สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

41 ปี โครงการหลวง

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

โดย : ปวิตร สุวรรณเกต pavitsu@yahoo.com


มูลนิธิโครงการ หลวง โครงการแห่งน้ำพระทัยอันยิ่งใหญ่ ที่มีมายาวนานกว่า 41 ปี
เป็นเวลาหลายสิบปีที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทุ่มเทพระวรกายและพระราชหฤทัยที่มุ่งหวังจะรักษาไว้ซึ่งความสุขของประชา ราษฎร์ และความมั่นคงของทรัพยากรแห่งแผ่นดิน พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ เห็นได้อย่างชัดเจนจากโครงการตามแนวพระราชดำริต่างๆ หนึ่งในโครงการตามแนวพระราชดำริที่ชาวไทยรู้จักดี คือ มูลนิธิโครงการหลวง ซึ่งดำเนินงานมายาวนานกว่า 41 ปี

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานเป้าหมายของโครงการหลวงไว้ว่า ช่วยชาวเขาเพื่อมนุษยธรรม ช่วยชาวไทยโดยลดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ คือ ป่าไม้และต้นน้ำลำธาร กำจัดการปลูกฝิ่น รักษาดินและใช้พื้นที่ให้ถูกต้อง คือ ให้ป่าอยู่ในส่วนที่เป็นป่า และทำไร่ ทำสวน ในส่วนที่ควรเพาะปลูก อย่าให้ส่วนทั้งสองนี้รุกล้ำซึ่งกันและกัน ภายหลังทางโครงการหลวงได้เพิ่มเป้าหมายอีกข้อหนึ่ง คือ ผลิตพืชเพื่อเพิ่มประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่ประเทศ เมื่อปัญหาที่อยู่ที่ทำกินของชาวเขาได้รับการแก้ไขและการปลูกฝิ่นหมดสิ้นไป สิ่งที่ชาวไทยได้รับในวันนี้นอกจากทรัพยากรธรรมชาติที่ได้รับการดูแลรักษา ยังมีผลผลิตและผลิตภัณฑ์มากมายเป็นที่รู้จักแพร่หลาย

ในทุกๆ ปี มูลนิธิโครงการหลวงจะจัดงานเพื่อ แนะนำผลผลิตและผลิตภัณฑ์ใหม่ของโครงการฯ โดยงาน โครงการหลวง 41 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-15 สิงหาคม นี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ทางมูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นภายใต้แนวคิด 'อบอวลความรักจากน้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้น'
 

"มีวัตถุประสงค์คือ มุ่งหวังให้ประชาชนชาวไทยได้ประจักษ์ทั่วกันถึงน้ำพระทัยอันเปี่ยมด้วยพระ เมตตาธรรม และพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงสนพระทัยและทรงห่วงใยในทุกข์สุขของเหล่าอาณาประชา ราษฎร์ใต้พระบรมโพธิสมภาร ที่ต้องใช้พระวิริยะอุตสาหะ ด้วยทรงทุ่มเทพระวรกายและพระราชหฤทัยที่มุ่งหวังจะรักษาไว้ซึ่งความสุขของ ประชาราษฎร์ และความมั่นคงของทรัพยากรแห่งแผ่นดิน ซึ่งพระเกียรติคุณนี้มิใช่จะเป็นที่ซาบซึ้งเฉพาะประชาชนชาวไทยเท่านั้น

หากแต่ได้แผ่กระจายไปทั่วโลก จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ไม่อาจมีชีวิตใดที่จะเสียสละได้เท่าเทียมอีก และไม่มีชีวิตใดบนผืนแผ่นดินนี้ที่จะสามารถทดแทนได้" หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ทรงกล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้
 

งาน โครงการหลวง 41 จะประกอบด้วยผลิตภัณฑ์จากร้านโครงการส่วนพระองค์ สินค้าใหม่จากดอยคำ ผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงกว่า 3,000 รายการ ในบรรยากาศไลฟ์สไตล์ซูเปอร์มาร์เก็ตตกแต่งด้วย ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย และดอกกุหลาบพันธุ์ใหม่ โดยมีผลิตภัณฑ์ใหม่ประจำปีคือ มะเขือเทศ 5 สี ฟักทองมินิ และพริกหวานขนาดใหญ่
 

"มะเขือเทศ 5 สี คือมะเขือเทศทั้งหมด 5 พันธุ์ พันธุ์หนึ่งจะมีสีเฉพาะ มีสีเหลือง สีแดง สีชมพู สีม่วง (ช็อกโกแลต) และสีส้ม 5 สีนี้แต่ละสีมีธาตุอาหารที่ดีต่อสุขภาพ อย่างสีแดงมีไลโคปินสูง.. สายพันธุ์ส่วนมากไม่ใช่ของไทย พืชส่วนใหญ่จะนำมาจากในต่างประเทศเขตหนาวแล้วเรานำมาพัฒนา ปรับปรุง คัดเลือก จนกระทั่งมีสายพันธุ์ที่เหมาะสมจึงนำมาใช้กับบ้านเรา" ศาสตราจารย์ ดร.กำพล อดุลวิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาด มูลนิธิโครงการหลวง เล่าให้ฟัง
 

"นักวิทยาศาสตร์ทางอาหารรวมถึงการแพทย์ได้วิเคราะห์ออกมาแล้วว่ามีสารที่ เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เราคงเคยได้ยินแพทย์ หรือนักโภชนาการแนะนำว่า เราควรจะบริโภคผักหลายๆ สีเพื่อให้ได้สารอาหารต่างๆ ที่ครบถ้วน มะเขือเทศนี้มี 5 สี แต่ละสีก็มีประโยชน์ต่อร่างกายเราเลยทำเป็นรวมแพ็คเพื่อให้แม่บ้านมาหยิบ ซื้อไปทีเดียวเพิ่มความสะดวกขึ้น ผมอยากอธิบายและพูดให้ชัดเจนว่ามะเขือเทศ 1 ลูกไม่ได้มี 5 สี หรือว่ามะเขือเทศ 1 ต้นมี 5 สี มันไม่ใช่ แต่ละสีจะมีต้นเฉพาะแต่เราเอาผลมารวมกันเพื่อให้ผู้บริโภคสะดวกมากขึ้น"
 

สำหรับพริกหวาน ศาสตราจารย์ ดร.กำพล บอกว่า "พริกหวาน ภาษาอังกฤษเรียกว่า Bell Pepper เป็นรูปเหมือนระฆัง เพียงแค่ลูกมันใหญ่เพราะเราคัดขึ้นมา ต้นไหนที่คุณภาพดีผลใหญ่เราก็จะพยายามรักษาพันธุ์ไว้โดยใส่ปุ๋ยต่างๆ และดูแลให้ดี พืชทางการเกษตรหลายอย่างเป็นความบังเอิญ คือบางอย่างมีการพัฒนาตนเองและพอเราเห็นว่าดีก็คัดเอาไว้"
 

ศาสตราจารย์ ดร.กำพล บอกว่า เฉพาะพืชผักผลไม้มูลนิธิโครงการหลวงมีหลายชนิดโดย ผลผลิตที่ได้มีความแตกต่างทั้งปริมาณและความต้องการ

"เยอะมากมีหลายชนิดแต่บางชนิดก็มีผลผลิตน้อย เช่น สมุนไพรฝรั่งเรามีหลายชนิดแต่ผลผลิตน้อยเพราะปลูกยาก หรือสมุนไพรพาร์สลีย์ (Parsley) มีความต้องการเยอะแต่มีความต้องการครั้งละน้อยๆ เพราะเก็บไม่ได้นาน ผักที่มากที่สุดคือ ผักกาดขาวปลี ปลูกง่ายและเป็นผักพื้นบ้านใครๆ ก็รับประทาน ราคาไม่แพง อีกอย่างคือผักกาดแก้ว หรือผักกาดหอม ผักพวกนี้จะปลูกได้เยอะ"

พืชผักบางชนิดมีผลผลิตตลอดปี บางชนิดให้ผลผลิตเฉพาะบางฤดูกาล แต่เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นพืชเมืองหนาว ช่วงเวลาที่ผลผลิตดีที่สุดจึงเป็นช่วงฤดูหนาว
 "มะเขือเทศอาจจะมีตลอดปี เพราะไม่ต้องการอากาศหนาวมาก แต่พริกหวานต้องการอากาศหนาวหน่อย ส่วนมากในหน้าหนาวช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ผักจะออกดีมาก สมบูรณ์มาก ในฤดูอื่นๆ อาจจะมีผลผลิตแต่อากาศที่ร้อนและแล้ง ทำให้ได้ผลผลิตน้อย ตอนนี้มีการแปรรูปผักมากขึ้นผักที่มีประโยชน์ต่างๆ จะนำมาทำให้แห้งแล้วบดเป็นแป้ง เมื่อนำไปผสมอาหารทำให้มีคุณค่าอาหารมากขึ้นแทนที่เราจะกินเพียงน้ำผัก" ศาสตราจารย์ ดร.กำพล กล่าว
 

เชฟเนตร-เนตรอำไพ สาระโกเศศ จาก S HEAVEN COOKING STUDIO เป็นคนหนึ่งที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของโครงการหลวง และได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่ของปีนี้มาทำเป็นเมนูอาหารด้วย
 "ที่ร้านจะใช้ วัตถุดิบในประเทศ 95% ของทั้งร้าน ซึ่งเป็นของโครงการหลวงประมาณ 70% เพราะว่ามีความหลากหลาย มีความสดใหม่ และมีคุณภาพที่ดี" เชฟเนตร บอก

"มะเขือเทศ 5 สี เราเลือกเอามาทำเป็นบรูเซตตา เพราะมะเขือเทศ 5 สีจะมีผิวที่บางกว่ามะเขือเทศทั่วไป เนื้อข้างในมีน้ำเยอะ พอรับประทานจะรู้สึกสดชื่น มีรสชาติเยอะทั้งความเปรี้ยวและความหวาน ซึ่งการใช้ 5 สีรวมกันมันดีในแง่ที่ว่ามีหลายขนาดหลายรสสัมผัส รับประทานแล้วอร่อยมาก เพียงแค่นำมาคลุกกับน้ำมันมะกอกและน้ำผึ้งนิดหน่อย เราใช้น้ำผึ้งดอกลำไยซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปของโครงการหลวง นอกจากนี้ก็มีพริกเม็กซิกันซึ่งเป็นพริกของโครงการหลวงเช่นกัน รับประทานพร้อมกับขนมปัง พร้อมกับปลาสเตอร์เจียนซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของโครงการหลวงอีกเหมือนกัน อีกไม่นานโครงการหลวงอาจจะมีคาเวียร์ ซึ่งขณะนี้ก็มีเทร้าส์แล้ว คนส่วนใหญ่คิดว่าโครงการหลวงมีแต่พืชผักแต่เนื้อสัตว์อย่างปลาก็มี"

 ส่วน เชฟเค้ก-แพรทิพย์ จรรยาวงษ์ จากร้านตะลิงปลิง ใช้พริกหวานและมะเขือเทศ 5 สี ปรุงเป็น ยำพริกหวานสามสีไข่ต้มยางมะตูม และ สลัดมะเขือเทศอบแซลมอน 

"โครงการหลวงมีผักตามฤดูกาลเยอะและหลากหลายทำให้สนุกที่จะนำผักตามฤดูกาล นั้นๆ มาทำอาหาร และมีความอร่อยเพราะเป็นของใหม่และสด มีรสชาติในแบบที่ควรเป็น ยำพริกหวานจะเอาพริกหวานมาย่างเป็นกรรมวิธีของฝรั่ง ถ้าให้ดีคือต้องย่างด้วยเตาถ่านให้ข้างนอกเกรียมจะทำให้หอม นุ่ม พักไว้จนอุ่นจะปลอกได้ง่าย เพียงแค่นำมาราดน้ำยำ โรยด้วยกุ้งแห้งฟู ใส่หอมแดง กระเทียม ไข่ต้มยางมะตูม เน้นใช้ของสดซึ่งวิธีการทำไม่ยากมีรสชาติที่คุ้นเคย คนส่วนมากคิดว่าผลิตภัณฑ์ของโครงการหลวงจะต้องทำแต่อาหารฝรั่ง ที่จริงผลิตภัณฑ์โครงการหลวงทำอาหารไทยก็อร่อยเช่นกัน" เชฟเค้ก บอก

"สลัดมะเขือเทศจะนำมะเขือเทศไปอบก่อนทำให้รสชาติเข้มข้นขึ้น คือมะเขือเทศจะมีน้ำเยอะถ้านำไปอบน้ำในมะเขือเทศจะลดลงทำให้รสชาติของมะเขือ เทศเข้มข้นขึ้นหวานขึ้นเปรี้ยวขึ้นทานอร่อยขึ้น แล้วนำมาหมักกับน้ำมันมะกอก กระเทียม สมุนไพรจากโครงการหลวง เช่น ออริกาโน่สด เฟตต้าชีส เป็นของโครงการหลวงมีรสชาติเค็ม มันๆ คล้ายเต้าหู้ นำส่วนผสมทั้งหมดหมักทิ้งไว้ประมาณ 1-2 วัน เมื่อนำไปหมักต่อมะเขือเทศที่เอาไปอบจะไม่แห้งเพราะจะมีน้ำมันมะกอกและกลิ่น ของสมุนไพรซึมเข้าไปทำให้ชุ่มฉ่ำเหมือนเดิม เครื่องเทศและมะเขือเทศเมื่อผสมผสานกันรสชาติจะดีขึ้นและนำน้ำมันที่หมักไว้ นี้คลุกเป็นน้ำสลัด"

ใครอยากปรุงอาหารจากวัตถุดิบของโครงการหลวง เชฟเค้กแนะนำสูตรอาหารที่ทำได้ง่ายๆ ดังนี้
 
ยำพริกหวานสามสี ไข่ต้มยางมะตูม

เครื่องปรุง: พริกหวานสีต่างๆ กระเทียม หอมแดง พริกแดง น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาล

วิธีทำ:
1 ย่างพริกหวานด้วยเตาถ่านจนสุกเป็นสีดำ ใส่ชามปิดด้วยพลาสติกแรพจากนั้นนำมาลอกผิวที่ไหม้ออก แกะเม็ดออกและหั่นพริกเป็นชิ้นๆ จัดใส่จานเตรียมไว้
2 โรยหน้าด้วยกระเทียมฝานบาง หอมแดงฝานบาง พริกแดง
3 ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาล เข้าด้วยกันชิมรส ราดบนพริกยักษ์ให้ชุ่ม
4 โรยด้วยกุ้งแห้งฟูและไข่ต้มยางมะตูม

สลัดมะเขือ เทศอบ แซลมอน

เครื่องปรุง: มะเขือเทศสีต่างๆ น้ำสลัดเชอร์รีเวเนการ์ น้ำมันมะกอก สมุนไพรสด เช่น มาร์โจแรม (Marjoram) โอริกาโน่ (Herb Origano) แซลมอนย่าง ผักสลัดต่างๆ
วิธีทำ:
1 ผ่ามะเขือเทศเป็นชิ้นพอคำ โรยด้วยเกลือทะเล น้ำมันมะกอก และสมุนไพรสด เช่น มาร์โจแรม (Marjoram) โอริกาโน่ (Herb Origano) นำไปอบด้วยไฟ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 3-5 ชั่วโมง เนื้อมะเขือเทศจะตึงตัวและรสชาติจะเข้มข้นขึ้น
2 จัดมะเขือเทศอบใส่ในขวดโหล ราดด้วยน้ำมันมะกอก ใส่สมุนไพรสดและพริกแห้ง หมักไว้ข้ามคืน
3 จัดสลัดผักในฤดูกาลใส่จาน แต่งหน้าด้วยมะเขือเทศอบและแซลมอนย่าง
4 ตักน้ำมันมะกอกในขวดโหลออกมาผสมกับน้ำส้มเชอร์รีเวเนการ์ ปรุงรสด้วยเกลือทะเล
 
 นอกจากเชฟเนตร และเชฟเค้ก ในงาน โครงการหลวง 41 จะมีเชฟมาร่วมสาธิตการประกอบอาหารจากผลิตผลของโครงการหลวงให้แก่ผู้สนใจภาย ในงานด้วย อาทิเช่น คุณ จำนงค์ นิรังสรรค์ นายกสมาคมพ่อครัวไทย คุณ สุทธิพงษ์ สุริยะ ฟู้ดสไตล์ลิสต์ เจ้าของขาบสตูดิโอ (KARB STUDIO) คุณ ดวงพร ทรงวิศวะ เจ้าของร้านโบลาน คุณ บรรณ บริบูรณ์ จากรายการครัวอินดี้ และวิทยากรจากสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
 

ภายในงานยังประกอบด้วยนิทรรศการจัดแสดงประวัติความเป็นมาของโครงการหลวง และผลผลิตของโครงการหลวงตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโครงการและสามารถพัฒนาได้มาถึง ปัจจุบัน เพื่อให้ได้ประจักษ์ถึงน้ำพระทัยอันเปี่ยมด้วยพระเมตตาธรรมและพระมหา กรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

*****เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย********

มะเขือเทศ 5 สี : ประกอบด้วย สีแดง สีเหลือง สีชมพู สีส้ม และสีช็อกโกแลต

เป็นมะเขือเทศสำหรับรับประทานสด ผลกลมถึงกลมแป้น เนื้อฉ่ำน้ำ รสเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อย สารสีแดง 'ไลโคพีน' (lycopene) ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากมากกว่าเบต้าแคโรทีนถึงสองเท่า รวมทั้งมะเร็งเต้านม กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ มีวิตามินซี อี เบต้าแคโรทีน โพแทสเซียม ช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส ให้แคลอรีต่ำ

ฟักทองมินิ : มีเบต้า-แคโรทีน ช่วยป้องกันมะเร็ง เนื้อฟักทองสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยควบคุมสมดุลในร่างกาย

พริกหวานขนาดใหญ่ : สีแดง สีเขียว และสีเหลือง ให้คุณค่าทางวิตามินเอ บี1 บี2 และซี สูงกว่าพริกหวานทั่วไป และยังมีสารแคปไซซิน ช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือด โรคต้อกระจก โรคมะเร็ง

Tags : โครงการหลวง

view