สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เบื้องหลังบัฟเฟตต์ซื้อ บีวายดี

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

โดย : Value Way: วิบูลย์ พึงประเสริฐ


วอร์เรน บัฟเฟตต์ ลงทุนในหุ้นบริษัทบีวายดี (BYD) ในประเทศจีนเมื่อปี 2008 ด้วยเงิน 232 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจุบันมูลค่าเงินลงทุนของเขาในบริษัทนี้มากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ บัฟเฟตต์บอกว่าเขาไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจรถไฟฟ้าเท่าไรนัก ที่เขาลงทุนในบริษัทนี้เพราะเชื่อใน ชาลี มังเกอร์ จากข้อมูลพบว่าบุคคลที่ทำให้มังเกอร์สนใจในบริษัทบีวายดีคือ ลี ลู ต่อไปนี้เป็นคำถามตอบของลี ลู เกี่ยวกับบริษัทบีวายดี

ถาม :  ทำไมคุณถึงลงทุนในบริษัทบีวายดี แล้วบริษัทอื่นๆ ล่ะ

ลี ลู :  เพราะว่าเราได้ศึกษาบริษัทอื่นๆ มาหมดแล้ว เดี๋ยวเราจะได้เห็นเมื่อผู้ชนะโผล่ออกมา ไม่ว่าเราจะคิดถูกหรือผิด
 ถาม :  ถูกต้อง แต่อะไรล่ะที่ทำให้คุณมองได้ถึงขั้นนี้

ลี ลู :  มีคนมากมายที่สร้างสุดยอดรถยนต์ออกมาตลอด 100 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ได้ถูกกลั่นกรองมาอยู่ในระดับที่สามารถเรียน รู้ได้ในระยะเวลาสั้นๆ ที่เราๆ ยังคงเห็นการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วต่อเนื่องอีกมากก็คือแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ ผู้ที่กำลังเป็นผู้นำย่อมได้เปรียบมาก มีเพียงบริษัทเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้นำในการผลิตแบตเตอรี่และผลิตรถยนต์ ทั้งสองสิ่งถูกนำมารวมกันในบริษัทบีวายดี มันไม่ใช่ขั้นตอนที่ง่ายเลย

ถาม : ดังนั้นคุณจึงไปที่บริษัทบีวายดีในปี 2005 และนำเบิร์คไชน์ (Berkshire Hathaway) ไปด้วย ผมเห็นว่าคุณได้ขายหุ้นบีวายดี ออกนิดหน่อยเมื่อสิ้นปีที่แล้ว มันแค่เป็นการปรับพอร์ตหรือเปล่า

ลี ลู : จริงๆ แล้ว ผมเริ่มลงทุนในบริษัทบีวายดี ตั้งแต่ปี 2002 ผมขายหุ้นออกไปนิดหน่อยเพราะผู้ลงทุนของเราท่านหนึ่งต้องการถอนเงินด่วน

ถาม : คุณมีปัญหาอะไรหรือไม่ขณะที่พยายามจะลงทุนในประเทศจีน

ลี ลู : ผมมีนิดหน่อย ผมไม่ได้เห็นโรงงานของ บีวายดี จนกระทั่งสิ้นปี 2008 ผมไม่ค่อยเข้าใจจนกระทั่งเวลานั้น นั่นทำให้คุณตั้งคำถามว่ามันคืออะไรก่อนที่คุณจะทำการลงทุน ในการลงทุนคุณต้องอยู่กับข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์แบบเพราะคุณกำลังซื้อส่วนหนึ่ง ของอนาคต ผมไม่ได้มีโอกาสในการได้รับข้อมูลที่มากเพราะปัญหาในเอเชีย แต่มันก็ไม่ได้หยุดผมในการตัดสินใจลงทุน ประเด็นอยู่ที่ว่า เมื่อคุณมีส่วนต่างความปลอดภัย (Margin of Safety) ที่มากพอ นี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงต้องย้อนกลับมาในเรื่องพื้นฐานของส่วนต่างความ ปลอดภัย คุณสามารถเพิ่มความไม่แน่นอนและความไม่รู้ได้ ดังนั้นคำตอบสำหรับคำถามที่ว่ามันทำให้คุณหยุดลงทุนหรือไม่ คำตอบคือไม่เลย

ถาม : ผมเห็นว่าบริษัทบีวายดี มีความได้เปรียบในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับผู้บริโภค แต่ผมว่าแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์มีความซับซ้อนมากกว่า เมื่อบัฟเฟตต์เริ่มๆ สนใจมันอาจจะยังน่าลงทุน แต่ปัจจุบันราคาหุ้นบีวายดีค่อนข้างสูง ดูไม่เหมือนหุ้นที่ดีสำหรับนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าเลย

ลี ลู : สิ่งหนึ่งที่น่าเย้ายวนในการเป็นนักลงทุนก็คือสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดเป็นส่วน หนึ่งของเกม เมื่อคุณอยู่ในสถานการณ์อย่างบีวายดี คุณเห็นหลายๆ สิ่งที่ดีเกิดขึ้นอย่างไม่ได้คาดคิด ผู้ก่อตั้งและทีมของเขามีวัฒนธรรมที่เหลือเชื่อ เขาต้องเข้าสู่การผลิตแบตเตอรี่เพราะเขาไม่มีทางเลือก เขาไม่มีเงิน เขามีเงินแค่ 300,000 ดอลลาร์เท่านั้น จากการลงทุนของกองทุนเวนเจอร์ (Venture Capital) ก่อนจะทำไอพีโอ (IPO) เขาได้เงินมาจากการขายไอพีโอ และบัฟเฟตต์ให้เขา 200 ล้านดอลลาร์ ขณะนี้เขามีพนักงาน 160,000 คน รายได้ 6-7 พันล้านดอลลาร์ กำไร 500 ล้านดอลลาร์ มันน่าทึ่งมาก 

ดังนั้นเขามีความสามารถในการปรับตัวในสภาวะการแข่งขัน เขาทำให้เห็นในความสามารถซ้ำแล้วซ้ำอีก วิธีที่เขาทำระบบเกียร์อัตโนมัตินั้นถูกกว่าของคนอื่นมากและมีความเสถียร มากกว่าด้วย เขายังคงทำให้ผมประหลาดใจในความเฉลียวฉลาดในการหาทางทำสิ่งต่างๆ ได้ดีกว่าคนอื่น นี่คือสิ่งที่ว่าทำไมการศึกษาประวัติศาสตร์ของบริษัทที่ยิ่งใหญ่จะทำให้คุณ เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าอะไรกำลังจะเกิดกับบีวายดี ผมแนะนำให้เราเริ่มกับจีเอ็ม (GM) และวิเคราะห์ผลงานทุก 5 ปี ตลอด 100 ปีที่ผ่านมา เพื่อที่จะเข้าใจอย่างน้อยก็มุมหนึ่งในธุรกิจของบริษัทบีวายดี

Tags : เบื้องหลัง บัฟเฟตต์ บีวายดี

view