สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เปิดผลสำรวจอัตราราคา Coaching ตปท. 3,500 เหรียญ/ชม.-ไทย 40,000 บาท/ชม.

จากประชาชาติธุรกิจ



เป็นที่ ทราบว่าธุรกิจโค้ช (Coaching) เป็นธุรกิจที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา หากหลายประเทศในยุโรปและเอเชียก็ต่างได้รับความนิยมค่อนข้างสูง

สำหรับ ประเทศไทยมีการโค้ชอยู่ประมาณ 5 ประเภทด้วยกันคือ

หนึ่ง Life Coaching คือการโค้ช เกี่ยวกับเรื่องการดำเนินชีวิต เช่น โค้ชในเรื่องการวางเป้าหมายในชีวิต หรือเรื่องที่เกี่ยวกับการสร้างสมดุลของชีวิต งาน และส่วนตัว

สอง Business Coaching คือการโค้ชที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น การโค้ชแนวทางในการทำธุรกิจ หรือกลยุทธ์ทางธุรกิจ

สาม Career Coaching คือการโค้ชที่เกี่ยวกับความก้าวหน้าในการทำงาน เช่น การเปลี่ยนลักษณะงาน

สี่ Spiritual Coaching คือการโค้ชที่เกี่ยวกับความสงบสุขในชีวิต เช่น การหาความสุขให้กับชีวิต คล้าย ๆ กับการปล่อยวาง การทำสมาธิ

ห้า Executive Coaching คือการโค้ชผู้บริหาร ซึ่งเป็นการโค้ชผู้บริหารในองค์กรต่าง ๆ

ฉะนั้น เมื่อ "อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา" กรรมการผู้จัดการบริษัท ออคิด สลิงชอท จำกัด เปิดเผยตัวเลขมูลค่าตลาดรวมยิ่งเฉพาะกับ Executive Coaching ว่ามีมูลค่าสูงถึง 120-150 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเฉลี่ยมีอัตราการเติบโตมากกว่าปีละ 30% ก็ยิ่งทำให้เห็นภาพว่า ธุรกิจ Executive Coaching เป็นธุรกิจที่น่าสนใจทีเดียว

เฉพาะบริษัท ออคิด สลิงชอท จำกัด มีสัดส่วนรายได้ของการให้บริการทาง ธุรกิจนี้เพิ่มสูงขึ้นถึง 100%

ทั้ง ๆ ที่บริษัท ออคิด สลิงชอท จำกัด มีการให้บริการทางด้านการพัฒนาพนักงานและการพัฒนาองค์กร 3 รูปแบบด้วยกันคือ

หนึ่ง การพัฒนาทักษะ และความรู้ความสามารถของพนักงาน (Training)

สอง การเป็นที่ปรึกษาเพื่อการพัฒนาองค์กร (Organization Development Consulting)

สาม การโค้ชแบบตัวต่อตัว (One-on-One Executive Coaching)

"โค้ชผู้บริหารที่มีอยู่ในปัจจุบันมีตั้งแต่โค้ชอิสระที่ รับงานคนเดียว หรือเป็นทีม เล็ก ๆ ไปจนถึงบริษัทที่ปรึกษายักษ์ใหญ่ ซึ่งให้บริการด้านการพัฒนาบุคลากรและการพัฒนาองค์กร แต่เนื่องจากความต้องการมีมาก จึงทำให้บริษัทที่ปรึกษา ใหญ่ ๆ หลายบริษัทเลือกใช้วิธีการว่าจ้างให้โค้ชอิสระรับงานต่อ"

"Executive Coaching หรือการโค้ช ผู้บริหารระดับสูง เป็นการบริการที่กำลังได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้บริหารระดับสูงในประเทศไทย ทั้งในส่วนของภาคเอกชนและราชการที่แสวงหาและไม่แสวงหาผลกำไร"

นอก จากนั้น "อภิวุฒิ" ยังแสดงทรรศนะเพิ่มเติมถึงเรื่องหลัก ๆ ที่ผู้บริหารระดับสูงมักจะเลือกใช้ Executive Coaching

"ส่วนใหญ่จะ เลือกโค้ชเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้นำ หรือต้องการโค้ชเข้ามาช่วยเหลือบางเรื่อง เพราะบางเรื่องผู้บริหารระดับสูงไม่สามารถปรึกษาใครได้ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งต้องการโค้ชมาเป็นกระจก มามองว่าเขาเป็นผู้นำอย่างไร และอีกส่วนหนึ่งจะให้โค้ชมาช่วยแก้ไขพฤติกรรมบางอย่าง อย่างเรื่องการใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล"

ขณะเดียวกันก็มีการตั้งคำถาม ว่า แล้วเวลาเลือกโค้ชให้กับองค์กร หรือผู้บริหารระดับสูงจะใช้ปัจจัยอะไรในการเลือก ซึ่งตรงนี้ "อภิวุฒิ" ได้อธิบายอย่างชัดเจนว่า

"การเลือกโค้ชควรเลือกจากประสบการณ์ของโค้ช ที่เขามองปัญหาเหมือน ๆ กัน หรือจริตเหมือน ๆ กัน จะได้คุยกันรู้เรื่อง ขณะที่อีกส่วนหนึ่ง โค้ชมีกระบวนการในการโค้ชชัดเจน หรือใช้ประสบการณ์อย่างเดียว"

"นอกจากนั้นยังจะต้องดูด้วยว่าเขาเคย โค้ชให้บริษัทไหน ใครบ้าง เพราะปกติเขาจะไม่บอกชื่อโค้ช บอกแต่ชื่อองค์กร หรือประเภทของลูกค้า เราจึงต้องดู"

"อีกอย่างในต่างประเทศโค้ชชิ่ง ค่อนข้างบูมมาก ใคร ๆ ก็อยากเป็นโค้ช อย่างสิงคโปร์มีโค้ชเป็นพันคน เมืองไทยมีไม่ถึง 50 คน เขาจึงมีความพยายามที่จะสร้างมาตรฐานให้กับโค้ช"

ขณะ เดียวกัน "อภิวุฒิ" ก็เปิดเผยอัตราราคาโค้ชชิ่งในต่างประเทศให้ฟังว่า ใน ต่างประเทศราคาโค้ชต่ำสุดจะอยู่ที่ประมาณ 200 เหรียญ/ชั่วโมง สูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 3,500 เหรียญ/ชั่วโมง และถ้าคิดเป็นราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 500 เหรียญ/ชั่วโมง

"ขณะที่ เมืองไทยราคาค่าโค้ชต่ำสุดจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท/ชั่วโมง และสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 30,000-40,000 บาท/ชั่วโมง และถ้าคิดเป็นราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 17,000-20,000 บาท/ชั่วโมง"

นอก จากนั้น "อภิวุฒิ" ยังเปิดเผยอีกว่า การโค้ชที่ผ่านมาจะใช้วิธีการโค้ชแบบ Face to Face มากที่สุด คืออยู่ที่ประมาณ 75% แบบโทรศัพท์ 20% และอีเมล์ 5%

โดยใช้เวลาการโค้ชหลายระยะเวลาประกอบกัน ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับเรื่องที่จะโค้ชด้วย ซึ่งในต่างประเทศระยะเวลาการโค้ชจะมี 7-12 เดือน ประมาณ 45% 2-6 เดือน ประมาณ 27.1% และ 13-18 เดือน ประมาณ 27.9%

ส่วนเมืองไทยจะใช้เวลา โค้ชอยู่ที่ประมาณ 2-6 เดือนอย่างต่ำ

ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัยที่ทำให้การโค้ชนั้นประสบความสำเร็จด้วย อาทิ ตัวผู้ถูกโค้ชจะต้องมีแรงจูงใจที่จะเปลี่ยนพฤติกรรม

ความรู้สึกเข้า กันได้ (ถูกชะตากัน) หรือการซัพพอร์ตจาก Top Management เพื่อให้ผู้บริหารเกิดความสนใจ หรือติดตาม

ในมุมตรงข้าม "อภิวุฒิ" บอกว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้การโค้ชนั้นไม่ประสบความสำเร็จด้วย อาทิ ผู้บริหารคนนั้นมีพฤติกรรมแบบฝังลึก

หรือความเชื่อของผู้บริหารคน นั้นกับทิศทางขององค์กรไม่ไปในทางเดียวกัน รวมถึงผู้บริหารคนนั้นไม่มองว่าการโค้ชจะช่วยแก้ปัญหาของตัวเอง

ซึ่ง ก็จะทำให้การโค้ชประสบความล้มเหลว

ดังนั้นการโค้ชผู้บริหารส่วนใหญ่ จึงต้องนำเครื่องมือต่าง ๆ มาประกอบใช้ อย่างในต่างประเทศเขาจะสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด, การวัดแบบ 360 องศา, การไปสังเกตพฤติกรรมของผู้ถูกโค้ช, แบบประชุมพฤติกรรม รวมถึงการวัดไอคิวและอีคิวด้วย

ขณะที่เมืองไทยยังใช้วิธีการสัมภาษณ์ เป็นหลัก หรืออาจมีการวัดแบบ 360 องศาบ้าง ขณะเดียวกันก็มีแบบประชุมพฤติกรรม เพื่ออยากรู้สไตล์ หรืออาจจะนำเครื่อง Extended DISC มาวัดบ้าง

ทั้งนั้นเพื่ออยากจะทราบว่า ผู้ที่ถูกโค้ชเป็นคนอย่างไร มีลักษณะนิสัยแบบไหน เสมือนเป็นข้อมูลเบื้องต้น เพื่อที่จะทำให้โค้ชนำข้อมูลไปศึกษา และดูว่าถ้าจะโค้ช ผู้บริหารจะต้องโค้ชเรื่องอะไรบ้าง

เสมือนเป็นการหาจุดอ่อน จุดแข็ง ของผู้ถูกโค้ชไปในตัว

เพราะอย่างที่ทราบ การโค้ชเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ถ้าหากไม่สามารถทำให้ผู้บริหารเปิดใจกว้างได้ การโค้ชนั้นก็จบ ขณะเดียวกันถ้าทำให้ผู้บริหารเปิดใจกว้างได้ การโค้ชนั้นก็ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน

ซึ่งเป็นเรื่องไม่ธรรมดา จริง ๆ ?

Tags : เปิดผลสำรวจ อัตราราคา Coaching

view