จากประชาชาติธุรกิจ

จุด เริ่มแห่ง "นวัตกรรมการตลาด" โรงแรม เมื่อ "แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ" นำร่องลงทุนทำ "โรงแรมพนักงาน" มีชื่อหรู ๆ ว่า "O-ZONE" ซ้อนอยู่ภายในโรงแรม เป็นแห่งแรกของเอเชีย

กลยุทธ์สุดคลาสสิกนี้ สามารถสร้างความผูกพันทางใจพนักงานกับการ ขับเคลื่อนธุรกิจโรงแรมได้เพิ่มผลผลิตบริการและรายได้เติบโตควบคู่กันไป สร้างเกราะป้องกันกระแสการเปลี่ยนแปลงภายนอกที่อาจเป็นตัวแปรต่อธุรกิจได้ ทุกเวลา

"ทอสเสิ่น แวน ดัลลิเม่น" ผู้จัดการโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กลยุทธ์การลงทุนเปลี่ยนโฉมพื้นที่บริเวณชั้น 2 ตึกการ์เด้นวิงส์ จากออฟฟิศฝ่ายบุคคลเดิม หันมาจ้าง Tamdem Architects 2001 บริษัทสถาปนิกชั้นนำของเมืองไทย ออกแบบตกแต่งโรงแรมใหม่ชื่อ O-ZONE ออกแบบภายในให้ทุกห้องมองเห็นกัน ได้ทั้งหมด เพื่อรวมศูนย์บริการทุกอย่าง มีทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องอาหาร ห้องประชุม ห้องนั่งเล่น ห้องอ่านหนังสือ ห้องกิจกรรมอินเทอร์เน็ต ซักรีด มุมช็อปปิ้งสินค้าที่ระลึก บางเดือนมีโปรโมชั่นด้วย เพื่อให้ทุกคนซื้อในราคาถูกลง 20-25% เป็นเสมือนโรงแรมย่อส่วนให้พนักงาน 1,351 คน ใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เทียบเท่ากับลูกค้าทั่วโลกที่พักโอเรียนเต็ลฯ

เบื้องหลังแนวคิดเสนอ ลงทุนทำโรงแรมพนักงาน O-ZONE เพื่อ 3 เป้าหมาย คือ 1.เป็นทางเลือกของพนักงาน โดยทางฝ่ายบริหารกับฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคล จัดหาทุกอย่างมาให้กับทั้ง 1,351 คน 2.โอเรียนเต็ลฯมีชื่อเสียงทางด้านบริการติดอันดับ 1 ของโลกมาแล้ว ก็ควรมอบสิ่งที่ดีกับพนักงานด้วย 3.ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ยุคบุกเบิกสมัยอดีตโอเรียนเต็ลฯเป็นผู้นำหลายอย่าง เช่น เปลี่ยนจุดรับบริการสอบถาม (enquiry) เป็นแผนกดูแลบริการครบวงจรด้านหน้าประตู (concierge) หรือการบุกเบิกเปิดสปาแห่งแรกในโรงแรม

แนว คิดของทอสเสิ่นจะยังไม่หยุดแค่นี้ ปี 2554 มีโครงการจะเปิดศูนย์บริการสุขภาพทั้งสปาและฟิตเนส เน้นความปลอดภัย แข็งแรง และ ตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2553 เป็นต้นไป ในห้องอาหารขนาด 100 ที่นั่ง จะจัดเมนูอาหารและเครื่องบริการพนักงานอย่างละ 20 รายการ ปัจจุบันเสิร์ฟวันละ 5 มื้อ เช้า กลางวัน บ่าย ค่ำ และเที่ยงคืน เดือนมกราคม 2554 จะเริ่มนำเชฟมือทองจากแต่ละห้องอาหารในโอเรียนเต็ลมาใช้ครัวพนักงานคิดเมนู พิเศษปรุงจานเด็ดเสิร์ฟ ใช้เครื่องปรุงและวัตถุดิบเดียวกันกับที่เสิร์ฟลูกค้าของโรงแรม เป็นกิจกรรมพิเศษก่อเกิดความประทับใจ

"เมื่อโอเรียนเต็ลฯให้สิ่งที่ หรูหราและความสุขตลอดการพักผ่อนกับลูกค้าได้ ก็สามารถจะแบ่งปันความเป็นอยู่และบริการที่ดีให้แก่พนักงานทุกคนซึ่งอยู่ เบื้องหลัง ความสำเร็จของธุรกิจได้เช่นกัน อาจจะมี ค่าใช้จ่ายการลงทุนและค่าบริหารอยู่บ้าง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับผลตอบแทนทางบริการและรายได้ในอนาคต จากการที่พนักงานทุกแผนกหลอมรวมจิตใจทุ่มเททำงานเพื่อโรงแรม มีผลลัพธ์ที่ดีกว่ามาก"

เท รนด์ต่อเนื่องที่จะทำไปพร้อมกันคือ ปลุกจิตสำนึกร่วมทั้งฝ่ายบริหารและพนักงานในโรงแรมทำโครงการประหยัดพลังงาน เพื่อความยั่งยืน และการดูแลปกป้องสิ่งแวดล้อม

เดือนมกราคมนี้ทุกวันเมื่อฝ่ายบริหารต้องประชุมสรุปแผน ก่อนเริ่มทำงานในแต่ละวัน ในการประชุมทุกครั้งจะประกาศเป็นเขตปลอดกระดาษโดยสิ้นเชิง บนไวต์บอร์ดจะไม่เขียนด้วยสีเคมี หรือชาวเวอร์อาบน้ำลงทุนใช้วัสดุเลมิเนดแทน การเปิดแอร์ ไฟฟ้า ช่วยกันดูแลทุกจุด และรักษาความสะอาดทุกตารางนิ้ว เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน แม้แต่แก้วกระดาษเสิร์ฟกาแฟ ก็เลือกผลิตภัณฑ์รีไซเคิลคล้ายสตาร์บัคส์ ซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีก 2-3 ครั้ง

"เบญจมาศ โอฬารกุล" ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Human Resource : HR) แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ อธิบายเพิ่มว่า การเปิด O-ZONE ขึ้นเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์พนักงานทุกแผนกกับนายจ้างได้ทำงานด้วยใจ มีความเป็น เพื่อนกัน จากรุ่นสู่รุ่น เป็นแผนงานระยะยาว

เมื่อ ลูกจ้างมีความสุขผลผลิตหรือรายได้รวมของโรงแรมก็สามารถเพิ่มขึ้นอีก 2-3 เท่า ทุกวันนี้แผนก HR ได้แปลงโฉมเป็นโซนอัจฉริยะ ทั้ง 1,351 คนสามารถแวะเข้ามาทักทายกันด้วยความคุ้นเคยอยู่ใกล้ชิดกัน

ยิ่ง พนักงานเกิดความพึงพอใจในการทำงานมากเท่าไร ก็จะส่งผลที่ดีถึงลูกค้ามากเท่านั้น ได้จ้างบริษัทที่สาม เข้ามาทำแบบประเมินทุกปี

สำหรับโรงแรมพนักงานโอเรียนเต็ลฯแบ่ง บริการออกเป็น 10 โซน ประกอบด้วย 1.Dream Zone มุมแห่งจินตภาพความสุขและสนุก 2.Talent Zone สำนักงานฝ่ายบุคคล 3.เซลส์โซน 4.คาเฟ่ 48 ร้านขายของชำ 5.แฟชั่น ขายสินค้าที่ระลึก

6.Health Zone มุมสุขภาพแบบ ง่าย ๆ 7.His Zone ห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกของพนักงานชาย มีผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ยี่ห้อ Davidoff บริการ 8.Her Zone ห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกของพนักงานหญิง ใช้ผลิตภัณฑ์ Dior 9.Mind Zone มุมสงบ 10.Relax Zone มุมผ่อนคลายด้วยเกมต่าง ๆ สามารถ เบิกจากเคาน์เตอร์ได้

แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ได้จุดประกาย O-ZONE ขึ้นเพื่อเป็นต้นแบบของโรงแรมในเครือที่สนใจสร้างนวัตกรรมทางการตลาดอย่างยั่งยืน