สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

แบงก์สำลักน้ำท่วม เอ็นพีแอลจ่อคอหอย

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ทีมข่าวการเงิน

สถานการณ์น้ำท่วมทวีความรุนแรงสร้างความเสียหายมหาศาล ตัวเลขความเสียหายยังไม่สิ้นสุด ธนาคารพาณิชย์ต้องกระอักสำลักน้ำตามภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจที่จมอยู่ใต้ น้ำ ในที่สุดหนีไม่พ้นต้องเผชิญกับปัญหาหนี้เสีย

จากการประเมินเบื้องต้นของ ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมายอมรับว่า ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากกว่าที่ คาดการณ์กันไว้ และต้องติดตามดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยตัวเลขความเสียหายเบื้องต้นคาดว่าคงเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับ 1 แสนล้านบาท

ส่วนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ออกอาการเป็นห่วงวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ไม่น้อย ประเมินความเสียหายคร่าวๆ 1.82 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 1.7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)

ตัวเลขความเสียหายยังไม่สิ้นสุด แม้ว่าจะถล่มนิคมอุตสาหกรรมไปแล้ว 6 แห่ง แต่สถานการณ์น้ำท่วมยังเชี่ยวกรากที่จะจ่อท่วมกรุงเทพมหานครและสุ่มเสี่ยง อีกหลายพื้นที่ ยากที่จะคาดการณ์มูลค่าความเสียหายครั้งนี้

ผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นกับภาคอุตสาหกรรมขณะนี้รุนแรงมาก และสร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจสูงกว่าที่หลายฝ่ายประเมินกันขณะนี้ กระทบทั้งห่วงโซ่ธุรกิจ (Supply Chain) ทั้งอุตสาหกรรมรายใหญ่และรายเล็ก และที่เจ็บหนักไม่แพ้ภาคอุตสาหกรรม คือ ธนาคารพาณิชย์

แม้ว่ายังไม่มีการเปิดเผยว่าความเสียหายยอดสินเชื่อของลูกค้าธนาคารที่ ต้องหยุดการผลิตขาดรายได้ ที่จะนำส่งทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้ธนาคาร และต้องใช้ระยะ ฟื้นฟูกิจการ3-4 เดือนกว่าธุรกิจจะเดินเครื่องได้ ส่วนอุตสาหกรรมไหนจะล้มแล้วลุกหรือไม่ลุกยังต้องลุ้นกันต่อ

หนทางมาตรการเยียวยาเบื้องต้นของธนาคารพาณิชย์ เริ่มแรกต้องประคับประคองและเสริมสภาพคล่องเพื่อต่อลมหายใจให้อุตสาหกรรมและ ลูกค้าเดินต่อได้ จะเป็นผลดีกับธนาคารเองที่จะไม่ต้องเผชิญความเสี่ยงปัญหาหนี้เสีย

โดยก่อนหน้านี้แต่ละธนาคารพาณิชย์ต่างมีแนวทางการช่วยเหลือลูกค้าที่ ประสบภัยน้ำท่วมของธนาคารพาณิชย์ ทั้งผ่อนปรนการชำระหนี้ ยืดระยะเวลาการชำระหนี้ และการเตรียมเงินกู้ก้อนให้เพื่อพยุงต่อลมหายใจให้กับลูกค้า แต่เท่านั้นยังไม่เพียงพอ

ในขณะเดียวกัน ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง ออกโรงสั่งให้ธนาคารรัฐออกมาตรการซับน้ำตาผู้ประสบภัยน้ำท่วม ให้ปล่อยกู้อัตราดอกเบี้ย 0% ให้กับลูกค้าที่ถูกน้ำท่วมเป็นการชั่วคราว 3-4 เดือน รวมทั้งขอความร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์เอกชนด้วยการให้สนับสนุนอัตราดอกเบี้ย 0% แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป

โดยธนาคารพาณิชย์ได้ยื่นเงื่อนไขต่อรองการผ่อนปรนหยุดพักชำระหนี้ของ ลูกค้า และการปล่อยสินเชื่อใหม่ 0% ธปท.จะต้องยกเว้นหรือยืดหยุ่นเกณฑ์การตั้งสำรองหนี้เอ็นพีแอลและการปล่อยสิน เชื่อใหม่ พร้อมทั้งหาเงินซอฟต์โลนให้

ด้าน กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ยังมองว่าธนาคารพาณิชย์ควรจะต้องมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ ประสบกับภัยน้ำท่วม ซึ่งเบื้องต้นอาจจะต้องมีมาตรการลดอัตราดอกเบี้ยและยืดระยะเวลาการชำระหนี้ ให้กับลูกค้า รวมไปถึงการพิจารณาตัดสินใจให้สินเชื่อกับลูกค้าที่ต้องการซื้อเครื่องจักร และฟื้นฟูธุรกิจ หลังจากที่ได้ประสบกับเหตุการณ์น้ำท่วม

“เชื่อว่าขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ยังไม่พบสัญญาณการเกิดหนี้เสีย แต่อาจจะกระทบให้ผลประกอบการหรือกำไรลดลง โดยธนาคารพาณิชย์เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งผู้ถือหุ้นก็ไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤตและแนวโน้มต่อไปการเติบโตของผลประกอบการก็จะมี ความชัดเจนมากขึ้น” กิตติรัตน์ กล่าว

ด้านมุมมองของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา ระบุว่า ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นรุนแรงในหลายจังหวัดขณะนี้ น่าจะเป็นปัจจัยที่ฉุดการเติบโตตัวเลขสินเชื่อของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในไตร มาส 4/2554 ให้ชะลอตัวลง โดยเฉพาะผลกระทบในนิคมอุตสาหกรรมจำนวน 6 แห่ง ที่ต้องหยุดการผลิตและบางส่วนได้รับความเสียหาย ซึ่งความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในตอนนี้นอกจากเรื่องการชะลอตัวของสินเชื่อแล้ว ยังต้องรอดูในเรื่องตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่อาจปรับเพิ่มขึ้น และอาจส่งผลไปถึงการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มธนาคารพาณิชย์

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินว่าแต่ละธนาคารจะได้รับผลกระทบมากน้อย เพียงใด แต่เบื้องต้นธนาคารพาณิชย์ที่อาจจะมีผลกระทบระยะสั้น ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย เนื่องจากเป็นธนาคารที่มีสัดส่วนลูกค้ารายใหญ่มากที่สุด ขณะที่ไทยพาณิชย์ อาจได้รับผลกระทบในส่วนของกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี แต่คงต้องรอประเมินความเสียหายต่ออุตสาหกรรมต่างๆ หลังจากระดับน้ำปรับลดลง

ทั้งนี้ ภาพรวมตัวเลขสินเชื่อรวมของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในปี 2554 นี้ คาดว่าจะเติบโตในระดับ 10-11% ลดลงเล็กน้อยจากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตที่ระดับ 12% แม้ในไตรมาส 4/2554 มีแนวโน้มว่าสินเชื่อของกลุ่มธนาคารพาณิชย์อาจจะเติบโตในลักษณะชะลอตัว แต่ตัวเลขสินเชื่อในช่วง 9 เดือนแรกของปีมีการเติบโตในระดับสูงมาก จึงยังทำให้ภาพรวมของสินเชื่อค่อนข้างดี

พิษน้ำท่วมเริ่มจะขยายวงกว้าง ล้นทะลักท่วมจ่อคอหอย ตอนนี้ต้องวัดใจธนาคารจะโยนเสื้อชูชีพช่วยลูกค้าให้รอดตาย หรือจะอยู่เฉยแล้วปล่อยให้ลากคอกันจมน้ำตายไปด้วยกัน


สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี

Tags : แบงก์สำลัก น้ำท่วม เอ็นพีแอล จ่อคอหอย

view