จากประชาชาติธุรกิจ

การเดิน สายให้ความรู้แก่ร้านโชห่วยทั่วประเทศของสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้า ปลีกทุนไทย เซเว่นอีเลฟเว่น กรมการค้าภายใน และสถาบันเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ ไม่เพียงเป็นการต่อยอดการทำธุรกิจให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังเป็นการจุดประกายการสร้างธุรกิจให้กับ นักลงทุนหน้าใหม่

ล่า สุดในงานสัมมนา "ทำโชห่วยให้รวยอย่างยั่งยืน ครั้งที่ 8" ณ อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจาก "นริศ ธรรมเกื้อกูล" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) จะสรุปแนวคิดในการสร้างองค์กรสร้างธุรกิจทั้งไทยและต่างประเทศมาแชร์ให้ผู้ ร่วมสัมมนาฟัง ในงานนี้ "อดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์" กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายบิวติ ดริ้งค์ และ "ปีเตอร์ ทวีผลเจริญ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท แด๊ดดี้ โด (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของร้านจำหน่ายโดนัทแด๊ดดี้ โด นักธุรกิจรุ่นใหม่ยังมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การสร้างองค์กรและการบุกเบิก ธุรกิจในยุคดิจิทัลไว้อย่างน่าสนใจ

"นริศ" ถอดโมเดลความสำเร็จองค์กรธุรกิจระดับแนวหน้าให้ฟังว่า การเริ่มต้นธุรกิจอย่าขึ้นด้วยคำว่าชอบ เพราะส่วนใหญ่เจ๊งทุกราย แต่ถ้าขึ้นต้นคำว่ารัก ส่วนใหญ่มักจะเลิกง่าย ๆ แต่ถ้าเมื่อไรที่ขึ้นต้นด้วย คำว่าความเข้าใจ ส่วนใหญ่อยู่นาน เพราะจะมีการศึกษารายละเอียดธุรกิจจนมีความเข้าใจทั้งคู่แข่งและธุรกิจของตน เองที่กำลังจะทำ เรียกว่าต้องรู้เขารู้เรา

ก่อนเริ่มต้นธุรกิจต้อง กำหนดนโยบาย โดยใช้ SWOT เป็นตัวช่วย ดูว่าธุรกิจที่จะทำอยู่ในตำแหน่งไหนของตลาดในปัจจุบัน แล้วต้องการพัฒนาธุรกิจไปสู่จุดไหน แล้ววิธีการที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายเป็นอย่างไร ดังนั้นจึงต้องมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน มีวิชั่น เช่น ต้องการเป็นเบอร์ 1 ในตลาดภายใน 3-5 ปี

จากนั้นกำหนดภารกิจที่ต้องทำ เพื่อให้บรรลุวิชั่น โดยเขียนสิ่งที่ต้องทำเป็นข้อ ๆ เรียงตามลำดับความสำคัญ

แล้วจึงมาวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อนขององค์กร มองไปข้างนอกว่า มีโอกาสอยู่ตรงไหน ปัญหาอุปสรรคอยู่ตรงไหนบ้าง องค์กรของเราจะต้องเปลี่ยนแปลงปรับปรุงอย่างไร เพื่อที่จะสามารถแข่งขันในตลาดได้

ต่อ จากนั้นก็กำหนดกลยุทธ์บริษัท แบ่งหน้าที่ว่าใครมีอำนาจในการบริหารจัดการองค์กรธุรกิจอย่างไร

"นริศ" ได้หยิบกรณีศึกษาของกลุ่มซีพี ออลล์ มาเล่าให้ฟังว่า ในอดีต "ก่อศักดิ์" (ไชยรัศมีศักดิ์) นอนหลับแล้วฝันว่า อยากมีร้านค้าที่อยู่ใกล้ลูกค้า มีสินค้าที่ลูกค้าต้องการครบถ้วน มีพนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส ลูกค้ามีความสุข ตื่นเช้าเข้าประชุมเล่าให้ ผู้บริหารฟัง ผู้บริหารที่มากด้วยประสบ การณ์ก็ช่วยกันตีโจทย์แล้วย่อความฝัน 6 ชั่วโมงของประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทให้เหลือ 1 บรรทัด คือร้านสะดวกซื้อของชุมชน แล้วตอนนี้ความฝันก็เปลี่ยนใหม่ อีกรอบ เป็นร้านอิ่มสะดวกของชุมชน

ครั้งแรกในการกลั่นกรองความฝันซีอีโอ ผู้บริหารก็ตั้งเป้าหมายว่า จะต้องดำเนินงานเรื่องนี้ให้สำเร็จภายใน 3 ปี เมื่อถึงเป้าหมายก็เปลี่ยนเป้าหมายให้ยากขึ้นไปอีก

ดังนั้นขั้นแรก ของการสร้างองค์กรธุรกิจต้องเปลี่ยนความฝันมาเป็นวิชั่น

จากนั้นก็ ปฏิบัติภารกิจขั้นที่หนึ่ง คือสรรหาทำเลที่มีคุณภาพ แล้วตามด้วยภารกิจขั้นที่สอง สรรหาสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ภารกิจขั้นที่สาม สรรหากระบวนการที่จะทำให้ลูกค้ามีความสุขในการเข้าใช้บริการ และภารกิจที่สี่ มีการบริหารจัดการที่ดี

"การทำธุรกิจต้องคิดถึง ความเปลี่ยนแปลงของโลก ความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคเป็นเรื่องสำคัญ เพราะสิ่งแวดล้อมภายนอกเหล่านี้องค์กรไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ดังนั้นจึงต้องมาวิเคราะห์ว่าจะอยู่กับสิ่งเหล่านี้อย่างไร"

"นริศ" บอกว่า จากการค้นคว้าในช่วงที่ผ่านมา พบว่าอาวุธที่ทันสมัยที่องค์กรต้องมี ที่ใช้กันทั้งในระดับโลกและบริษัทชั้นนำประกอบด้วย 2 เรื่องใหญ่ ๆ

เรื่อง แรก ข้อกำหนด 4 ข้อ เป็นเรื่องของเกณฑ์การเติบโตที่ยั่งยืน

และ เรื่องที่สอง ห่วงโซ่คุณภาพ (Value chain)

ในการสร้างองค์กรสร้าง ธุรกิจต้องถามตัวเองก่อนว่า มี 4 ข้ออยู่ในองค์กรหรือไม่

1.Value สินค้าและบริการของเรามีคุณค่ากับลูกค้า หรือมีประโยชน์กับลูกค้าอย่างไร

2.Rare นอกจากจะมีคุณค่าแล้วต้องหาซื้อได้ยาก

3.Costly to Imitated คู่แข่งต้องใช้ต้นทุนสูงในการเลียนแบบ

4.Hard to Substitute หาสินค้าและบริการมาทดแทนได้ยาก

ซึ่งทั้ง 4 ข้อต้องอาศัยทรัพยากรบวกกับความสามารถของบุคลากรจึงจะทำให้องค์กรก้าวไปสู่ ความสำเร็จ

ด้าน "อดิศักดิ์" นักบริหารรุ่นใหม่ที่สร้างชื่อบิวติ ดริ้งค์ เครื่องดื่มเพื่อความสวยความงามให้ติดตลาดในช่วงระยะเวลาไม่ปี บอกถึงวิธีการตีโจทย์แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ว่า จริง ๆ แล้วโอกาสมีอยู่ตลอด ทุกวันที่เราเดินออกจากบ้านมีโอกาสรอเราอยู่ตลอดเวลา แต่การทำธุรกิจที่เกี่ยวกับสินค้าและบริการ สินค้าที่ผลิตออกมาต้องมี value มีความไว มีความสดใหม่ ยิ่งยุคนี้ถ้าเกี่ยวกับสุขภาพ สิ่งแวดล้อมมาแรงมาก

ในยุคที่คิดผลิตบิวติ ดริ้งค์ ก็ปิ๊งไอเดียจากการพูดคุยและการสังเกตผู้หญิงทุกคนอยากสวย อยากผอมเหมือนกันหมด ก็คิดว่า ถ้ามีเครื่องดื่มอะไรที่กินแล้วช่วยเสริมสร้างความสวย ทำให้ผอมได้คงจะ ขายดีก็เอาโจทย์ตรงนี้มาพัฒนาเป็นเครื่องดื่มผสมคอลลาเจล ผสมใยอาหาร ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก

"อดิศักดิ์" บอกว่า สิ่งที่ทำให้บิวติ ดริ้งค์ ประสบความสำเร็จมาจากการมองต่าง คิดหาสินค้าใหม่ ๆ ที่ตลาดยังไม่มี แล้วคิดอะไรแปลก ๆ ที่สามารถพัฒนาให้เป็นจริงขึ้นมาได้ ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ 60-70 เปอร์เซ็นต์ จะอยู่รอดได้อยู่ที่คุณภาพของสินค้าต้องดี บริการต้องเด่น

"ทรัพย์ อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด เริ่มต้นจากบริษัทเล็ก ๆ เมื่อ 7-8 ปีที่แล้วมีพนักงานอยู่ 30 คน วันนี้มีพนักงานทั้งหมด 480 คน ถ้าจะถามว่า องค์กรเติบโตด้วยกลยุทธ์อะไร ผมบอกได้เลยว่า องค์กรนี้เติบโตแบบไม่มีกลยุทธ์ เพราะองค์กรที่เติบโตเร็วขนาดนี้ไม่มีตำราเล่มไหนมาตอบโจทย์ได้ ธุรกิจเติบโตทุกวัน ทุกอย่างต้องแก้ไขเฉพาะหน้า"

"อดิศักดิ์" ยังบอกอีกว่า ตอนนี้โลกเคลื่อนไวขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งอินเทอร์เน็ต ข้อมูลข่าวสาร พฤติกรรมผู้บริโภค การเคลื่อนไหวของคู่แข่งเปลี่ยนทุกวัน การตัดสินใจต่าง ๆ จึงต้องตามสถานการณ์ให้ทัน

วิธีคิดในการสร้าง องค์กรสร้างธุรกิจของ "ปีเตอร์ ทวีผลเจริญ" ก็ไม่ต่างจาก "อดิศักดิ์" มากนัก

"ปีเตอร์" บอกว่า ธุรกิจร้านจำหน่ายโดนัทแด๊ดดี้ โด เกิดจากแรงบันดาลใจที่เห็นร้านโรตีบอยแถวสยามที่ขายดิบขายดี มีคนต่อแถวกันยาวเหยียด จึงนั่งคุยกับครอบครัวในวงรับประทานอาหารว่า จะทำร้านอะไรให้คนต่อแถวซื้อแบบนี้ได้ ก็ตั้งเป้าทำร้านโดนัท แต่เมื่อเซอร์เวย์ตลาดก็พบว่า 2 แบรนด์ที่อยู่ในตลาดมีร้านในเมืองไทยกว่า 200 สาขา คราวนี้ก็ต้องมาคิดต่อว่า จะแจ้งเกิดอย่างไร

นั่นคือ ต้องทำสินค้าให้มีความแตกต่าง จากนั้นก็เริ่มมองหาจุดอ่อน จุดแข็งของคู่แข่ง แล้วมาสร้างเป็นจุดแข็งของตัวเอง

สุดท้ายแด๊ดดี้ โด ก็เปิดตัวด้วยโดนัทที่ทำจากช็อกโกแลตแท้ แป้งนุ่ม หอม มัน หวาน แล้วพูดทุกวัน ทำร้านให้มีคอนเซ็ปต์แตกต่างจากร้านอื่น ๆ ก็สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม แล้วได้ลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามา

ซึ่งนอกจาก คุณภาพของสินค้าที่ต้องดีแล้ว ในเรื่องบริการก็ต้องดีด้วย ในการรับสมัครพนักงานจึงต้องเลือกคนที่มีบุคลิกชอบพบปะผู้คน ในช่วงแรกให้ลองขายหน้าร้านก่อน 3 ชั่วโมง เพื่อดูว่ามีบุคลิกแบบไหน เหมาะสมกับบุคลิกของร้านแด๊ดดี้ โดหรือไม่

แด๊ดดี้ โด แม้จะเป็นร้านขายโดนัทที่มีสาขาไม่มาก แต่ "ปีเตอร์" บอกว่า แผนธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำ เพราะนอกจากจะทำให้เห็นจุดเด่น จุดด้อยของธุรกิจแล้ว จะทำให้รู้ว่าจะต้องทำอะไรตอนไหน

และสิ่งที่ สำคัญไม่แพ้แผนธุรกิจคือ การประชุมทีมงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกคนได้แชร์ข้อมูล เพราะในการคุยกันจะทำให้ได้ไอเดียที่หลากหลายมาต่อยอดธุรกิจให้เติบโต