแย่งแข่งขันกัน เบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่นจนเกิดปัญหาไม่สิ้นสุด”

กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิวคอสตอล ให้หลักคิด ถ้าลองนำหลักคำสอนของพระพุทธศาสนามาปรับใช้ โดยยกระดับและพัฒนาจิตใจของคนในองค์กร ส่งเสริมให้ใช้หลักธรรมในการแก้ปัญหา เชื่อว่าจะส่งผลดีในระยะยาวทั้งต่อองค์กรและบุคลากรในองค์กร เพราะทุกคนสามารถทำงานร่วมกัน และสร้างความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ที่เราเกี่ยวข้องด้วยอย่างบริสุทธิ์ใจและเกิดความสุขอย่างแท้จริง