จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ ถามมา-ตอบไปสไตล์คอนซัลท์
โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา apiwut@riverorchid.com
บท ความก่อนหน้านี้ ผมได้พูดคุยถึงแนวทางในการรับมือกับความผิดพลาดที่เพื่อนร่วมงานทำแล้วส่งผล มาที่งานหรือตัวของเรา โดยได้แนะนำไปก่อนใน 2 ขั้นตอนแรก คือ การวินิจฉัยปัญหา และการเข้าหาเพื่อพูดคุย ในฉบับนี้เราจะคุยกันต่อถึงขั้นตอนถัดไป
คือการให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุน
ถ้า ปัญหาความผิดพลาดของเพื่อนร่วมงานที่เกิดขึ้น เป็นปัญหาระยะสั้น เช่น เพื่อนของคุณมีปัญหาบางอย่างที่บ้านหรือเจ็บป่วยไม่สบาย คุณอาจจะอาสาเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนของคุณเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างกัน แต่ต้องยอมรับว่าในโลกของการทำงานปัจจุบัน ความสัมพันธ์มีผลต่อความก้าวหน้าและความสำเร็จ อย่างที่ฝรั่งว่าไว้คือ Know Who is more important than Know How แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณสร้างมันขึ้นมาก่อน
การ ช่วยเหลือที่ว่านี้ ไม่ได้หมายถึงการช่วยเหลือด้วยการกลบเกลื่อนความผิดหรือปัญหา แต่เป็นการเข้าไปช่วยทำงานให้ หรือใช้เวลามากขึ้นในการตรวจเช็กงาน ของเขา หรืออาจหมายถึงการช่วยอธิบายให้เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ฟังถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
แต่หากเป็นปัญหาในระยะยาว เช่น การขาดทักษะในการทำงานของเพื่อนร่วมงานของคุณ ซึ่งคุณสามารถช่วยได้ด้วยการเข้าไปมีส่วนร่วมในการหาแนวทางการแก้ปัญหาระยะ ยาว หรืออาจจะเข้าไปมีส่วนช่วยในการสร้างทักษะให้กับเขาก็ได้
แต่คง ไม่ดีนักที่จะปล่อยให้เพื่อนของคุณทำงานผิดพลาดอยู่ตลอดเวลา ผมเข้าใจดีว่าในโลกของการแข่งขันที่มีอยู่สูงมาก ในปัจจุบัน การปล่อยให้คนอื่นหมดโอกาสไปด้วยตัวของเขาเอง เป็นอะไรที่หลายคนนิยมทำกัน ซึ่งจริง ๆ แล้วการไม่ปล่อยให้เขาหมดโอกาสน่าจะสร้างบรรยากาศในการทำงานที่ดีกว่า ความดีในการช่วยเหลือของเราจะเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีงาม และในอนาคตใครจะไปรู้เขาอาจกลับมาช่วยในยามที่คุณอยู่ในสถานการณ์คับขัน อย่างนิทานอีสปเรื่อง หนูกับราชสีห์ก็เป็นได้
ดังนั้น จึงต้องปกป้องตนเอง
อย่าง ที่บอกก่อนหน้าที่ว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในบางครั้งอาจเกิดขึ้นโดยเจตนาของผู้กระทำ เช่น เพื่อนร่วมงานของคุณอาจทำความผิดพลาดอย่างตั้งใจเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ ดีให้กับคุณ หรือเพื่อนขโมยผลงานของคุณ ซึ่งการเมืองในองค์กรลักษณะนี้เป็นสิ่งที่รับมือได้ยาก แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นอะไรที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก ดังนั้นเหตุผลของความผิดพลาดเช่นนี้ควรจะเป็นเหตุผลสุดท้ายที่คุณจะคิดถึง เมื่อเพื่อนร่วมงานของคุณทำงานผิดพลาด
ดังนั้น ถ้าคุณพบกับเพื่อนร่วมงานลักษณะนี้ ควรจะคุยกับเขาตรง ๆ และหากการคุยตรง ๆ ไม่ประสบความสำเร็จ ลองใช้วิธีดังต่อไปนี้
1.ทำ ให้งานของคุณเด่นออกมาอย่างชัดเจน (อย่าปิดทองหลังพระ) แต่ไม่ใช่ให้คุณออกไปโม้หรือโอ้อวด จงใช้คำพูดที่บ่งบอกว่าคุณเป็นคนทำงานนั้น ๆ ออกมา เช่น ดิฉันได้วิเคราะห์แล้วว่าเราควรจะลงทุนเพิ่มเติมตรงไหน โดยเอกสารที่อยู่ตรงด้านหน้าของทุกท่านเป็นเอกสารที่ดิฉันได้ทำขึ้นมาเพื่อ สนับสนุนผลการวิเคราะห์ของดิฉัน ไม่ใช่ผลวิเคราะห์ที่อยู่ด้านหน้าที่เป็นสิ่งบ่งบอกว่าเราควรจะลงทุนเพิ่ม เติมตรงไหน
2.เป็นผู้นำเสนอผลงานเมื่อต้องนำเสนองานที่ทำร่วมกัน เพราะคนส่วนมากมักคิดว่าผู้ที่นำเสนอ หรือคนที่อยู่หน้าห้องจะเป็นผู้นำของกลุ่ม หรืออย่างน้อยก็เป็นคนทำงานมากที่สุดในโครงการนั้น ๆ
3.รับเครดิตที่ คุณควรจะได้เมื่อเวลามาถึง แต่นี่ไม่ได้หมายถึงการคุยโว แสดงให้คนอื่นเห็นถึงสิ่งที่คุณทำ แต่อย่างน้อยต้องให้หัวหน้ารู้ว่าคุณทำอะไร มีส่วนร่วมตรงไหน และอะไรเป็นผลงานที่คุณทำออกมา
แต่ถ้าปัญหายังคงอยู่ล่ะ ?
หาก คุณทำทุกวิถีทางในการแก้ไข ความผิดพลาดของเพื่อนร่วมงานของคุณ ปัญหาก็ยังคงอยู่ สิ่งที่คุณควรทำจึงมีอย่างสองอย่าง คือ พยายามหาทางที่จะไม่ทำงานร่วมกับเขา หรือหาทางพูดคุยปัญหานี้กับหัวหน้าของคุณ อธิบายให้เห็นว่าคุณได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว จากนั้นให้ถามเพื่อขอคำแนะนำ อย่ากดดันให้หัวหน้าตัดสินว่าใครผิดใครถูก
แต่หากกรณีที่สถานการณ์ รุนแรงมาก เช่น โครงการจะล่มสลายจากความผิดพลาดของเพื่อนร่วมงานของคุณ คุณควรจะขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าของเพื่อนร่วมงานของคุณด้วย แต่วิธีการนี้อาจ หมายถึงความสัมพันธ์ที่ล่มสลายระหว่างคุณและเพื่อนร่วมงานของคุณก็เป็นได้
ดัง นั้น เรื่องนี้จึงควรเป็นแนวทางสุดท้ายที่จะทำ พยายามคุยกับเพื่อนร่วมงานของคุณก่อน คุยกับหัวหน้าของคุณแล้วถ้าไม่เป็นผลจริง ๆ จึงค่อยคุยกับหัวหน้าของเพื่อนของคุณ
ผมหวังว่านี่จะเป็นทริกและเท คนิ เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พอจะช่วยในการขจัดปัญหาความผิดพลาดของเพื่อนร่วมงานของคุณได้บ้าง ไม่ว่าอย่างไรจงพยายามคิดไว้ก่อนว่า เพื่อนร่วมงานของคุณไม่ได้เจตนาที่จะทำให้เกิดความผิดพลาดเหล่านี้ขึ้น
เพราะการคิดเช่นนี้จะทำให้คุณสบายใจได้มากขึ้นว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดโดยสุจริตใจของเขาเท่านั้นจริง ๆ