สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เปิดสูตร ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง สร้างความสำเร็จบนโลกออนไลน์

จากประชาชาติธุรกิจ

ด้วย สถิติที่เติบโตอย่างรวดเร็วของเฟซบุ๊กในประเทศไทย จากต้นปี 2010 มีผู้ใช้บริการ 1.5 ล้านคน กระโดดเพิ่มเป็น 5.5 ล้านคนภายใน 8 เดือน ถือเป็นคอมมิวนิตี้ขนาดใหญ่ที่ทำให้นักการตลาดสนใจและต้องการเข้าไปมีส่วน ร่วมเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจจนทำให้เกิดคำถามตามมาว่า "จะนำเครือข่ายสังคมมาใช้เป็นเครื่องมือทำตลาดอย่างไรให้ชนะใจผู้บริโภค"

"ดร.เอียน เฟนวิค" ผู้คร่ำหวอดในวงการดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ผู้ก่อตั้ง บริษัท ดิจิเอนดร้า จำกัด ให้บริการด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง และยังเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์องค์กรธุรกิจในและต่าง ประเทศ เช่น กลุ่มปูนซิเมนต์ไทย, เอซีนีลเส็น, แลนด์แอนด์เฮ้าส์ รวมถึงเป็น ที่ปรึกษา และอาจารย์หลักสูตรเอ็กคลูซีฟเอดูเคชั่นของสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ ได้แสดงมุมมองการใช้งานบน เครือข่ายสังคมไว้อย่างน่าสนใจ

ดร.เอียน เล่าว่า การเติบโตของ เครือข่ายสังคมในไทยมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดมาก ขณะที่ในต่างประเทศเริ่มเห็นการใช้เวลาบนเครือข่ายสังคมเพิ่มขึ้นเป็นสอง เท่าตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเป็นเทรนด์ต่อเนื่องจนเครือข่ายสังคมกลายเป็นสื่อกระแสหลักที่คน จะทุ่มเทเวลาอยู่ด้วยมากขึ้น แต่เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นเร็วหรือช้าแค่ไหนขึ้นอยู่กับความพร้อมของ ผู้ใช้งาน เพราะปัจจุบันนักการตลาด ทั่วโลกยังใช้งบประมาณการตลาดไปกับ สื่อดั้งเดิมในสัดส่วนที่มากกว่าสื่อออนไลน์

สำหรับในประเทศไทย เท่าที่สัมผัส พบว่าความเข้าใจด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วง 12 เดือน ที่ผ่านมา ปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ มีความตระหนักรู้ที่จะลงมือทำบางสิ่งบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร

ที่ปรึกษาศศินทร์เผยกุญแจสำคัญของใช้งานเครือข่ายสังคมให้ประสบ ความสำเร็จว่า จะต้องทำให้แบรนด์ของเรามีความเป็นมนุษย์ คือคุยกันลักษณะไม่เป็นทางการ มีความเป็นกันเอง ตรงไปตรงมา และมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกัน โดยเฉพาะนักการตลาดที่ฉลาดจะต้องไม่ทำตัวควบคุมการสื่อสารที่เกิดขึ้นใน เครือข่ายสังคม แต่จะเน้นการสร้างความกลมกลืนและเป็นส่วนหนึ่งกับผู้ใช้งาน

ดร.เอียน ยังเผยเคล็ดลับว่า สูตรสำหรับดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ประกอบด้วย "5 P" คือ "Permission" การขออนุญาต เพราะหากเจ้าของเครือข่ายสังคมไม่อนุญาต สิ่งที่เข้ามาจะกลายเป็นสแปม หรือขยะทันที "Participation" การมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างจากสื่อดั้งเดิม และทำให้คอนซูเมอร์เข้ามาใช้งาน "Profile" ข้อมูลส่วนตัว ซึ่งจะทำให้คนเข้ามารู้จักตัวเรามากขึ้น

"Personal" ลักษณะเฉพาะบุคคล เพราะเครือข่ายสังคมจะทำให้เราแสดงความเป็นตัวของตัวเองขึ้นมา บอกความ ต้องการ ทำให้นักการตลาดสามารถเสนอสินค้าที่ตรงความต้องการได้ และ "Pivacy" ต้องไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว ซึ่งจะทำให้คนรู้สึกกลัว

"หากนักการ ตลาดเข้าใจและทำ 5 P ได้สำเร็จ การขายสินค้าแบบฮาร์ดเซลจะไม่เกิดขึ้น เพราะนักการตลาดจะเสนอสิ่งที่ "ใช่" และตรงความต้องการของลูกค้า"

ปัจจุบัน มีแบรนด์จำนวนมากที่ใช้เครือข่ายสังคมเป็นช่องทางทำตลาด แต่หากพูดถึงแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในด้านจำนวนแฟนเพจ คือ แบรนด์ "สตาร์บัคส์" หรือ "โคคา-โคลา" ซึ่งมีแฟนเพจระดับหลักล้านคน แต่หากดูในแง่ของการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค อาจจะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เพราะมีการพูดเรื่องที่ไร้สาระ หรือขยะเกิดขึ้นในหน้าแฟนเพจค่อนข้างมาก แตกต่างจากหน้าเฟซบุ๊กของ "Toy Story 3" และ "เรดบูล" แม้ว่าจะมีจำนวนแฟนเพจน้อย กว่า แต่การเข้ามามีส่วนร่วมของผู้บริโภค บทสนทนา และคอนเทนต์ที่เกิดขึ้น กลับมีคุณภาพมากกว่า

แม้ว่า เฟซบุ๊กกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และหลายแบรนด์นำมาใช้เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้บริโภค แต่หากดูในภาพรวม ถือว่าไทยยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นของยุคดิจิทัลเท่านั้น และทุกสิ่งอย่างอาจจะเปลี่ยนแปลงภายใน 5 ปี

สุดท้ายเขายังให้คำแนะนำ องค์กรในไทยถึงการใช้งานเครือข่ายสังคมให้ประสบความสำเร็จด้วยว่า ต้องมีความโปร่งใส ตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ เพราะทุกการทำงานบนเครือข่ายสังคมมีคนติดตามและตรวจสอบอยู่เสมอ นอกจากนี้ ต้องฟังก่อนที่จะพูด หรือลงมือทำสิ่งใด และสุดท้าย คือการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้งาน หากมีเรื่องร้องเรียนเกิดขึ้น ต้องจัดการแก้ปัญหา ห้ามหลีกเลี่ยงเด็ดขาด เพราะถ้าไม่แก้ปัญหาจะเกิดปฏิกิริยาตอบโต้ที่แรงกว่าเดิม

Tags : เปิดสูตร ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง สร้างความสำเร็จ โลกออนไลน์

view