สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ความเป็นผู้นำกับอำนาจ

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ HR Corner

แหล่งข้อมูลจาก APM Group



"อับรา ฮัม ลินคอล์น" เคยกล่าวว่า...ถ้าท่านอยากรู้ว่านิสัยคนเป็นอย่างไร ให้มอบอำนาจให้เขา

ซึ่ง "จอร์จ วอชิงตัน" สามารถผ่านบททดสอบนี้ไปได้ เพราะเขาไม่ยอมรับอำนาจอันล้นพ้นถึงสองครั้ง ทั้ง "จอร์จ" ยังได้แสดงให้เห็นว่า ภาวะผู้นำคือการให้ ไม่ใช่การได้รับ และคนเราควรใช้อำนาจอย่างมีความรับผิดชอบด้วย

พระเจ้าจอร์จที่สาม กษัตริย์อังกฤษ ถาม "เบนจามิน เวสต์" ซึ่งเป็นช่างทาสีชาวอเมริกันของเขาว่า...จอร์จ วอชิงตัน จะทำอย่างไร หากรบชนะสงครามประกาศเอกราชจากอังกฤษ

"เบนจามิน" ตอบไปว่า กลับไปทำไร่ กษัตริย์อังกฤษผู้นี้จึงกล่าวว่า หาก "จอร์จ" ทำเช่นนี้ได้จริง ๆ เขาจะเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และในวันที่ 23 ธันวาคม ปี 1783 "จอร์จ" ก็ได้ทำเช่นนั้นจริง ๆ เขากลับไปอาศัยอยู่ที่ภูเขา เมาธ์เวอร์นอน ทั้ง ๆ ที่หลายคนสนับสนุนให้จอร์จอยู่ในตำแหน่งต่อไป และบางคนถึงกับยินยอมมอบตำแหน่งประธานาธิบดีให้เลยทีเดียว

สี่ปีต่อ มา "จอร์จ" ทำเช่นนี้อีกครั้ง ในปี 1787 เขาเดินทางไปฟิลาเดลเฟียเพื่อประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญ และมอบโอวาทเรื่องความจำเป็นของการมีภาวะผู้นำให้กับบรรดาผู้แทนรัฐต่าง ๆ ที่ไม่มีเอกภาพให้ร่วมมือกันร่างรัฐธรรมนูญ

หลังจากนั้นในปี 1788 เขาได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา ในปี 1792 เขารับตำแหน่งสมัยที่สองอย่างไม่เต็มใจนัก จนถึงสมัยที่สามเขาก็ปฏิเสธตำแหน่ง จนเกิดเป็นธรรมเนียมที่ใช้กันมากว่า 150 ปี

จากนั้นเขาก็กลับไปใช้ชีวิตในไร่อีกครั้งหนึ่ง

"จอร์จ วอชิงตัน" เสียชีวิตลงในปี 1799 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ "นโปเลียน โบนาปาร์ด" ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิฝรั่งเศส แต่ "นโปเลียน" กลับเป็นผู้นำที่ตรงกันข้ามกับ "จอร์จ" เพราะเขาไม่เคยมีอำนาจตามที่ตนพอใจเลย ความกระหาย

อำนาจทำให้ "นโปเลียน" เข้ายึดยุโรปเสียส่วนใหญ่

"นโปเลียน" ยอมรับว่า อำนาจนั้นเปรียบเสมือนภรรยาชู้ของเขา เขาต่อสู้ ทุกอย่างเพื่อไม่ให้ใครมาพรากอำนาจจากเขาไปได้ หลายปีต่อมา "นโปเลียน" สูญเสียอำนาจและต้องลี้ภัยการเมือง สุดท้ายเขาคร่ำครวญว่า...พวกเขาอยากให้ผมเป็นจอร์จ วอชิงตัน คนที่สอง

ประวัติ ศาสตร์มักกล่าวถึงเรื่องราวของผู้ที่ใช้อำนาจในทางที่ผิดอยู่หลายคน แต่การใช้อำนาจในทางที่ผิดไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้เฉพาะกับนักการเมืองหรือ ทรราชเท่านั้นผู้บริหาร คู่รัก พ่อแม่ เพื่อนร่วมงานและคนอื่น ๆ ล้วนแล้วแต่สามารถทำผิดได้ทั้งสิ้น

คนพูดกันว่า เมื่อมีอำนาจอยู่ คนที่ใช้อำนาจในทางที่ผิดต่างหากที่จะกระหายอำนาจ เมื่อคนเราแสวงหาอำนาจความเป็นผู้นำ เพราะหลงไปกับการมีอำนาจเหนือผู้อื่นแล้ว นั่นหมายถึงความไม่แน่นอน การขาดความมั่นใจ และความกลัว สิ่งนี้ถือว่าเป็นความรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่น

หรือเรียกอีก อย่างว่า "ปมนโปเลียน"

ซึ่งทำให้คนเราควบคุมผู้อื่น และติดตามการทำงานของผู้อื่นอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันเราเรียกบุคคลประเภทนี้ว่า ผู้ที่บ้าอำนาจในการควบคุมผู้อื่น นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ "โรเบิร์ต เฮลเลน" เคยให้ข้อสังเกตว่า...คนที่อยากเป็นนักการเมืองไม่ควรจะได้รับอนุญาตให้เป็น

ฉะนั้น เมื่อเราวิเคราะห์ระบบการจัดลำดับแรงจูงใจมนุษย์ของ "อับราฮัม มาสโลว์" ซึ่งประกอบด้วยการอยู่รอด ความปลอดภัย การอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม ความเคารพ และการประสบความสำเร็จแล้ว เราจะเห็นว่าผู้ที่กระหายอำนาจจัดอยู่ ในประเภทที่สองจากท้าย หรือความปลอดภัยนั่นเอง

ส่วนผู้นำที่แท้จริง จะเคารพตนเอง และมีความมั่นใจในตนเอง อีกทั้งยังจะไม่แสวงหาอำนาจเพื่อเสริมสร้างความมีคุณค่าของตนเอง

ผู้ นำที่แท้จริงจะได้รับแรงจูงใจจากการทำดีเพื่อประโยชน์ของสมาชิกกลุ่มของตน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือประเทศก็ตาม หากท่านพบว่าท่านเสพติดอำนาจผู้นำเสียแล้ว ท่านควรพิจารณาถึงแรงจูงใจของท่าน หรือถ้าท่านได้รับแรงผลักดันให้แลกเปลี่ยนพรสวรรค์ในการเข้าใจผู้อื่น กับผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้เป้าหมายประสบความสำเร็จ หรือท่านได้รับแรงจูงใจจากการมีตำแหน่ง หรือหน้าที่การงานที่สูง

ลอง สำรวจตัวเองดูซิว่า ท่านเป็นผู้นำอย่างแท้จริงหรือไม่ !

"จอห์น ควินซี อดัมส์" เคยกล่าวว่า...หากการกระทำของท่านสร้างแรงจูงใจให้ผู้อื่นฝัน, เรียนรู้ และลงมือทำ จนเป็นความจริงมากขึ้นแล้ว ท่านเป็นผู้นำที่แท้จริงอย่างแน่นอน

แล้ว คุณล่ะเป็นผู้นำแบบไหน ?

Tags : ความเป็นผู้นำ อำนาจ

view