จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ market move

โคคา-โค ลา ผู้ผลิตเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลกตกลงที่จะทุ่มเงิน 715 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายสินค้าบางส่วนให้กับบรรดาแบรนด์ชื่อดังจาก "ดร.เปปเปอร์ สแน็ปเปิล กรุ๊ป"

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีต เจอร์นัล รายงานว่า ส่วนหนึ่งของดีลนี้ทำให้แบรนด์อย่าง "ดร.เปปเปอร์" และ "ไดเอท ดร.เปปเปอร์" ยักษ์ใหญ่น้ำอัดลมอีกราย ในสหรัฐจะกลายเป็นแบรนด์สินค้าชนิดเดียวที่ไม่ใช่แบรนด์ของโคคา-โคลา ที่สามารถเข้าไปจำหน่ายผ่านตู้กดน้ำอัดลมฟรีสไตล์สุดไฮเทค

ความ พิเศษของเจ้าเครื่องนี้คือ ใช้ระบบทัชสกรีน ที่ผู้บริโภคสามารถผสมน้ำอัดลมได้ถึง 100 รสชาติที่แตกต่างกัน

โค้ก ยังได้ทำข้อตกลงที่จะนำแบรนด์ของ ดร.เปปเปอร์บางส่วนไปจำหน่ายให้กับลูกค้าท้องถิ่นผ่านเครื่องจำหน่ายน้ำอัด ลมแบบกด อาทิ เชนร้านอาหารขนาดเล็กซึ่งเป็นช่องทางที่ ดร.เปปเปอร์ต้องดิ้นรนหาพื้นที่ใหม่เพื่อเพิ่มรายได้ เนื่องจากเป็นช่องทางที่คู่แข่งเป็นผู้คอนโทรล ขณะที่ช่องทางที่ ดร.เปปเปอร์แข็งแกร่งจะเน้นไปที่แบบขวดและกระป๋องที่ขายในร้านค้าปลีกต่างๆ

"การ ร่วมมือกับโค้กเพื่อเพิ่มช่องทางขายผ่านเครื่องจำหน่ายน้ำอัดลมแบบกดถือเป็น วิธีที่ดีที่สุดในการทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสทดลองสินค้าของเรา" โฆษกของทาง ดร.เปปเปอร์ฯระบุ

ดร.เปปเปอร์ สแน็ปเปิล มีฐานการผลิตอยู่ในรัฐเทกซัส เป็นบริษัทบรรจุขวดและจัดจำหน่ายที่ผนึกกันระหว่างบริษัทและ ผู้จัดจำหน่ายรายย่อยทั่วไปที่เป็นพันธมิตร ซึ่งการบาลานซ์สัดส่วนดังกล่าวค่อนข้างลำบาก เพราะถูกควบคุมโดยบรรดาผู้จัดจำหน่ายคู่แข่งที่ต่างเป็นบริษัทบรรจุขวดใน เครือข่ายของโค้กและเป๊ปซี่

ทั้งนี้ เห็นได้ชัดว่ากลยุทธ์ตลอดหลายปีที่ผ่านมาทั้งโค้กและเป๊ปซี่ ต่างเดินหน้าซื้อบริษัทบรรจุขวดของผู้ประกอบการอิสระ ยักษ์ใหญ่ทั้งหลายเข้าเป็นของตัวเอง สิ่งนี้เองเป็นตัวกระตุ้นให้ ดร.เปปเปอร์ต้องทำข้อตกลงเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบการจัดจำหน่ายของบริษัท โดยหันมาเป็นพันธมิตรกับทั้งโค้กและเป๊ปซี่มากขึ้น

เดือนธันวาคมปี ที่แล้ว เป๊ปซี่ โค ทุ่มงบฯ 900 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้กับ ดร.เปปเปอร์ สแนปเปิล เพื่อถือครองสิทธิ์ในการผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์ของ ดร.เปปเปอร์ สแน็ปเปิล กรุ๊ป เป็นเวลา 20 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับข้อตกลงใหม่ที่บริษัททำกับโค้ก ซึ่งทั้ง 2 ค่าย ต่างกระตือรือร้นในการคงสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายสินค้าไว้ให้ได้

จริง ๆ แล้วดร.เปปเปอร์ และไดเอท ดร.เปปเปอร์ นั้นถือเป็นแบรนด์ที่มีลอยัลตี้สูงมาก โดยเป็น 1 ใน 10 ของแบรนด์ซอฟต์ดริงก์ ที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดในสหรัฐ จากข้อมูลของ "เบฟเวอเรจ ไดเจสท์" บริษัทวิจัย ระบุว่า สิทธิในการจัดจำหน่ายแบรนด์เหล่านี้สามารถตัดสินความเป็นผู้นำตลาดใน หลาย ๆ ตลาดในสหรัฐอเมริกาได้เลยทีเดียว โดยแต่ละบริษัทก็ต้องไปต่อสู้กันในค้าปลีกต่าง ๆ อีกรอบหนึ่ง

โดย โค้ก เชื่อว่า ดีลครั้งนี้จะทำให้การขยายตัวของตู้กดน้ำอัดลมฟรีสไตล์แมชชีนนั้นเป็นไป อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น หลังจากทำได้เชื่องช้าในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบันมีจำนวนเครื่องที่วางอยู่ทั้งสิ้น 69 เครื่อง ใน 53 โลเกชั่น ซึ่งโค้กหวังว่าจะวางได้ถึง 500 เครื่อง ในสิ้นสุดฤดูร้อนนี้

"เกรย์ ฟายาด" ประธาน เจ้าหน้าที่บริหารของโค้กระบุว่า บริษัทตื่นเต้นมาก ว่า ดร.เปปเปอร์จะปรากฏตัวในตู้กดสุดไฮเทคของโค้ก ซึ่งจะเพิ่มยอดขายและทางเลือก ให้กับผู้บริโภค