สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

อุดรฯ สองด้าน

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


 

ตอนที่รถจอด เทียบข้างสนามหญ้านั้น สายตาหลายคู่จากหลายจุดต่างจับจ้องมายังผู้มาเยือน ราวเป็นความแตกต่างที่นำพาสิ่งสงสัยมาสู่ผู้เหย้าเจ้าถิ่น
ตอน ที่รถจอดเทียบข้างสนามหญ้านั้น สายตาหลายคู่จากหลายจุดต่างจับจ้องมายังผู้มาเยือน ราวเป็นความแตกต่างที่นำพาสิ่งสงสัยมาสู่ผู้เหย้าเจ้าถิ่นในชั่วขณะเวลานั้น แต่หลังจากแจ้งที่มาที่ไปต่อกัน แล้วบรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นความเข้าใจ และพร้อมหยิบยื่นช่วยเหลือต่อกันทั้งในด้านบทบาทหน้าที่และน้ำใจไมตรีแห่ง มิตรภาพ

บางคนเพิ่งออกเวรด้วยซ้ำยังกระตือรือร้นกับการเป็นธุระเรื่องไฟฟ้า และห้องน้ำให้กับผู้มาเยือน พร้อมออกตัวว่าอาจขลุกขลักไปบ้าง เพราะที่นี่ปกติไม่มีใครแวะเข้ามา ด้วยเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งใหม่ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักของกลุ่มนักท่อง เที่ยวคนเดินทาง งานส่วนใหญ่ของเจ้าหน้าที่ฯทั้งหลายจึงอยู่กับการดูแลรักษาผืนป่ามากกว่าส่ง เสริมการท่องเที่ยว

ย้อนไปเมื่อบ่าย 4 โมงกว่าๆ ผมลงจากรถเดินไปถามทางเพื่อความแน่ใจจากชาวบ้าน แต่คำตอบที่ได้รับจากหญิงร่างท้วมคือ "ไม่รู้จัก" หากในรอยยิ้มนั้นยังแนะนำให้ข้ามถนนไปถามกับชายวัยกลางคนที่จอดมอเตอร์ไซค์ ยืนอยู่ที่ประตูรั้วหน้าบ้าน พ่อพิมพ์ของชาติบอกย้ำในเส้นทาง และช่วยให้สบายใจขึ้นว่าเรามาถูกทางแล้ว
 ขณะที่เขาไขกุญแจเข้าบ้าน ผมกับเพื่อนๆ ก็ออกรถมุ่งสู่จุดหมาย
ตั้งแต่ อ.นายูง บนทางหลวงสาย 2376 เมื่อถึงที่ทำการ อบต.บ้านสว่าง เลี้ยวซ้ายเข้ามาตามทางลูกรัง แม้ถนนจะไม่สู้ดีนัก แต่ป้ายบอกทางไป อุทยานแห่งชาตินายูง-น้ำโสม ก็ทำให้มั่นใจว่ามีปลายทางอยู่ข้างหน้า
 เงียบ สงบในยามเย็นที่เริ่มมีสายลมโชยพัดมาเยือน ขณะที่ดวงตะวันราวกับอ้อยอิ่งก่อนลับหายไปในที่สุด เปิดที่ทางให้ความสงัดแห่งคืนค่ำเข้ามาแทน

ช่วงหัวค่ำเหลือเจ้าหน้าที่อยู่เวรสองคนเท่านั้น นอกนั้นก็มีแต่พวกเรากลุ่มผู้มาเยือนที่อาศัยศาลาทรงกลมหลังที่อยู่ใกล้ที่ ทำการฯเป็นที่พักอาศัยกางเต็นท์ ด้วยไม่แน่ใจว่าจะมีฝนเทลงมากลางดึกหรือเปล่ากับความไม่ค่อยแน่นอนของฤดูกาล ที่ยากกับการคาดเดา
 

ที่นี่ไม่มีบ้านพักไว้บริการ ไม่มีร้านอาหาร รวมถึงเต็นท์และอาหารก็ต้องจัดเตรียมมาเองด้วย แต่สิ่งที่มีมากมายให้เลือกใช้ได้เต็มที่คือ 'เวลา' ผมพบว่าการมีสิ่งอำนวยความสะดวกน้อยเท่าไรเราก็จะยิ่งมีเวลามากขึ้นเท่านั้น ทั้งเวลาที่จะได้อยู่กับการพึ่งพาตัวเอง รวมถึงเวลาว่างที่มากพอให้พักผ่อนเดินชมนก ชมไม้ไปตามประสา และเพื่อยืนยันว่าเวลามีมากจริงๆสำหรับที่นี่ก็คือพี่ๆ บางคนในกลุ่มของเรานั่งอ่านหนังสือกันตอนช่วงเย็นจนแสงตะวันลับฟ้าไปคาตา
 

อากาศเย็นขึ้นทีละน้อยแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่บรรยากาศเช่นนี้เป็นอื่นไม่ได้นอกจากจะเย็นจัดในช่วงกลางดึก ด้วยเพราะเป็นอุทยานฯที่ประกอบไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อน ปกคลุมไปด้วยป่าหลายชนิดทั้งป่าเบญจพรรณ ป่าดิบเขา ป่าดิบชื้น ฯลฯ จึงทำให้เป็นพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำและมีความหลากหลายทางชีวภาพ
 

ในด้านพื้นที่ นอกจากอยู่ในเขตจังหวัดอุดรธานี แล้ว ยังครอบคลุมไปถึงพื้นที่ของจังหวัดเลย (ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเขาแก้ว-ดงปากชม) และจังหวัดหนองคาย (ป่าสงวนแห่งชาติป่าพรานพร้าว-แก้งไก่) อีกด้วย

นับเป็นอีกคืนที่ชีวิตได้เดินทางมาพักค้างอ้างแรมในพื้นที่รอยต่อของหลายจังหวัด ทั้งยังเป็นด้านหนึ่งของเมืองอุดรอันกว้างใหญ่ จากปีกตะวันตกพรุ่งนี้แต่เช้าเราจะออกเดินทางเพื่อไปยังอีกด้านของเมืองอุดรทางปีกตะวันออก
 เป็น 'อุดรฯ สองด้าน' ผ่านการเดินทาง

ความจริงบรรยากาศนั้น เหมาะกับการนอนเป็นที่สุด ไหนจะอุณหภูมิลดต่ำ ฟ้าก็ยังมืด แถมมีน้ำค้างอีกด้วย แต่ก็แปลก การเดินทางค้างแรมในเขตอุทยานฯที่มีแต่ป่าเขากลับมีบางเสียงเรียกให้ต้อง ตื่นขึ้นมาตั้งแต่ก่อนไก่โห่ แรกๆ ก็ลำบากอยู่เหมือนกัน แต่ไม่นานทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางไปเอง

เป็นประสบการณ์ที่ดีมากยามได้นั่งรอบกองไฟ ทั้งการได้คลายหนาวและรอเวลาน้ำเดือดกับกาแฟอุ่นๆ ให้นั่ง ยืน หรือเดินรอเห็นแสงวันใหม่ในดินแดนที่ไม่คุ้นเคย

เจ้าหน้าที่ฯตื่นเช้ากว่าพวกเรา โดยมาก่อไฟตั้งน้ำรออยู่ก่อนแล้วถือว่าเป็นน้ำใจที่แม้ไม่ใหญ่โตเช่นในวิธี คิดของความหมายแห่งราคา แต่มูลค่าทางจิตใจที่หยิบยื่นให้ต่อกันในฐานะเพื่อนมนุษย์มันทำให้เรายัง เชื่อได้ว่ามีเรื่องดีๆ มากมายอยู่รอบตัว และเราไม่ควรมองข้าม

แม้ผมจะออกมาจากเต็นท์แทบจะช้ากว่าใครๆ แต่ก็ยังไม่ช้าเกินไปกับการได้มาร่วมวงรอบกองไฟ เพราะทั้งในไออุ่นจากดุ้นฟืนสุมไฟกับรสกาแฟละเมียดในน้ำเดือดจากหม้อต้มช่าง เป็นช่วงเวลาที่ดีเหลือเกิน

กองไฟยังไม่มอดดับตอนที่แสงเช้าเข้ามาแทรกอยู่รอบบริเวณ เจ้าหน้าที่ฯเล่าให้ฟังถึงการปฏิบัติหน้าที่และจับยึดไม้ที่ถูกลักลอบตัดและ แปรรูปได้กลางป่า ไม้ชิงชัน สองแผ่นนั้นยังวางนิ่งอยู่ในเพิงสำหรับจอดรถด้านข้างที่ทำการฯ

ฟ้าสว่างเห็นทางเดิน กาแฟหมดถ้วยกันแล้วจึงเป็นเวลาของการยืดเส้นยืดสายออกกำลังกายยามเช้าด้วย การขึ้นภูเขาไปยัง น้ำตกยูงทอง  ซึ่งเจ้าหน้าที่ฯ บอกว่าช่วงนี้น้ำจะน้อยเพราะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว แต่ทางเดินขึ้นไปสะดวกสบายด้วยมีการปรับสภาพพื้นที่เป็นขั้นบันไดเทปูนอย่าง ดี

ทางดีจริงๆ สมคำบอกกล่าว แต่ต่อให้ทางดีขนาดไหนขึ้นชื่อว่าไต่ขึ้นภูเขาสูงแล้วย่อมหนีไม่พ้นความ เมื่อยที่ทำเอาน่องตึง และเหงื่อซึมได้เลยกว่าจะถึงบริเวณตัวน้ำตกซึ่งเต็มไปด้วยหินก้อนขนาดมหึมา มากมาย จินตนาการดูหากเป็นช่วงหน้าฝนปริมาณน้ำคงเยอะกว่านี้มากและจะท่วมก้อนหิน เหล่านี้ไปด้วยในบางส่วน สังเกตได้จากรอยคราบน้ำ

น้ำที่ไหลลงมาจากชะง่อนหินของลานผาด้านบนทิ้งสายทางความสูงราว 17 เมตร โดยน้ำตกแบ่งได้เป็นสามชั้นใหญ่ๆ ในอดีตเล่ากันมาว่าบริเวณนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยและหากินของฝูงนกยูงที่มี มากมายเต็มท้องทุ่ง อันเป็นที่มาของชื่อน้ำตกยูงทองแห่งนี้

ป่าไผ่ขนาบสองฟากทางเดิน ทางเดินทุกระยะจึงมีใบไผ่แห้งปลิดขั้วร่วงหล่นอยู่เต็มไปหมด หลายช่วงของทางเดินขาลงที่รวดเร็วกว่าขาขึ้น ในเวลาที่แสงสว่างทะลุลอดลงมามากพอ จะสังเกตเห็นวงจรชีวิตรอบตัว ฝูงมดที่ชักแถวเดินตัดผ่านขั้นบันไดทั้งลอดผ่านและย่ำข้ามไปบนใบไผ่ที่ร่วง ปกคลุมพื้นดิน 'คน' กับ 'มด' จึงใช้เส้นทางเดินเดียวกัน

แน่นอนว่ามดทั้งฝูงหรือแม้แต่มดตัวใดตัวหนึ่งคงไม่สามารถเหยียบย่ำคนได้ ฉะนั้นไม่ว่าจะเรียกตัวเองว่ามนุษย์หรือคน เราควรระมัดระวังอย่าเผลอไปเหยียบฝูงมดเข้า ในเมื่อทางออกกว้างทำไมต้องไปเบียดเบียนกันด้วย

นอกจากบริเวณน้ำตกแล้วระหว่างทางยังมีหินก้อนใหญ่ๆ อยู่ตลอดข้างทาง บางก้อนด้านบนเรียบคล้ายพื้นกระดานจึงมีใบไผ่และใบไม้อื่นๆ ร่วงลงมาทับกันหนา ส่วนตามซอกหินหากสังเกตดีๆ จะพบพืชชั้นต่ำจำพวกเฟิร์น ไลเคนเกาะอยู่เพราะพืชพวกนี้เติบโตได้ดีในพื้นที่และอากาศที่ชุ่มชื้น รวมถึงไม่ต้องการการหยั่งรากลึก เหล่านี้จึงเป็นความพอเหมาะลงตัวที่ธรรมชาติได้จัดสรรมาแล้ว

สิ่งละอันพันละน้อยในความเป็นธรรมชาติยังเอื้อความรู้ให้กับเราได้เสมอ เป็นความจริงที่นำไปปรับใช้กับชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เคยตกยุค หรือล้าสมัย

ที่สำคัญใครๆ ก็สามารถนำไปใช้ได้


(โปรดติดตามตอนจบสัปดาห์หน้า)

Tags : อุดรฯ สองด้าน

view