สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เปิด มุมมองบิ๊กขนส่ง ทองอยู่ คงขันธ์ ตั้งบริษัทกลางแก้ปัญหา รถเที่ยวเปล่า

จากประชาชาติธุรกิจ



ธุรกิจ ประกอบการขนส่งสินค้าในสายตาของนักธุรกิจทั่วไปต่างมองว่าเป็นธุรกิจที่ไม่ มีอนาคต เพราะมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ทั้งทางด้านราคาและบริการ ในขณะที่ปริมาณรถบรรทุกมีมากกว่าปริมาณสินค้า ที่จะขน สำนักโลจิสติกส์เมื่อเร็ว ๆ นี้ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) จึงจัดสัมมนาเรื่อง "การบริหารจัดการเที่ยวรถขนส่ง และการตรวจสอบสถานะพาหนะที่ใช้ขนสินค้า" ขึ้น โดยเชิญนายทองอยู่ คงขันธ์ เลขาธิการสหพันธ์ การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย มาเปิดเผยถึงมุมมองในการบริหารและการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ดังนี้

นาย ทองอยู่ คงขันธ์ เลขาธิการสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการบริหารจัดการเที่ยวรถขนส่งและการตรวจสอบสถานะพาหนะที่ใช้ขน สินค้าว่า การบริหารจัดเที่ยวขนส่งในมุมมองบ้านเราหลงทิศทางกันมานาน จริง ๆ แล้วไม่ได้อยู่ที่รถ ตัวที่จะทำให้การบริหารเที่ยวรถขนส่งประสบความสำเร็จ คือ ตัวสินค้าเป็น ตัวกำหนด

ในไทยผู้ประกอบการที่มีสินค้าอยู่ใน ทิศทางกระจาย ผลิตสินค้าสำเร็จรูปมาก จะจัดการโลจิสติกส์ได้ดี ฉะนั้นหากผู้ผลิตพลิกตัวเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ (logistics service provider : LSP) จะทำได้ดี สังเกตง่าย ๆ ในเมืองไทยเป็นตัวอย่าง เช่น เครือซิเมนต์ไทย (SCG) มีตัวสินค้าเป็นตัวหลัก การบริหารจัดการเที่ยวรถขนส่งจะทำได้ดีมาก หรือของกลุ่มเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ กลุ่มเบียร์ช้าง อย่างนี้เป็นต้น

ฉะนั้น ถ้าเรามีสินค้า มีศูนย์กระจายสินค้ามาก มีเครือข่ายมาก นั่นคือการบริหารจัดการเที่ยวรถขนส่งได้ดี การบริหารจัดการเที่ยวรถขนส่งในไทยมีอยู่ 2 ประเภท ประเภทแรกคือ รถขนส่ง เหมาเที่ยว ขาไปก็มีสินค้า ขากลับก็มีสินค้า (round trip) ประเภทที่ 2 คือ รถขนส่งเหมาเที่ยว ขาไปมีสินค้า แต่ขากลับไม่มีสินค้า (single trip) ยกตัวอย่าง ส่งสินค้าไปมาเลเซีย หรือไปบ่อนอก ที่ทำอยู่เอาคอนเดนเซอร์จากกรุงเทพฯไป ขากลับเป็นอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ แต่ต้องรอสินค้าจากมาเลเซีย 3 วันกลับมา ไม่อย่างนั้นไม่คุ้ม



การ ขนส่งบ้านเรา ขาไปมีสินค้า แต่ขากลับไม่มีสินค้า คือ การขนส่งด้วย ตู้คอนเทนเนอร์ การขนส่งด้วยตู้ คอนเทนเนอร์ ผู้ประกอบการไม่ได้เป็นเจ้าของ packaging คือตู้คอนเทนเนอร์เป็นของสายการเดินเรือ อยู่ในอารักขากรมศุลกากร จึงควรไปแก้กฎหมายศุลกากร พ.ศ. 2496 ให้ผู้ประกอบการสวอปตู้ไปขนสินค้าอื่นได้ เช่น ส่งสินค้าไปเชียงใหม่ ขากลับก็ควรเอาลำไยใส่ตู้มาขายกรุงเทพฯได้ เป็นต้น

การบริหารจัดการ เที่ยวรถขนส่ง เวลาจัด fleet ของรถจะเหมือนการจัดการของ กองทัพ เวลาทำระบบบำรุงรักษาก็เหมือนกับเอาคนเข้าโรงพยาบาล เวลาเอารถไปซ่อมเปรียบเหมือนเข้าโรงพยาบาล ต้องเอาประวัติการซ่อมมาดู ซ่อมซ้ำหรือไม่ เวลาซ่อมเหมือนจัดเดินทัพ รถต้องพร้อม คนต้องพร้อม สินค้าพร้อม อีกอันหนึ่งที่เข้ามาช่วย คือ เครื่องมือสื่อสาร เป็นการบริหารจัดการเที่ยวรถให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำหรับเรื่อง การตรวจสอบสถานะยานพาหนะ สมัยก่อนที่ตนเข้ามาทำงานใหม่ ๆ ปี 2519 ตอนนั้นขนน้ำมัน วิธีการคือ ให้คนขับรถไปบอกคนรับสินค้า ณ จุดต้นทางและปลายทาง ขออนุญาตโทรศัพท์กลับมา เพราะสมัยนั้นไม่มีแพ็คลิ้งค์ โทรศัพท์มือถือ บอกว่าน้ำมัน 1.6 หมื่นลิตรส่งผู้รับปลายทางแล้ว จนมาถึงการใช้มือถือ และสุดท้ายคือ การใช้ระบบ GPS/GPRS เพื่อตรวจสอบสถานะของรถ ใช้ตรวจสอบสถานะยานพาหนะของรถบรรทุก ณ ต้นทาง ตรวจสอบระหว่างการขนส่ง ตรวจสอบ ณ ปลายทาง และตรวจสอบประสานงานต้นทางและปลายทาง ต่อไปที่จะเอามาตรวจสอบรถเที่ยวเปล่า (back haul) นั่นคือ โครงข่ายการจัดการเที่ยวรถขนส่งจึงมีเพียงแค่นี้ ส่วนท่านจะไปแตกเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ท่าน

ส่วนการบริหารจัดการ เที่ยวรถ คอนเทนเนอร์ก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ท่านต้องเชื่อมผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ท่าเรือ โรงงานอุตสาหกรรม

ขนส่งอีกประเภทหนึ่งเป็นสินค้า โชห่วย คุณก็ต้องไปมองผ่านตัวละครในระบบการจัดเที่ยวขนส่งของคุณมีอะไรบ้าง เช่น ศูนย์กระจายสินค้าอาจเป็นของท่านหรือของโลตัส บิ๊กซี หรือต้องมีการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบหรือเปล่า

การจัดการขนส่ง ถ้าท่านทำ round trip ได้มากกว่า 60% ท่านมีกำไรและอยู่รอด แต่ถ้าท่านทำ round trip ไม่ได้ ขาไปมีสินค้า ขากลับไม่มีสินค้า โอกาสที่จะบริหารจัดการขนส่งให้ประสบความสำเร็จเป็นไปได้ยาก ถ้าไม่มีตัวสินค้าบริหารยากมาก เพราะว่า 1.เป็นฤดูกาล 2.ปริมาณสินค้าส่งออกที่ไม่แน่นอนขึ้น ๆ ลง ๆ เพราะคำสั่งซื้อจากต่างประเทศไม่แน่นอน packaging ไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าจะเสร็จ หรือไม่เสร็จ หรือมีการตรวจสอบ หรือมีเจ้าหน้าที่มาเกี่ยวข้อง เป็นต้น

การบริหารจัดเที่ยวขนส่งบ้าน เรา พึ่งพาทางถนนค่อนข้างมาก ถนนของกรมทางหลวงมีอยู่ 54,000 กิโลเมตร กรมทางหลวงชนบทมีอยู่ 64,000 กิโลเมตร ทั่วประเทศมีถนน 100,000 กิโลเมตรเศษ ถ้าเอารถบรรทุกมาต่อท้ายกัน 790,000 คัน ซึ่งเป็นสถิติที่กำลังจะเผยแพร่ในปีนี้ ยาวกว่าถนนที่จะวิ่ง แต่การขนส่งทางถนนมีต้นทุนสูงสุด ฉะนั้นการเน้นไปที่การขนส่งอื่น ๆ น่าจะได้ผลกว่า เช่น การขนส่งทางน้ำและการขนส่งทางราง ซึ่งเราก็ทำกันอยู่ แต่ตนคิดว่าทางบกกับทางน้ำมีโอกาสค่อนข้างสูง โดยเฉพาะการขนส่งชายฝั่ง การขนส่งทางราง ตนคิดว่าอีกนาน ตนไม่อยากพาดพิงการรถไฟฯมาก เพราะการรถไฟฯเองมีปัญหาเรื่องหนี้สูงมาก และปัญหาเรื่องกฎหมายในการร่วมทุนกับเอกชน

การขนส่งทางน้ำหรือเรือ ชายฝั่ง น่าจะพัฒนาได้เร็ว ซึ่งไทยมีถึง 24 จังหวัดที่อยู่ติดชายทะเล การขนส่งทางเรือจากสุราษฎร์ธานีมาเกาะสีชังและท่าเรือ แหลมฉบังเมื่อก่อนมีน้อย เดี๋ยวนี้ค่อน ข้างมาก ทำให้ลดต้นทุนขนส่งได้มาก

อีก เรื่องหนึ่งคือ การแก้ปัญหาขนส่งเที่ยวเปล่าของไทย (อ่านตารางประกอบ) นายนิกร จำนง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ริเริ่มเมื่อ 7 ปีก่อน ก็ยังวนเวียนทำไม่ได้ ปัญหาคือว่า ถ้าจะลดการขนส่งเที่ยวเปล่า โครงข่ายจะอยู่ที่ไหน เช่น อยู่ที่กรมการขนส่งทางบก คุณจะจับคู่แต่งงานกัน ผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการ เขาไม่รู้จักหน้าค่าตากัน เจ้าของสินค้าก็ต้องคิดว่า สินค้าเขาจะถึงปลายทางไหม เรียบร้อยดีไหม ผู้รับขนส่งก็ต้องคิดว่า จะเก็บเงินได้ตามจำนวนหรือเปล่า สรุปคือ ไม่ได้แต่งงานกัน สิ่งเหล่านี้จึงไม่เกิด

Truckcenter.com ของกรมการขนส่งทางบกไม่เกิด เพราะจับทั้งคู่ที่ไม่รู้จักกันมาแต่งงานกัน ต้องมีตัวกลางมาการันตีว่าสินค้าถึงจุดหมายปลายทางแน่นอน และคนส่งจะได้รับเงินอย่างแน่นอน ถ้าไม่ได้คนกลางตามไปจ่าย ปัจจุบันกรมส่งเสริมการส่งออก กำลังดำเนินการให้จังหวัดขอนแก่นและสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทยนำ ร่องตั้งบริษัทกลางขึ้นมา ซึ่งคงจะเห็นรูปแบบเร็ว ๆ นี้

view