จากประชาชาติธุรกิจ

หมายเหตุ : เรื่อง "ผ่ากลยุทธ์" สหวิริยาสตีลฯ" คว้าอุตฯด้านโลจิสติกส์ยอดเยี่ยม (2)" ฉบับนี้ต่อเนื่องจากฉบับที่ผ่านมา ซึ่งบริษัท สหวิริยาสตีล อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมด้านโลจิสติกส์ดีเด่นประจำปี 2553 จากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยตรง ซึ่งสำนักโลจิสติกส์ได้เชิญผู้บริหารบริษัทมาถ่ายทอดความรู้และกลยุทธ์การ ดำเนินงานดังต่อไปนี้

นายอุดม สดใส ผู้อำนวยการฝ่ายโลจิสติกส์ บริษัท สหวิริยาสตีล อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI กล่าวต่อว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านโลจิสติกส์ หรือทีมบริหารข้ามสายงานกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มที่ 4.Central Planning Committee มีฝ่ายผลิต ฝ่ายคุณภาพ ฝ่ายวางแผน ฝ่ายคลังสินค้าจากสายการผลิต ฝ่ายขนส่ง ฝ่ายสนับสนุนการขาย ฝ่ายจัดซื้อวัตถุดิบ จากสายธุรกิจ มีบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบคือ การวางแผนการผลิต การส่งมอบ และการใช้วัตถุดิบให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและตลาด ติดตามและประเมินผลการดำเนินการผลิต การส่งมอบ การใช้วัตถุดิบ การวางแผนสั่งซื้อวัตถุดิบ

สำหรับแผนกลยุทธ์การจัดการด้านโลจิสติกส์ จะมีทั้งแผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปี และแผนปฏิบัติการประจำปี และทุกไตรมาสจะมีการทบทวนกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง

โดยแผนปฏิบัติการ ประจำปี ซัพพลายเออร์ของบริษัทจะต้องมีแผนจัดส่ง, ส่งวัตถุดิบ, ใบแจ้งหนี้, เก็บเงินค่าวัตถุดิบ ขณะที่บริษัทต้องมีแผนรับวัตถุดิบ, แผนการผลิต, แผนสินค้าคงคลัง, แผนจัดส่ง, การประเมินด้านต่าง ๆ ส่วนลูกค้า ของบริษัทจะต้องมีแผนจัดส่ง, ส่งสินค้า,ใบแจ้งหนี้, เก็บเงินค่าสินค้า

"การ ให้ความสำคัญต่อกลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์ ทางบริษัทจะมีการทบทวนและพัฒนาแผนกลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง ทั้งแผน 3 ปีและการจัดทำแผนงานประจำปีของแต่ละฝ่ายงาน"

นอกจากนี้ยัง มีการพยากรณ์ความต้องการของลูกค้าและแนวโน้มทางการตลาด การนำระบบการจัดการและติดตามสถานะของสินค้า วัสดุคงคลัง และกิจกรรมด้านโลจิสติกส์ มาใช้ภายในองค์กร มีการเก็บข้อมูลร่วมกันทุกฝ่าย โดยทุกฝ่ายทั้งหน่วยงานที่กรุงเทพฯและโรงงานสามารถติดต่อกับระบบงาน คอมพิวเตอร์ส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็นสถานะของวัตถุดิบ คำสั่งซื้อ คลังสินค้า การผลิตและสถานะอื่น ๆ

บริษัทมีการควบคุมระดับสินค้าคงคลังทั้ง SLab และ Coil ให้ลดลงตลอดในช่วง ปี 2007-2009 ด้านอัตราหมุนเวียนสินค้าคงคลัง ทั้ง SLab และ Coil บริษัท ตั้งเป้าหมายต้องหมุนได้ไม่น้อยกว่า 8 รอบต่อปี ในปี 2010-2011 จากปี 2009 ที่หมุนได้ 6 รอบต่อปี

ทางด้านเป้าหมาย การส่งมอบสินค้าให้ทันเวลาต้องไม่ต่ำกว่า 97% หมายความว่า เราควบคุมการส่งมอบทางรถบรรทุกภายใน 1 วัน และต้องทำได้ทันเวลาไม่ต่ำกว่า 99% ส่วนทางเรือกำหนดส่งให้ลูกค้าภายใน 4 วัน และต้องทำได้ทันเวลาไม่ต่ำกว่า 90% นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบ RFID ควบคุมรถบรรทุกภายในโรงงานและท่าเรือประจวบฯด้วย

สำหรับการพัฒนากิจ กรรมด้านโลจิสติกส์ภายในองค์กร บริษัทมีการนำเอาระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในทุกกระบวนการทั่วทั้งองค์กร มีการใช้โปรแกรมเพื่อการวางแผนการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยระบบคลังสินค้าจะเป็น Wireless LAN yard ทั้งหมด เนื่องจากมีพื้นที่จัดเก็บวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์บริเวณกว้างและอยู่กลางแจ้ง เป็นส่วนใหญ่ Wireless LAN จึงเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้

บริษัทมีการนำระบบเทคโนโลยีไร้สายและคอมพิวเตอร์มาใช้กับ Over Head Crane (OHC) ก่อนการปรับปรุงใช้วิทยุสื่อสารและเอกสารโดยการจดบันทึก ทำให้เกิดความล่าช้าและผิดพลาดสูง สินค้า 100 ชิ้น เกิดความผิดพลาดถึง 30 ชิ้น หลังการปรับปรุง นำระบบ Wireless มาใช้และติดตั้งคอมพิวเตอร์บนเครน พนักงานขับเครนสามารถบันทึกข้อมูลวัตถุดิบและสินค้าได้ด้วยตัวเอง ความผิดพลาดเหลือเพียง 0.8% จากการคีย์ผิด และข้อมูล เหล่านี้จะเป็น real time ส่งไปถึงกรุงเทพฯ ทำให้แก้ปัญหาความล่าช้าและความผิดพลาดได้ เทคโนโลยีดังกล่าวนี้ บริษัท ยังนำไปขยายใช้กับรถโฟร์กลิฟต์และรถยก SLab อีกด้วย

การพัฒนาโดยนำระบบเทคโนโลยี RFID มาใช้แสดงสถานะติดตามรถบรรทุก ซึ่งก่อนการปรับปรุง บริเวณที่เก็บวัตถุดิบและสินค้ามีพื้นที่กว้างขวางมาก เมื่อรถบรรทุกเข้ามารับสินค้า ทำให้ไม่รู้ว่ามีรถบรรทุกกี่คัน อยู่ที่ไหนบ้าง แต่ละคันมีปัญหาหรือไม่ ทำให้เกิดความล่าช้าในการส่งมอบและ ยากต่อการแก้ไขปัญหา หลังการปรับปรุง เมื่อนำระบบ RFID มาประยุกต์ใช้ พบว่าปัญหาในอดีตถูกแก้ไขได้ อีกทั้งทางบริษัทยังสามารถควบคุมรถที่ใช้ในการขนส่งภายในโรงงานได้

"การ ใช้ RFID ในโรงงาน บริษัทจะ ติดตั้งที่บริเวณชั่งน้ำหนักรถ บริเวณยกสินค้าขึ้นรถ บริเวณออกเอกสาร DN และบริเวณชั่งน้ำหนักรถพร้อมสินค้า ทำให้ทราบข้อมูลได้รวดเร็ว" นายอุดมกล่าว