จาก โพสต์ทูเดย์
หน้าฝนไม่ได้ทำให้รู้สึกว่ามันเป็นอุปสรรคและสร้างความน่าเบื่อ ให้แม้แต่น้อย สำหรับการดำน้ำลงไปสัมผัสความงามใต้ท้องทะเล
เรื่อง : กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย / ภาพ : ธนพงศ์ จารุรัตน์มงคล
ใครๆ ก็ว่าเที่ยวทะเลหน้าฝนไม่สนุก ทีแรกก็เห็นด้วยอย่างนั้น แต่พอกลับมาจากทริป Experience Phuket With 2 Big Birds ที่สายการบินนกแอร์เขาขอท้าให้ลงใต้เที่ยวทะเลภูเก็ตกลางฤดูฝนแล้วชักจะไม่ แน่ใจ เพราะช่วงเวลา 3 วัน 2 คืน ที่ภูเก็ตมันไม่เห็นรู้สึกน่าเบื่อสักนิดเลย
เมื่อนกยักษ์บินถึงสนามบินนานาชาติจังหวัดภูเก็ต เมฆฝนก็มืดทะมึนมาต้อนรับกันอย่างพร้อมหน้า ตามด้วยสายฝนที่โปรยปรายให้ชุ่มฉ่ำตั้งแต่เท้าแตะพื้นดิน ทริปนี้เขาว่าจะเจอฝนกับทะเล ตอนนี้เจอฝนแล้ว ต่อไปคือทะเล
ทะเลแรกที่ได้เจอคือ หาดป่าตอง ที่ดูผิดหูผิดตาไปจากหน้าร้อนอย่างสิ้นเชิง เพราะนอกจากจะไม่มีใครมานอนอาบแดดแล้ว คลื่นทะเลยังแรงและสูงกว่าปกติ แต่ฤดูฝนของนักเล่นเซิร์ฟคือช่วงเวลาแห่งความสุข เพราะเขาจะได้มันส์ไปกับคลื่นลูกใหญ่ที่จะช่วยให้กระดานโต้คลื่นแล่นฉิวอยู่ บนผืนน้ำ ตรงกันข้ามกับนักเล่นน้ำทั่วไปที่อาจจะดูอันตรายไปสักนิด เพราะแรงของคนอาจสู้แรงของคลื่นไม่ไหวอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ฝากเตือนไว้ดีกว่าว่าอย่าลงเล่นน้ำไกลจากฝั่งเวลาฝนตกจะปลอดภัยกว่า
หลังจากสนุกสนานไปกับกิจกรรมบนผิวน้ำ คราวนี้ก็ได้เวลาของทะเลแห่งที่ 2 ที่ “เกาะราชา” ท่าเรือไปเกาะราชาอยู่ห่างจาก อ.ป่าตอง ประมาณ 40 นาที เมื่อมาถึงก็รู้สึกแปลกใจกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มารอขึ้นเรือเล็กน้อย เพราะมีมากกว่าที่คิด แต่ที่น่าสังเกตคือ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ สงสัยคนไทยคงมีระบบการคิดคล้ายๆ กันคือ เที่ยวทะเลหน้าฝนไม่สนุก ถึงหาคนไทยได้ยากเหลือเกินเมื่อถึงฤดูนี้
การเดินทางจากท่าเรืออ่าวฉลองไปเกาะราชากินเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ด้วยเรือสปีดโบต 2 เครื่องยนต์ ที่บรรจุผู้โดยสารได้ไม่เกิน 35 คน เมื่อเรือสตาร์ตเครื่องได้แหงนหน้ามองท้องฟ้าพยากรณ์สภาพอากาศด้วยสายตาคะเน ได้ว่า การเดินทางน่าจะโปรดโปร่ง เพราะเมฆไม่มากและแดดยังส่องดี แต่พอเรือขับไปได้ประมาณ 10 นาที ผู้ดูแลเรือต้องรีบบอกให้ใส่เสื้อชูชีพ!
การพยากรณ์เมื่อสักครู่ใช้การไม่ได้กับเรื่องกระแสน้ำ เพราะคลื่นทะเลสูง แรง และมาก ให้ความรู้สึกเหมือนเล่นเครื่องเล่นไวกิ้งบวกซุปเปอร์ สแปลช ที่เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง เดี๋ยวเปียกน้ำ สร้างความตื่นเต้นระทึกใจให้กับผู้โดยสารได้ร้องกรี๊ดเป็นระยะๆ แต่ในขณะเดียวกันกระแสคลื่นที่กระทบเรือก็ทำให้ใครหลายคนปวดเศียรเวียนเกล้า กับอาการเมาเรือที่ต้องทรมานไปตลอดครึ่งชั่วโมง แต่ยังดีที่ยังไม่มีใครเป็นมากถึงขั้นให้อาหารปลาระหว่างทาง
การเดินทางอันค่อนข้างทุลักทุเลนี้มาเพื่อพิสูจน์กันให้ลึกๆ ถึงความงดงามของเกาะราชา โดยการนำตัวเองลงไปสัมผัสกับโลกใต้น้ำกันแบบใกล้ชิด พร้อมกับถังออกซิเจนและตีนกบ กิจกรรมดำน้ำลึกที่เกาะราชามีบริการสอนดำน้ำแบบหลักสูตรเร่งรัดภายใน 45 นาที โดยคุณครูสอนดำน้ำลึก
ถอดความรู้จากการเรียนแล้วสรุปได้ว่า การดำน้ำลึกต้องมีอุปกรณ์ครบถ้วนทั้งชุดดำน้ำแบบเฉพาะที่ไม่ใช่เสื้อยืด กางเกงขาสั้นเหมือนการดำน้ำแบบตื้นทั่วไป ตีนกบ ถังออกซิเจน และอุปกรณ์ที่จำเป็นอื่นๆ ต้องทำความเข้าใจกับภาษามือที่จะใช้สื่อสารกันใต้น้ำ และต้องสามารถเคลียร์หูให้เป็น วิธีการง่ายๆ คือ การพยายามหายใจออกโดยที่ปิดจมูกและปากไว้ จะต้องทำก่อนลงน้ำ และเมื่อลดระดับสู่ใต้น้ำเพื่อรักษาความดันภายในหูจากความดันของน้ำที่จะมาก ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อดำดิ่งลงไป คุณครูยังฝากมาบอกด้วยว่า ใครเคลียร์หูไม่เป็นจะดำน้ำลึกไม่ได้ ดังนั้นลองทำดู ถ้าทำบนบกและรู้สึกว่าหูอื้อ นั่นหมายความว่าคุณสามารถเป็นนักดำน้ำลึกได้แล้ว
เมื่อจบการเรียนภาคทฤษฎี ก็ถึงคราวต้องสอบปฏิบัติ การลงดำน้ำลึกสำหรับมือสมัครเล่นจะมีคุณครูคอยดูแล ครู 1 คนต่อนักเรียน 3 คน
เสียงน้ำดังตู้ม ร่างกายพร้อมถังบรรจุอากาศลอยคออยู่บนผิวน้ำ คุณครูนำทางไปยังจุดดำน้ำที่อยู่ไกลจากเรือพอสมควร การว่ายน้ำด้วยตีนกบไปกับถังบนหลังครั้งแรกในชีวิตเอาเรื่องอยู่ไม่เบา เพราะว่ายเท่าไหร่ก็เหมือนจะอยู่ที่เดิม จนคุณครูต้องว่ายกลับมาลากไปพร้อมๆ กัน ถามไถ่ถึงอาการว่ายไม่ไปเลยทำให้ทราบความรู้ใหม่ว่า การใช้ตีนกบต้องใช้กำลังจากปลายเท้า อย่าใช้ข้อเท้าในการตีขา เพราะเราจะเสียแรงมากแถมยังไม่ขยับ
ด้วยกำลังปลายเท้าของทั้งตัวเองและคุณครูรวมกัน ในที่สุดก็มาถึงจุดดำน้ำ คุณครูค่อยๆ พานักเรียนลงไปใต้น้ำทีละคน โดยการปล่อยลมจากเสื้อออกและให้จับเชือกที่ครูนำไปผูกกับหินใต้น้ำไว้แล้ว ประสบการณ์ครั้งแรกใต้ท้องทะเลเจ็บปวดนิดๆ ด้วยอาการเจ็บหู จนต้องเคลียร์หูใต้น้ำไปหลายครั้ง
แต่พอสายตาได้เห็นปะการังขนาดมหึมาและเหล่าปลาลักษณะแปลกๆ อาการเจ็บหูก็หายไป ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความงดงามที่อยู่ตรงหน้าจนลืมอาการหรือสภาพร่างกายที่ ปรับความดันได้เอง แต่ที่แน่ๆ ภาพใต้ท้องทะเลความลึก 10 เมตร ที่เกาะราชามันสวยงามและตื่นตาตื่นใจจริงๆ น่าเสียดายที่ก่อนลงไม่ได้ศึกษาชนิดของปลาที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ทำให้ไม่รู้ว่าปลารูปร่างแปลกๆ นั้นมันชื่อว่าอะไร ที่พอรู้จักบ้างก็มีแค่ปลาปักเป้า ที่นึกว่าจะมีหนามรอบตัวเหมือนในการ์ตูน
ขณะที่กำลังตื่นเต้นกับปลา คุณครูที่คอยดูแลชี้ให้ดูบนผิวน้ำที่กำลังเป็นวงกระเพื่อมๆ ใช่แล้ว...ตอนนี้คนที่อยู่บนผิวน้ำคงกำลังวิ่งหลบฝนกันอยู่ ในขณะที่คนใต้น้ำอย่างเรายังคงว่ายน้ำอย่างสบายใจและชื่นชมความสวยงามของ ท้องทะเลกันต่อไป (แต่ถ้าเป็นพายุฝนก็คงไม่รอด ต้องรีบขึ้นเรือกลับเข้าฝั่งเหมือนกัน)
หลังขึ้นจากทะเล กำลังทำตัวให้แห้งแลดูสายฝนที่ตกมาเป็นทาง ในหัวยังคิดถึงภาพหนุ่มผิวคล้ำเล่นเซิร์ฟบนยอดคลื่นและภาพฝูงปลาและปะการัง ที่ได้ประสบมาเมื่อครู่ คิดไปคิดมาภาพเหล่านั้นมีเม็ดฝนเกาะอยู่ทุกรูป หมายความว่าเราใช้ชีวิตกับฝนมาตลอด 2 วัน โดยที่ไม่รู้สึกว่ามันเป็นอุปสรรคและสร้างความน่าเบื่อให้แม้แต่น้อย และเมื่อคิดย้อนกลับไปอีกถึงวันที่เอ่ยปากรับคำท้าของทริปนกแอร์ ถ้าวันนั้นไม่กล้า ตอนนี้คงกำลังนั่งคิดว่าฝนตกอยู่ที่ไหนสักที่
