จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ L&S Hub
โดย รศ.ดร.ดวงพรรณ ศฤงคารินทร์ ศูนย์การจัดการโลจิสติกส์ วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
 |
ทีมโลจิ สติกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เข้ามาอยู่ในโลกของ healthcare ได้สักพักหนึ่ง ได้บรรลุแล้วว่าโลกของ healthcare นั้นช่างซับซ้อนเหลือเกิน ชาวโลจิสติกส์โดยปกติมักจะอยู่ตามโรงงานอุตสาหกรรม หรือไม่ก็ธุรกิจการค้าภายในประเทศ ระหว่างประเทศ พอได้เข้ามาในบริบทใหม่เช่นนี้ถึงต้องกับถอดเขี้ยวเล็บและตีลังกาคิดกันอีก หลายตลบ "Healthcare เป็นอย่างไร" ขอถือโอกาสในที่นี้ สรุปสถานการณ์สักหน้าสองหน้าเพื่ออธิบายว่าทำไมต้องตั้งชื่อเรื่อง แบบนี้ โจทย์นี้ได้มาอย่างไร
โครงการการจัดการระบบโลจิสติกส์เพื่อการยก ระดับการให้บริการสุขภาพและอนามัยของประเทศไทย อยู่ภายใต้โครงการมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ ของมหาวิทยาลัยมหิดล ดำเนินการโดยศูนย์การจัดการโลจิสติกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เราทำการพัฒนาโจทย์เพื่อให้ตรงต่อความต้องการของประเทศออกมาเป็น 3 โจทย์ใหญ่ คือ
1) standardization
2) operations improvement
และ 3) patient flow หากแต่งบประมาณโครงการด้วยงบกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเข้มแข็งถูกชะลอลง อย่างไร ก็ดี ชาวนักวิจัยก็มิได้ย่อท้อกลับดำเนินโครงการตามแผนที่ตั้งไว้ และเริ่มลุยกับโจทย์แรกที่คิดว่าน่าจะทำได้เร็วที่สุดไปก่อน นั่นคือ operations improvement ตอนเปิดโจทย์นี้นั้น ใครจะคิดว่าการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งแสนจะเป็นโจทย์ธรรมดามากสำหรับนักโลจิสติกส์อุตสาหกรรมจะกลายเป็นความ หินและเป็นปราการด่านสำคัญสู่การพัฒนาเข้าขั้นโจทย์ขั้นเทพได้
เกิด อะไรขึ้น
ทีมโลจิสติกส์เราได้รับความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาล มหาวิทยาลัย ภายใต้มหาวิทยาลัยมหิดลของเราเองให้เข้าไป ล้วงแคะแกะเกา เพื่อผลของการพัฒนา healthcare ไทยทั้งระบบ (ต้องขอขอบพระคุณความมีวิสัยทัศน์ก้าวไกลมาก ๆ ของผู้บริหารมา ณ โอกาสนี้) ทีมเราเริ่มด้วยโจทย์ที่หลาย ๆ โรงพยาบาลมีความประสงค์จะทำ คือ VMI (vendor manged inventory) การจัดการสินค้าคงคลังโดยผู้ขาย ฟังดูไม่น่ายากอะไรมากมายหลาย ๆ องค์กรในวงการโลจิสติกส์ไทยก็ดำเนินการเป็นตัวอย่างประสบความสำเร็จมาแล้ว หลักการง่าย ๆ คือให้ supplier เข้ามาบริหารจัดการสต๊อกของโรงพยาบาลเอง และเติมเต็มให้โดยอัตโนมัติ นั่นคือการแชร์ข้อมูลอย่างไม่ปิดบังของโรงพยาบาลต่อ supplier เพื่อผลการเติม สต๊อกอย่างสมบูรณ์แบบ
