สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

แกรนท์ ธอร์นต้น เผยธุรกิจในไทยมีทัศนคติด้านบวกสูงขึ้นต่ออนาคตศก.ของปท.

แกรนท์ ธอร์นต้น เผยธุรกิจในไทยมีทัศนคติด้านบวกสูงขึ้นต่ออนาคตศก.ของปท.

จากประชาชาติธุรกิจ

วันนี้ (11 พ.ย.) แกรนท์ ธอร์นต้น เผยแพร่รายงานผลการสำรวจธุรกิจนานาชาติ หรือ “International Business Report: Thailand Country Focus” โดยเป็นการเปรียบเทียบประเทศไทยกับอีก 35 ประเทศในหลายมุมมอง อาทิ ทัศนคติด้านบวกต่อเศรษฐกิจ การจ้างงาน ความคาดหวังต่อรายรับ ข้อจำกัดในการเติบโตของธุรกิจ ความคาดหวังต่อความสามารถในการทำกำไร การสนับสนุนของหน่วยงานที่ให้กู้ยืมเงิน การควบรวมกิจการ และทักษะของบุคลากร   รายงานผลการสำรวจธุรกิจนานาชาติของแกรนท์ ธอร์นตัน หรือ The Grant Thornton International Business Report (IBR) 2010 เป็นรายงานประจำปีที่สำรวจทัศนคติของผู้บริหารระดับอาวุโสในธุรกิจเอกชน (Privately Held Businesses: PHBs) กว่า 7,400 ราย ใน 36 ประเทศกลุ่มเศรษฐกิจทั่วโลก เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2009 แล้ว ผลการสำรวจของปีนี้เผยว่าธุรกิจในเกือบทุกประเทศมีทัศนคติด้านบวกสูงขึ้นต่อ แนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้า


นับเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ที่ประเทศชิลีนำประเทศอินเดียในฐานะประเทศที่มีทัศนคติด้านบวกสูงสุด ด้วยดุลยภาพสุทธิ ที่ +85% (-24% เมื่อปี 2009) ตามด้วยอินเดียที่มีค่าดุลยภาพใกล้เคียงกันที่ +84% ในขณะที่ญี่ปุ่นยังคงอยู่อันดับท้ายสุดด้วยดุลยภาพที่ -72% ทั้งนี้ โดยรวมแล้ว ทัศนคติด้านบวกของธุรกิจทั่วโลกได้ปรับตัวสูงขึ้นจากปี 2009 โดยในปีนี้ ค่าดุลยภาพที่ +24% จากธุรกิจในทุกประเทศนั้นแสดงทัศนคติด้านบวกต่อสภาพเศรษฐกิจในประเทศของตน เปรียบเทียบกับค่าดุลยภาพที่ -16% เมื่อปี 2009


สำหรับประเทศไทย รายงานของปีนี้มุ่งเน้นเกี่ยวกับประสบการณ์และทัศนคติของผู้บริหารธุรกิจ เอกชน ตลอดจนผลกระทบของความผันผวนของเศรษฐกิจต่อธุรกิจ และการรับมือกับการพลิกฟื้นของเศรษฐกิจของประเทศ


แกรนท์ ธอร์นตัน มองประเทศไทยมีอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นสำหรับโอกาสทางธุรกิจและการฟื้นตัวจาก การส่งออก แม้ว่าเกิดความไม่สงบทางการเมืองและการชะลอตัวของภาคการท่องเที่ยวในไตรมาส ที่ 1-2 ก็ตาม


นายเอียน แพสโค กรรมการบริหาร แกรนท์ ธอร์นตัน ประเทศไทย กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจประเทศไทยโดยรวมในปี 2010 นั้นปรับตัวดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างมาก แม้ว่าความไม่สงบทางการเมืองในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้จะส่งผลให้รายได้จาก อุตสาหกรรมท่องเที่ยวลดลง  ในส่วนของ GDP ก็ขยายตัวอย่างไม่คาดฝันที่ 0.2% ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งตรงข้ามกับคาดการณ์ที่ว่า GDP จะหดตัวลง 3.5% เนื่องมาจากความไม่สงบทางการเมืองในประเทศ


ทั้งนี้ รายงานของเราแสดงให้เห็นว่าธุรกิจในประเทศไทยมีทัศนคติด้านบวกสูงขึ้นอย่าง มากในปีนี้ เมื่อมองเศรษฐกิจโดยรวม แม้ว่าธุรกิจจำนวนน้อยกว่าครึ่งหนึ่งคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวอยู่ในขา ขึ้นในปลายปี 2010  ยิ่งไปกว่านั้น ในด้านความคาดหวังในการทำกำไร ค่าดุลยภาพ (ของธุรกิจในประเทศไทยที่คาดหวังจะเพิ่มผลกำไร) สูงขึ้น 50% ในปีนี้เป็น +30%”


The Grant Thornton IBR 2010 รายงานว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2010 มีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาโดยเป็นผลจาก การส่งออก อย่างไรก็ตาม การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเดือนมีนาคม 2010 ได้ฉุดรั้งการเติบโตและส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว  ในขณะเดียวกัน การแข่งขันที่สูงขึ้นในระดับนานาชาติบ่งบอกว่าประเทศไทยจำเป็นต้องยกระดับ ทักษะแรงงานและความสามารถในการผลิตเพื่อให้แข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพใน ระยะยาว   นอกจากนี้ มีสัญญาณบ่งชี้ที่สำคัญประการอื่นๆ ได้แก่ การส่งออกเดือนมิถุนายนสูงขึ้น 46% เป็นมูลค่า 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น 40% เป็น 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ประเทศไทยมีดุลการค้าเกินดุลอยู่ที่ 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ   ธุรกิจในประเทศไทยมีทัศนคติด้านบวกสูงขึ้นอย่างมากต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ในปี 2010 โดยมีค่าดุลยภาพทิศนคติด้านบวก/ลบสูงขึ้นอย่างมาก จาก -63% เมื่อปี 2009 เป็น +12% ในปี 2010


ค่าดุลยภาพของธุรกิจในประเทศไทยที่คาดหวังว่าการจ้างงานจะขยายตัวในปี 2010 อยู่ที่ +28% เปรียบเทียบกับ -1% เมื่อ 12 เดือนก่อนหน้า ส่วนค่าเฉลี่ยสำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกสูงขึ้น 25% จาก +8% เมื่อปี 2009 เป็น +33% ความคาดหวังต่อรายรับสูงขึ้น 53% เป็น +39% ในปีนี้ จาก -14% เมื่อ 12 เดือนที่ผ่านมา ความคาดหวังต่อความสามารถในการทำกำไรนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของเอเชีย-แปซิฟิก (26%)


แกรนท์ ธอร์นต้น คาดการณ์ระบุว่า GDP ของประเทศไทยน่าจะเติบโตในอัตรา 5.5% ในปี 2010 โดยเป็นผลจากการขยายตัวของคู่ค้าของประเทศไทย โดยเฉพาะในเอเชียที่คาดว่าจะขับเคลื่อนการเติบโตเป็น 11.3% ในปี 2010 นอกจากนี้ คาดว่าการนำเข้าจะมีการเติบโตใกล้เคียง 15% เนื่องด้วยอุปสงค์จากอุตสาหกรรมการผลิตและการบริโภคจากภาคเอกชนสูงขึ้น ส่วนการท่องเที่ยว คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปีเนื่องจากเชื่อว่าการฟื้นตัวจากผลกระทบ ของการชุมนุมทางการเมืองที่ใช้เวลา 6 เดือน


อุตสาหกรรมการจัดการประชุมและสัมมนาก็เป็นอีกหนึ่งที่น่าเป็นห่วง ส่วนใหญ่แล้วการจัดอีเว้นท์จะมีการวางแผนล่วงหน้าประมาณ 18 เดือน - 2 ปี และเนื่องจากประเทศไทยมีความไม่สงบทางการเมืองเกิดขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จึงทำให้ทางผู้จัดงานต่างยกเลิกและมองหาประเทศอื่นในเอเชียเป็นสถานที่จัด งานแทน ดังนั้น เราจึงคาดการณ์ว่าการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมการจัดประชุมสัมมนาน่าจะใช้ เวลาค่อนข้างนาน


ในปี 2011 มีการคาดการณ์ว่า GDP จะขยายตัวช้าลงเนื่องจากการส่งออกไม่น่าจะเติบโตในอัตราเดียวกันกับในปี 2010 เนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะของสหรัฐอเมริกาและยุโรป


ส่วนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2011 นั้น หากมีการชุมนุมทางการเมืองเกิดขึ้นอีกครั้ง ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจอาจได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ การใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาคการลงทุนจะมีการเติบโตเพียงแต่ไม่อยู่ในระดับ เดียวกันกับปี 2010


ห่วงศก.โลก-การเมืองป่วน!ศก.ไทยปี54ทรุด

Tags : แกรนท์ ธอร์นต้น เผยธุรกิจในไทย มีทัศนคติด้านบวก สูงขึ้น อนาคตศก.

view