จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
สนั่น อังอุบลกุล คอลัมภ์ CRISIS MANAGEMENT
เช้าวันที่ 15 มิถุนายน 2553 เวลาประมาณ02.30 น.ได้เกิดเพลิงไหม้ที่อาคารเก็บสินค้าสำเร็จรูปที่รอการจัดส่งไปยังลูกค้า และพื้นที่การผลิตบางส่วน
เพลิงได้ไหม้โรงงานติดต่อกันเป็นเวลา 3 ชม. สาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ได้รับความ เสียหายจากการเกิดเพลิงไหม้ เพราะสินค้าที่กองเก็บไว้ได้ถูกไฟเผาไหม้และเครื่องจักรบางตัวที่ใช้ เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดได้รับผลกระทบจากการเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว
การเกิดเพลงไหม้ถือเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่เป็นภาวะฉุกเฉิน ความหมาย คือ เป็นสภาวะที่เป็นอันตรายหรือที่มีอันตรายแฝงสูง เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะยากต่อการควบคุมในทันทีทันใด และจะก่อให้เกิดความเสียหายและอันตรายต่อบุคคล ทรัพย์สิน สิ่งแวดล้อม ขวัญและกำลังใจ และความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ดังนั้น จึงต้องมีการบริหารจัดการควบคุมและตอบโต้กับภาวะฉุกเฉินที่เกิดขึ้นได้อย่าง เหมาะสม และเต็มประสิทธิภาพเพื่อลดความสูญเสียให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด
ศรีไทยซุปเปอร์แวร์สามารถบริหาร เหตุการณ์ในยามวิกฤตเมื่อเกิดเพลิงไหม้จนสามารถหลุดพ้นจากความ หายนะได้อย่างมหัศจรรย์ กล่าวคือ การไหม้ครั้งนี้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ไฟไม่ได้ลุกลามไปนอกโรงงาน ไม่สร้างมลภาวะที่เป็นพิษหรือเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม โรงงานทำการผลิตได้ภายใน 40 ชม. หลังจากเกิดเพลิงไหม้ อีกทั้งเรายังสามารถส่งสินค้าไปยังลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ตาม ปกติโดยไม่มีการสะดุดหยุดลงแต่ประการใด
เราสามารถรักษาแม่พิมพ์ของลูกค้าที่อยู่ในโรงงานและระหว่างการผลิตไม่ให้ เกิดความเสียหายจนต้องหยุดการผลิตอย่างต่อเนื่อง และที่จะขาดไม่ได้ก็คือ ลูกค้ายังคงมีความเชื่อมั่นและมอบหมายให้ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ผลิตชิ้นส่วน อุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในระบบ JUST IN TIME ของลูกค้า โดยมั่นใจว่าศรีไทยซุปเปอร์แวร์สามารถส่งมอบ สินค้าให้แก่ลูกค้าได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำและมีคุณภาพ ไม่สร้างความเสียหายให้แก่ระบบ JUST IN TIME ของลูกค้าอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เรายังได้มีการปรับเป้าหมายยอดขายในครึ่งปีหลังของปีนี้ เพิ่มขึ้นอีก 5% จากเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้เมื่อตอนต้นปี
การที่ศรีไทยซุปเปอร์แวร์สามารถบริหาร เหตุการณ์เมื่อเกิดเพลิงไหม้จนหลุดพ้นจากภาวะดัง กล่าวได้นั้น เราได้มีการดำเนินการดังต่อไปนี้ การดำเนินการในขณะเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งการดำเนินการในขณะเกิดเหตุเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ที่จะช่วยลดความสูญเสียไม่ให้ลุกลามไปจนกลายเป็นหายนะหรือสิ้นเนื้อประดาตัว ประเด็นสำคัญในการดำเนินการขณะเกิดเหตุ ที่เราทำก็คือ
1. มีการอพยพหรือเคลื่อนย้ายพนักงานจากพื้นที่อันตรายในทันที ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่จะต้องดำเนินการ เพราะเรามีอุดมการณ์ในการทำงานว่า “สูญเสียชีวิตไม่ได้ ทรัพย์สินหาใหม่ได้”
2. มีการสั่งการจาก EMERGENCY DIRECTOR เพียงคนเดียวในเวลาที่เร็วที่สุดหลังเกิดเหตุ
3. เนื้อความที่สั่งการไม่ซับซ้อน ไม่หลายเรื่อง (FOCUS อย่างสุดๆ) เข้าใจได้ทันที เช่น ให้ป้องกันและสกัดไฟไม่ให้ลุกลามไปถึงเครื่องจักร และแม่พิมพ์โดยเด็ดขาด
4. มีพนักงานที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างมีวินัยเป็นประจำทุกปี สามารถนำอุปกรณ์ดับเพลิงที่ติดตั้งให้ตามจุดต่างๆ ทั่วทั้งพื้นที่ของโรงงานมาสกัดไฟไม่ให้ลุกลามไปส่วนอื่นของโรงงานได้อย่าง มีประสิทธิภาพตามหลักวิชาการ
5. พนักงานไม่ตกตลึงกับเหตุการณ์ มีความหวงแหนในตัวโรงงานที่เป็นสมบัติและที่ดำรงชีพของทุกคน สิ่งนี้แหละที่เราเรียกว่า BEYOND RESPONSIBILITY ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของการเกิด SENSE OF OWNERSHIP จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็น ว่า คนของศรีไทยซุปเปอร์แวร์ที่มีกว่าพัน คนที่อมตะมี SENSE OF OWNERSHIP อย่างเปี่ยมล้นทุกคนร่วมไม้ร่วมมือกันเพื่อรักษาทรัพย์สินไว้ถึงที่สุด
6. การได้รับความช่วยเหลืออย่างดีเยี่ยมจากหน่วยดับเพลิงของนิคมอุตสาหกรรมอมตะ นคร หน่วยดับเพลิงของจังหวัดและจากส่วนกลางและเขตพื้นที่ใกล้เคียงที่มีจำนวน ร่วม 50 คัน ที่สำคัญที่สุดคือการได้รถฉีดโฟมจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครเพราะในการดับไฟ ที่เกิดจากการเผาไหม้พลาสติกจะต้องใช้โฟมดับแทนที่ใช้น้ำอย่างเดียว ซึ่งทุกหน่วยงานที่เข้ามาช่วยดับไฟได้ประสานงานกันอย่างดี รวมทั้งมีความคุ้นเคยกับชุมชนและแผนภูมิของโรงงานในนิคมฯ
ยังมีอีกหลายประเด็นที่เราได้ทำในช่วงที่เกิดดหตุเพลิงไหม้ ครั้งหน้าผมจะเล่าต่อ วันนี้สวัสดีครับ