สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

กับดักภาษีหุ้นตระกูลชินบทพิสูจน์ขุนคลัง-ทีมศก.รัฐบาลปู1

จาก โพสต์ทูเดย์

การเข้ามารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ของ กิตติรัตน์ ณ ระนอง

โดย...ทีมข่าวการเงิน

การเข้ามารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ของ กิตติรัตน์ ณ ระนอง และตำแหน่ง รมว.คลัง ของ ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ถือว่ามีความเหมาะสมไม่เป็นสองรองใคร

อย่างไรก็ตาม เส้นทางการทำงานของทั้งสองคน นับต่อไปจากนี้ถือว่ามีความท้าทายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการเผชิญกับดักขวากหนามในอดีตที่ทั้งสองคนได้สร้างไว้ ซึ่งกำลังตามมาเป็นอุปสรรคการทำหน้าที่เกิดการสะดุดและไม่ราบรื่น

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับทั้งสองคนจะก้าวข้ามขวากหนามอันแหลมคมตรงนี้ออกไปได้อย่างมี ศิลปะอย่างไร เพื่อดูแลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ ลบภาพดูแลผลประโยชน์ฝ่ายการเมือง

ทั้ง กิตติรัตน์ และ ธีระชัย ถือเป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับตระกูลชินวัตร โดยเฉพาะในปี 2549 ที่ดีลการซื้อขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น หรือชินคอร์ป ของคนในครอบครัวชินวัตรให้กับกองทุนเทมาเซก มูลค่า 7.3 หมื่นล้านบาท การซื้อขายดังกล่าวมีความไม่ชอบมาพากลมากมาย ทั้งการทำนิติกรรมอำพรางทำให้ไม่ต้องเสียภาษี ส่งผลให้เป็นเรื่องที่ถูกตรวจสอบจากสังคมแทบทุกตารางนิ้ว

กิตติรัตน์ ซึ่งเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ในช่วงนั้น ออกมาการันตีว่าการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปของบริษัท แอมเพิล ริช ให้กับ พานทองแท้ และ พินทองทา ชินวัตร มีการซื้อขายถูกต้องในตลาด แต่ภายหลังกลับตรวจสอบพบว่าไม่มีการซื้อขายในตลาด ก็มีการแจ้งแก้ไขว่าเป็นการซื้อขายนอกตลาด โดยกิตติรัตน์ ออกมาแจงว่า “เกิดจากการกรอกข้อมูลผิดพลาด” หรือ “ติ๊กผิด”

นอกจากนี้ กิตติรัตน์ ยังยืนยันว่า การขายหุ้นบริษัทในเครือชินคอร์ปของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในราคาที่สูงก่อนการขายหุ้นชินคอร์ปให้กองทุนเทมาเซกไม่กี่วัน ไม่มีการใช้ขอมูลภายในแสวงหาผลกำไร

ขณะที่ ธีระชัย หนักหนาสาหัสสากรรจ์ยิ่งกว่า เพราะมีหลายครั้งที่การดำเนินการของธีระชัย ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่ดำเนินการกับคนในตระกูลชินวัตรเป็นที่กังขาของสังคม เช่น กรณีที่พานทองแท้ซื้อหุ้นชินคอร์ปจากบริษัท แอมเพิล ริช และถือเกิน 25% ไม่แจ้ง ก.ล.ต. ก็ถูกปรับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

หรือว่าล่าสุด นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ได้ยืนหนังสือถึง ก.ล.ต.สอบ ยิงลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ให้การเท็จกับเจ้าหน้าที่ ก.ล.ต. มีความผิดในหลายมาตรา แต่ปรากฏว่า ธีระชัยออกมาปกป้องประทับตรารับรองว่ายิ่งลักษณ์ไม่มีความผิด

นอกจากนี้ ธีระชัยยังนำเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการ ก.ล.ต.ประทับตรารับรองอีกด้วย โดยหลังการประชุมธีระชัยได้เขียนข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ไม่มีคณะกรรมการ ก.ล.ต.คนใดติดใจ และไม่มีใครสั่งให้ดำเนินการสอบยิ่งลักษณ์เพิ่มเติมแต่อย่างไร

ธีระชัยยังเขียนเฟซบุ๊กตอบโต้ กรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง ที่พาดพิงเขาเกี่ยวกับการตรวจสอบยิ่งลักษณ์อีกด้วย โดยยืนยันว่า การทำงานของ ก.ล.ต.มีการกลั้นกรองถึง 5 ชั้น ตั้งแต่รวบรวมข้อมูล เข้าคณะกรรมการพิจารณา เสนอให้เลขาธิการ ก.ล.ต.พิจารณา มีคณะกรรมการตรวจสอบภายในสุ่มตรวจ และเรื่องสำคัญอย่างกรณีของยิ่งลักษณ์ ก็มีการเสนอคณะกรรมการอีกชั้นหนึ่งด้วย

อย่างไรก็ตาม การทำหน้าที่ของ ก.ล.ต.ถูกหลายฝ่ายมองว่า เป็นการเอาใจการเมืองเก่าเปลี่ยนขั้วมาเป็นรัฐบาล

ที่สำคัญ สังคมยังกังขาว่า ธีระชัยมาเป็น รมว.คลัง จะมีการดำเนินการที่เอื้อฝ่ายการเมืองอีกหรือไม่ เพราะมีหลายเรื่องยุ่งๆ ของคนในตระกูลชินที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการคลัง

อันดับแรก การสอบเรื่องยิ่งลักษณ์แจ้งเท็จกับ ก.ล.ต. ถึงแม้ว่า ก.ล.ต.จะยืนยันว่าไม่ผิด แต่ นพ.ตุลย์ ได้ยื่นเรื่องให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบใหม่ รวมถึงยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบธีระชัย ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าอีกด้วย

อันดับสอง การมานั่งเป็น รมว.คลัง กำกับดูแลกรมสรรพากร ยังมีเรื่องภาษีหุ้นของพานทองแท้และพินทองทา จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท ที่กรมสรรพากรไม่ยื่นอุทธรณ์

นอกจากนี้ กรมสรรพากรยังออกมายืนยันว่าจะไม่เก็บภาษีจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เจ้าของหุ้นตัวจริง เพราะได้ขายหุ้นชินคอร์ปให้กลุ่มเทมาเซกผ่านตลาดหลักทรัพย์

แต่เรื่องดังกล่าว ก็ยังมีประเด็นพิสูจน์การทำงานของ รมว.คลัง ว่า ถ้าหากกรมสรรพากรยืนยันว่าการซื้อขายหุ้นเป็นนิติกรรมอำพรางเก็บภาษีหุ้นจาก พานทองแท้และพินทองทาไม่ได้ และการขายหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้กองทุนเทมาเซก จะเป็นโมฆะไปด้วยหรือไม่ ก็น่าเป็นเรื่องที่ ก.ล.ต. หรือตลาดหลักทรัพย์ ที่ รมว.คลัง กำกับดูแลต้องให้ความกระจ่างกับสังคม

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ ก.ล.ต.เคยตรวจสอบว่า พานทองแท้ได้หุ้นจากบริษัท แอมเพิล ริช เกิน 25% โดยไม่แจ้ง ก.ล.ต. และถูกปรับเงินจำนวนหลายล้านบาท ทาง ก.ล.ต.ก็ควรต้องคืนเงินดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นนิติกรรมอำพราง พานทองแท้ไม่เคยมีหุ้นจริง

แต่หากว่า ก.ล.ต.ไม่คืนเงินดังกล่าว ก็เท่ากับยืนยันว่า ธุรกรรมเกิดขึ้นจริงไม่ได้เป็นนิติกรรมอำพราง ก็จะส่งผลกระทบกลับไปยังกรมสรรพากรว่า การตีความว่าพานทองแท้และพินทองทาไม่เคยมีหุ้นและไม่ต้องเสียภาษีเป็นเรื่อง ที่ไม่ถูกต้อง และควรเร่งดำเนินการเพื่อหาคนรับผิดชอบความเสียหายจากการเก็บภาษีไม่ได้ถึง 1.2 หมื่นล้านบาท

เรื่องภาษีหุ้นชินของตระกูลชินวัตร ยังถือเป็นบทพิสูจน์การทำงานของ รมว.คลัง และรัฐบาลปู 1 ว่าจะมีการทำงานที่สร้างความโปร่งใส ไม่เป็นที่กังขาของสังคมเหมือนในอดีต

ต้องบอกว่า ไม่ว่าจะทั้ง กิตติรัตน์ ธีระชัย รวมถึงรัฐบาลปู 1 ทั้งหมด ถ้าสามารถลุยข้ามกับดักการทำงานที่ยังเป็นเรื่องเก่าไปได้ในครั้งนี้ จะได้รับเสียงปรบมือจากสังคมไม่น้อย

แต่หากว่ายังสะดุดอยู่กับที่ เอื้อประโยชน์ให้การเมือง มากกว่าดูแลผลประโยชน์ประเทศชาติ

การทำงานของทั้งสองคนและรัฐบาลปู 1 จะต้องเผชิญการตรวจสอบอย่างเข้มข้นและแรงต้านจากภาคส่วนต่างๆ หนักหนาไม่แพ้ที่เกิดขึ้นในอดีต

Tags : กับดัก ภาษีหุ้นตระกูลชิน บทพิสูจน์ขุนคลัง ทีมศก.รัฐบาลปู1

view