จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

โดย : Crisis Management : สนั่น อังอุบลกุล

ครั้งที่แล้วผม เคยเกริ่นไปถึงการบริหารจัดการเวลาที่เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งในช่วงวันที่ 15 มิถุนายน 2553 เวลาประมาณ 02.30 น.
ผมได้เจอกับเรื่องที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น นั่นก็คือ ได้เกิดเพลิงไหม้ที่อาคารเก็บสินค้าสำเร็จรูปที่รอการจัดส่งไปยังลูกค้าและ พื้นที่การผลิตบางส่วน  เพลิงได้ไหม้โรงงานติดต่อกันเป็นเวลา 3 ชม. สาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ได้รับความ เสียหายจากการเกิดเพลิงไหม้  เพราะสินค้าที่กองเก็บไว้ได้ถูกไฟเผาไหม้และเครื่องจักรบางตัวที่ใช้ เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดได้รับผลกระทบจากการเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว 

ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแล้ว การดำเนินการในขณะเกิดเหตุเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ที่จะช่วยลดความสูญเสียไม่ให้ลุกลามไปจนกลายเป็นหายนะหรือสิ้นเนื้อประดาตัว ประเด็นสำคัญในการดำเนินการขณะเกิดเหตุนั้น ผมได้เขียนไปแล้ว 6 ข้อด้วยกัน วันนี้เรามาว่ากันต่อเลยนะครับ

7. เราได้รับความร่วมมือจาก Supplier ที่ได้จัดส่งวัตถุดิบ วัสดุบรรจุหีบห่อ และพัสุดอื่นๆ  ตลอดจนทีมงานวิศวกรและช่างเทคนิคเข้ามาช่วยซ่อมแซมฟื้นฟูเครื่องจักร และแม่พิมพ์ เพื่อให้ศรีไทยซุปเปอร์แวร์สามารถทำการ ผลิตได้เร็วที่สุดและปลอดภัยที่สุด

8. ได้มีการดำเนินการทุกอย่างเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ของลูกค้า เช่น  การส่งมอบแม่พิมพ์คืนให้แก่ลูกค้าใน 2 วันแรกที่หลังเกิดเพลิงไหม้ เพื่อให้ลูกค้านำไปให้ผู้ผลิตรายอื่นทำการผลิต  รวมทั้งการไปช่วยติดตั้งและปรับแต่งแม่พิมพ์เพื่อให้ผู้ผลิตรายอื่นสามารถทำ การผลิตให้แก่ลูกค้าได้  ในกรณีที่ลูกค้าต้องสั่งอุปกรณ์เพิ่มเติมจากต่างประเทศ  เราก็ช่วยดำเนินการในเรื่องพิธีการศุลกากรเมื่อของส่งมาถึงประเทศไทยแล้วได้ อย่างฉับพลันทันใด (FAST TRACK) จนทำให้การดำเนินงานของลูกค้าไม่ต้องสะดุดหยุดลง

9. มีทีมสวัสดิการและแรงงานสัมพันธ์คอยเฝ้าดูแลรักษาขวัญและกำลังใจพนักงานทุก คน  มีการจ่ายสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้แก่พนักงานตามที่กฎหมายกำหนดในทุกเรื่อง  โดยเฉพาะในช่วงที่โรงงานต้องปิดดำเนินการชั่วขณะหนึ่ง มีการจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย เช่น หมวกกันน็อค, ผ้าปิดจมูกกันฝุ่นและอื่นๆ  ให้แก่พนักงานที่ช่วยกันฟื้นฟูทำความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์เครื่องจักร  มีการประกาศเชิดชูพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์และได้ช่วยดำเนินการดับไฟ อย่างกล้าหาญ

CEO  เดินแจกเครื่องดื่มในโรงงานขณะที่พนักงานช่วยกันกอบกู้และฟื้นฟูพื้นที่และ สิ่งต่างๆ ให้กลับสู่ภาวะปกติ และได้แสดงความขอบคุณต่อพนักงานทุกคนที่ได้ร่วมกันปกป้องรักษาและฟื้นฟูสิ่ง ต่างๆ จนสามารถทำการผลิตได้ภายในเวลาเพียง 40 ชม. นับจากวันเกิดเพลิงไหม้

10. แสดงความขอบคุณกับทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ  เอกชน  ลูกค้า  SUPPLIERS  ที่ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนเรื่องต่างๆ ในระหว่างที่เกิดภาวะฉุกเฉิน

หนทางหนึ่งในการแสดงความขอบคุณต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ คือ การแสดงศักยภาพของศรีไทยซุปเปอร์แวร์ในการฟื้นกลับ ขึ้นมาจากภาวะวิกฤตมาสู่ภาวะปกติที่พร้อมจะดำเนินธุรกิจได้อย่างฉับพลัน โดยไม่ทำให้ลูกค้า SUPPLIERS  รวมทั้งพนักงานของเราได้รับความเดือดร้อนเสียหาย พร้อมกับสร้างความมั่นใจให้แก่หน่วยราชการและสังคมโดยส่วนรวมได้เห็น ประจักษ์ว่า  ศรีไทยซุปเปอร์แวร์มีศักยภาพใน การป้องกันความเสียหายที่จะเกิดต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมโดยส่วนรวม

11. จะต้องมีทีมงานของบริษัทที่มีความรู้และได้ศึกษาในรายละเอียดของกรมธรรม์ ประกันภัย  ขั้นตอนวิธีการประเมินความเสียหาย ความคุ้มครองในกรมธรรม์อย่างละเอียด เพื่อให้เกิดเข้าใจอย่างถ่องแท้ ในขณะเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่างบริษัท และบริษัทประกันภัย ก็มีส่วนสำคัญในเรื่องการบริหารความเสี่ยงและการสรุปความเสียหายที่เกิดขึ้น ให้เกิดประสิทธิภาพ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยเร็วที่สุด ดังนั้น ความสัมพันธ์อันยาวนานและความเข้าใจซึ่งกันและกัน ความจริงใจต่อกัน จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้การบริหารจัดการเรื่องประกันภัยสำเร็จ ลุล่วงไปด้วยดี

12. มีผู้ตรวจสอบอาคารที่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งวิศวกรที่มีใบ กว.ทำการตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดและได้รับการรับรองมาตราฐานความปลอดภัย ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการผลิตหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้

13. การบริหารจัดการ  วิธีการบริหารจัดการของศรีไทยซุปเปอร์แวร์ที่สะสมมากว่า 47 ปี ทั้งที่เป็นระบบและไม่ค่อยเป็นระบบได้กลายมาเป็น  SRITHAI  WAY ไม่ใช่เป็นเพียงคำพูดสวยหรู  แต่ได้แสดงให้เป็นปรากฎให้เห็นอย่างเด่นชัดในการเผชิญกับเพลิงไหม้ในครั้ง นี้

แต่จะมีอะไรบ้าง ครั้งหน้าเรามาคุยกันต่อ วันนี้สวัสดีครับ