สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ชำแหละโพลแห่งชาติเปิดพื้นที่ระบายความอัดอั้น

จาก โพสต์ทูเดย์

โจทย์ข้อนี้ดูเหมือนจะให้ประชาชนเขียนระบายความในใจอย่างเต็มที่ โดยเปิดพื้นที่ไว้ถึงหนึ่งหน้ากระดาษเอ 4 ระบายความอัดอั้นได้ถึง 3 เรื่อง

โดย...ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว

ตามขั้นตอนเติมเต็มแผนปรองดองแห่งชาติ นอกจากตั้งคณะกรรมการหลายคณะขึ้นมาทำงาน อีกส่วนหนึ่งเห็นจะเป็นการจัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นประชาชน หรือ “โพลแห่งชาติ”

ล่าสุดสำนักงานสถิติแห่งชาติจัดทำแบบสำรวจเรียบร้อยแล้ว และระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบถามประชาชนตั้งแต่วันที่ 18-24 มิ.ย.

แบบสอบถามนี้จะสุ่มสำรวจกลุ่มตัวอย่างหลากหลายสาขาอาชีพจำนวน 1 แสนคน จากทุกจังหวัดทั่วประเทศทั้งในเขตเทศบาลและนอกเขตเทศบาล ซึ่งการสำรวจจะทำไปพร้อมกับการจัดเวทีระดมความคิดเห็นเครือข่ายภาคประชาชน

จากนั้นจะมีการสำรวจรอบสองโดยสถาบันการศึกษา และสำนักงานสถิติแห่งชาติ จะทำการสำรวจครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งกับประชากร 20 ล้านครัวเรือน ในช่วงเดือน ต.ค.

แบบสอบถามนี้ใช้ชื่อว่า “การสำรวจความเดือดร้อนและความต้องการ ของประชาชน พ.ศ. 2553” เป็นเอกสารจำนวน 9 หน้า ที่น่าสังเกต ทีมงานพยายามหลบเลี่ยงการใช้ชื่อ “แบบสำรวจความคิดเห็นตามแผนปรองดอง” เพราะจะกินความหมายแคบเกินไป และการหาคำตอบแผนปรองดองอาจไม่ตรงตามเป้าหมาย

แบบสำรวจแบ่งเป็น 5 ตอน ตอนแรก เกี่ยวกับ ข้อมูลทั่วไปเหมือนกับแบบสำรวจทั่วไป เช่น เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ทิ้งท้ายด้วยการถาม ปกติท่านมีการออมเงินหรือไม่

ตอนที่ 2 ถามความเห็นเกี่ยวกับความเป็นอยู่ ลักษณะคำถาม ดูจะเข้าถึงความรู้สึกของหลายคน เช่น นอกจากจะถามถึงฐานะความเป็นอยู่ในปัจจุบัน ท่านคิดว่าอยู่ในสถานะใด โดยให้เลือกตอบ 1.รวย 2.มีฐานะดีกว่าคนส่วนใหญ่ แต่ไม่ถึงกับรวย 3.ปานกลาง 4.รายได้น้อยกว่าคนส่วนใหญ่ แต่ไม่ถึงกับจน 5.จน และ 6.ไม่รู้/ไม่แน่ใจ

ยังมีคำถามให้ชวนคิดอีก โดยถามว่า ทุกประเทศมีคนจนท่านคิดว่าคนจนส่วนใหญ่ในสังคมไทยจนเพราะอะไร (ตอบไม่เกิน 3 คำตอบ) ซึ่งมีให้เลือกตอบแบบเข้าใจง่าย ได้แก่ 1.เกิดมาจน 2.ไม่มีทุนประกอบอาชีพ 3.เรียนมาน้อย 4.หัวไม่ดี ไม่เก่งเท่าคนอื่น 5.ขี้เกียจ ไม่ขวนขวาย 6.ซื่อ ไม่ทันคน 7.ขาดโอกาส 8.ดวงไม่ดี ไม่มีโชค 9.ถูกเอาเปรียบ 10.ไม่มีพวก ไม่มีเส้นสาย 11.เข้าไม่ถึงทรัพยากร 12.อื่นๆ (ระบุ)

ตอนที่ 3 สอบถามถึงปัญหาความเดือดร้อนในปัจจุบัน โดยสอบถามว่าปัจจุบันท่านมีปัญหาความเดือดร้อนในเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้หรือไม่ แยกย่อยเป็นปัญหาด้านชีวิตความเป็นอยู่และครอบครัว ปัญหาด้านอาชีพ และการงาน ปัญหาด้านรายได้และหนี้สิน ปัญหาด้านการศึกษา ปัญหาด้านสภาพสิ่งแวดล้อม ปัญหาด้านอื่นๆ

ส่วนที่สามนี้ ต้องการให้ตอบว่า ปัญหาของท่านอยู่ในระดับใด ตั้งแต่ มาก ปานกลาง น้อย หรือไม่มีปัญหาเลย

อย่างเช่น ในข้อที่ถามถึงปัญหาด้านอื่นๆ ซึ่งดูจะสอดรับกับบรรยากาศการเมือง มีการสรุปปัญหาไว้ดังนี้ 1.ความขัดแย้งทางการเมือง 2.การทุจริตคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่รัฐ/นักการเมือง 3.อาชญากรรมในบริเวณชุมชน/หมู่บ้านที่อาศัย 4.ยาเสพติดในชุมชน/หมู่บ้านที่อยู่อาศัย 5.การนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน 6.การปิดกั้นสื่อ/การเข้าถึงสื่อไม่เท่าเทียม
7.ขาดจริยธรรมของสื่อในการ เผยแพร่ข่าวสาร 8.ขาดการควบคุมการเข้าถึงสื่อที่ไม่เหมาะสมในอินเทอร์เน็ต 9.ขาดการสนับสนุนสื่อที่มีคุณภาพ สำหรับเด็ก เยาวชนและสังคม 10.พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเด็กและเยาวชน 11.ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 12.อื่นๆ ระบุ

ตอนที่ 4 สิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ แบ่งเป็นเรื่องความต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจและความต้องการ ให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาด้านสังคม อย่างเช่น ความต้องการให้แก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจจะมีตัวเลือกให้พิจารณา อาทิ มาตรการลดภาระค่าครองชีพ หรือจะให้ช่วยเหลือ/เพิ่มสวัสดิการในการครองชีพ หรือปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ประกันราคาผลผลิตทางการเกษตร หรือมีแม้กระทั่งตั้งกองทุนดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ขาดแคลนเงินทุน/ภาระหนี้สิน ควบคุมการอนุมัติให้มีบัตรเดบิต เครดิต ฯลฯทั้งหมดทั้งปวงตอบได้ไม่เกิน 3 คำตอบ

ตอนที่ 5 นับเป็นไฮไลต์ เพราะจะเป็นเรื่องของสวัสดิการสังคมและโครงสร้างพื้นฐาน แบ่งเป็น 5 หัวข้อย่อย

ส่วนแรก ตั้งโจทย์ว่าตามที่รัฐบาลได้กำหนดมาตรการ/นโยบายต่างๆ ต่อไปนี้ มีความคิดเห็นเป็นอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่คัดนโยบายสำคัญของรัฐบาลปัจจุบันออกมาให้ประชาชนพิจารณา เช่น นโยบายเรียนฟรี 15 ปี โครงการโฉนดชุมชน/ที่ดินทางการเกษตร กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุ 500 บาทต่อเดือน โครงการธงฟ้าจำหน่ายสินค้าราคาถูก เป็นต้น

ผู้ตอบผลสำรวจ เลือกตอบ 3 ระดับ เหมาะสม ไม่เหมาะสม ไม่ทราบ อย่างไรก็ตามในกรณีผู้ตอบว่าไม่เหมาะสม ให้ระบุเรื่องที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการเพิ่มเติมอะไรบ้าง

ส่วนที่สอง ถามว่าปัจจุบันท่านคิดว่าสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในชุมชนหมู่บ้านของท่านเพียงพอหรือไม่ ซึ่งจะเน้นไปที่เรื่องระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์สาธารณะในหมู่บ้าน เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ฯลฯ โดยให้ตอบว่า เพียงพอ หรือไม่เพียงพอ ถ้าตอบไม่เพียงพอ ให้ระบุเหตุผลที่ไม่เพียงพอ ถ้าตอบว่า “ไม่มี” ให้บันทึก “ไม่มี”

ส่วนที่สาม ถามว่าหากรัฐบาลมีแนวคิดที่จะดำเนินการเรื่องต่างๆ ต่อไปนี้ มีความคิดเห็นเป็นอย่างไร โดยมี 2 โครงการด้วยกัน ได้แก่ ระบบรถไฟรางคู่ โครงข่าย 3จี ให้แสดงความคิดเห็น เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ไม่รู้จัก เหตุผลที่ไม่เห็นด้วย

ส่วนที่สี่ ถามกันแบบตรงๆ ในรอบปีที่ผ่านมาท่านเคยประสบปัญหาจากการให้บริการของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ได้แก่ การให้บริการโดยเลือกปฏิบัติ (ลำเอียง) การทุจริตคอร์รัปชันการเรียกรับสินบน การข่มขู่คุกคาม อื่นๆ ซึ่งจะมีช่องให้เลือกตอบ “เคย” หรือ “ไม่เคย” ช่องถัดไปให้ระบุอีกต่างหากว่า ประสบปัญหาจากเจ้าหน้าที่หน่วยใด

ส่วนที่ห้า เป็นลักษณะคำถามปลายเปิด กล่าวคือ ตั้งคำถามว่าปัจจุบันท่านมีความทุกข์หรืออัดอั้นตันใจในเรื่องใดบ้างที่ต้อง การให้รัฐบาลทราบ

โจทย์ข้อนี้ดูเหมือนจะเปิดโอกาสให้ประชาชนเขียนระบายความในใจอย่างเต็ม ที่ โดยเปิดพื้นที่ไว้ถึงหนึ่งหน้ากระดาษเอ 4 บอกเล่าความอัดอั้นได้ถึง 3 เรื่อง ตัวอย่างเช่น ประชาชนคนใดอึดอัดนายกฯ อภิสิทธิ์รูปหล่อเกินไป แต่บริหารงานไม่ได้ดั่งใจ หรือเห็นว่าแผนปรองดองเป็นแค่วาดฝัน แต่ไม่เป็นรูปธรรม ก็สามารถใช้เสรีภาพทางความคิด เขียนผ่านแบบสำรวจนี้ได้

เพราะสุดท้ายทั้งหมดจะนำเข้าสู่ขั้นตอนประมวลผล ซึ่งจะตอบโจทย์แผนปรองดองได้ว่าประชาชนคนทั้งประเทศต้องการแก้ไขปัญหาอะไร ก่อนหลัง และประเทศไทยจะเป็นไปในทิศทางใดก่อนกำหนดเป็นพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศต่อไป

view