จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ทีมข่าวการเมือง

ยังไม่อาจนิ่งนอนใจกับ “มวลน้ำ” ก้อนมหึมาที่เอ่อล้นทะลักฝ่าปราการด่านกั้นในพื้นที่ป้องกันเรื่อยมา จนประชิดติดชายขอบกรุงเทพมหานครในเวลานี้

อานุภาพความเสียหายค่อยๆ แพร่กระจายลุกลามเรื่อยมาตั้งแต่บ้านเรือน อาคารสถานที่ทั้งในส่วนของเอกชนหรือราชการ พื้นที่การเกษตรเรื่อยมาจนถึงนิคมอุตสาหกรรม ที่แม้จะระดมสรรพกำลังมาช่วยป้องกัน แต่ก็ไม่อาจต้านทานพลังธรรมชาติระลอกนี้

จากนี้จึงต้องจับจ้องไปที่ กทม.ในฐานะพื้นที่ “ยุทธศาสตร์” ศูนย์กลางการบริหาร ศูนย์กลางเศรษฐกิจ การคมนาคม ที่หากน้ำท่วมขึ้นมาจริงๆ นอกจากกระทบกับมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อไปถึงด้านจิตใจคนในชาติรวมไปถึง “ความเชื่อมั่น” ในสายตาต่างชาติ

มาตรการป้องกันรักษาพื้นที่ กทม.ในเวลานี้ไม่ต่างจาก “ไข่ในหิน” ที่ได้รับการทะนุถนอมอย่างดี ทั้งการเร่งตรวจตราเสริมความเข้มแข็งให้คันกั้นน้ำในจุดสำคัญต่างๆ รอบ กทม.ที่กำลังปริ่มน้ำจวนเจียนจะทะลักเข้ามาในพื้นที่

ที่สำคัญการปกปักรักษาพื้นที่ กทม.ให้แคล้วคลาดรอดพ้นน้ำท่วมครั้งนี้ ยังจะเป็นเวทีสร้างผลงานให้ประชาชนได้พิสูจน์ฝีไม้ลายมือในการบริหารงานของ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและรวมไปถึงทิศทางในศึกเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม.ที่กำลังจะมาถึงในปีหน้า

ตอกย้ำด้วยอาการระหองระแหงระหว่าง กทม.ที่ควรจะเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ขึ้นตรงกับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ ประสบอุทกภัย (ศปภ.) แต่กลับพยายามชิงจังหวะสร้างผลงานในช่วงที่ ศปภ.กำลังเมาหมัดจากการถูกโจมตีรอบด้านในความไร้ประสิทธิภาพการแก้ปัญหา

ชัดเจนจากคำประกาศของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กทม. จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่สบช่องระหว่างชาวบ้านกำลังโกลาหลออกมาโชว์ภาวะผู้นำเหนือรัฐบาล เมื่อ ปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่งสัญญาณเตือนอพยพชาวบ้าน “คลองหลวง-ลำลูกกา-รังสิต-สายไหม”

“ขอให้คนกรุงเทพฯ ฟังผม ถ้าเกิดความผิดพลาด...ผมรับผิดชอบ เพราะนี่คือภารกิจที่ผมได้รับมอบหมาย เชื่อผมดีกว่าครับ ถ้าจะอพยพเมื่อไร ผมจะเป็นคนแรกที่บอกพี่น้อง เพราะพี่น้องประชาชนเลือกผมเกือบหนึ่งล้านคะแนน ผมจะไม่ปล่อยให้จมน้ำเด็ดขาด”

ยังไม่รวมกับท่าทีขึงขังนัดประชุมทีมงาน กทม.รับมือสถานการณ์น้ำท่วมแบบเช้ายันดึก พร้อมการปรากฏตัวลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดล่อแหลมต่างๆ

งานนี้เพื่อไทยจึงต้องใช้โอกาสกับการรักษาฐานที่มั่นให้ กทม.รอดพ้นน้ำท่วม ชดเชยกับสิ่งที่พลาดพลั้งจากการบริหารงานแก้ปัญหาน้ำท่วมในภาพรวมที่พัดพา ศรัทธา ความคาดหวังจากประชาชน รวมถึงภาวะผู้นำของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ยังไม่สามารถสร้างการยอมรับจากสังคม

สะท้อนผ่านผลการสำรวจ ล่าสุด จากเอแบคโพลล์เรื่อง “เสียงสะท้อนของชาวบ้านต่อข้อมูลข่าวน้ำท่วมจากการแถลงของรัฐบาล : กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนที่ติดตามชมการแถลงข่าวของ ศปภ.” ซึ่งระบุว่ารัฐบาลได้คะแนน 3.36 จากคะแนนเต็ม 10 จากการให้ข้อมูลน้ำท่วม

ประชาชน 86.2% ระบุว่า ข้อมูลจาก ศปภ.ยังไม่ชัดเจนว่าพื้นที่ของประชาชนจะถูกน้ำท่วมหรือไม่ 89.3% รู้สึกสับสนกับข้อมูลที่ได้รับจาก ศปภ. และ 87.2% ไม่วางใจเชื่อถือข้อมูลน้ำท่วมจาก ศปภ.

เส้นทางจากนี้จึงเป็นงานหนักที่รัฐบาลที่ลำพังจะหวังใช้ ศปภ.ในการสร้างผลงานให้คนกรุงเทพฯ ยอมรับได้ในเวลานี้ มติ ครม.วานนี้ที่ออกมาเร่งรัดแต่ละกระทรวงไปวางแผนช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ผู้ประสบภัยอย่างเอาจริงเอาจัง

ยิ่งในวันที่สนาม กทม.เวลานี้ดูจะเป็นจุดอ่อนของรัฐบาลเพื่อไทย ที่ปล่อยให้ประชาธิปัตย์กวาดที่นั่งในสนามเมืองกรุงไปส่วนใหญ่ แม้เพื่อไทยเองจะชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมากในสภาก็ตามหรือหากจะวัดกันใน สนามผู้ว่าราชการ กทม. “ประชาธิปัตย์” ก็สามารถรักษาฐานเสียงผูกขาดเก้าอี้ผู้ว่าราชการ กทม.มาได้ถึง 3 สมัยติด

หากปล่อยไว้เช่นนี้ต่อไปย่อมกลายเป็นหนามยอกอกเพื่อไทย ที่มีแต่จะซ้ำเติมสถานการณ์ในอนาคต ดังนั้น ศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการ กทม.เที่ยวนี้ “เพื่อไทย” ย่อมไม่อาจปล่อยให้ “ประชาธิปัตย์” ผูกขาดได้อีกต่อไป

เช่นเดียวกับประชาธิปัตย์เองที่ย่อมต้องรักษาฐานที่มั่นที่มีเหลืออยู่ น้อยเต็มทีในวันที่เพื่อไทยเริ่มฟื้นตัวขยายฐานพื้นที่ต่อเนื่อง ฐาน กทม.จึงมีความสำคัญอย่างมากกับการรักษาสถานะของพรรคลำดับที่สองไม่ให้ถูก ทิ้งห่างไปมากกว่านี้

การรักษาพื้นที่ กทม.ให้รอดพ้นจากน้ำท่วมครั้งนี้ จึงเป็น “ศึกชิงดำ” ระหว่างเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ที่ต้องไล่บี้ทำคะแนนกันเต็มที่ เพราะด่านทดสอบครั้งนี้มีเดิมพันสำคัญที่ส่งผลถึงเก้าอี้ผู้ว่าราชการ กทม.ต่อไป

ไล่เรียงจาก “ประชาธิปัตย์” นอกจากจะอาศัยสถานะผู้ว่าราชการ กทม. และทีมงานในการเร่งแก้ปัญหาในภาพใหญ่ดูแลปราการหน้าด่านต่างๆ รอบ กทม.แล้ว อีกด้านหนึ่งบรรดา สส.ในพื้นที่เวลานี้ต่างถูกกำชับให้ลงพื้นที่ช่วยเหลือเยียวยาในพื้นที่ ประสบภัยกันเต็มที่

ยังไม่รวมกับการเคลื่อนไหวช่วยเหลือน้ำท่วม ผ่านศูนย์อาสาช่วยเหลือน้ำท่วมที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคนำทีมช่วยเหลือผู้ประสบภัยจุดต่างๆ

ในส่วนของ “เพื่อไทย” โดยเฉพาะกับพื้นที่รอบนอก กทม.ที่บางส่วนต้องเผชิญกับสภาพน้ำที่เริ่มนองในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็น ลาดกระบัง หนองจอก มีนบุรี ฯลฯ ยังไม่รวมกับพื้นที่หน้าด่านอย่าง ดอนเมือง สายไหม ที่ล้วนแต่เป็นฐานเสียงสำคัญของเพื่อไทย

เวลานี้บรรดา สส.ในพื้นที่จึงเร่งระดมทีมให้ความช่วยเหลือเยียวยา และเร่งคุมเข้มป้องกันไม่ให้พื้นที่ดังกล่าวต้องถูกน้ำท่วม อันจะส่งผลกระทบถึงความเชื่อมั่นของประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มฐานเสียงของเพื่อไทยที่ตั้งความหวังและให้โอกาสรัฐบาลนี้ได้ แสดงผลงาน

ภารกิจคุมเข้มให้พื้นที่ กทม.รอดพ้นน้ำท่วมเวลานี้ จึงเป็นอีกงานบทพิสูจน์ที่ทั้งประชาธิปัตย์และเพื่อไทยจะต้องเร่งกันกอบโกย คะแนนนิยมอย่างดุเดือด

สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี