สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ซัดกันนัว รังสิมา บี้ถุงยังชีพราคาแพง-โกงชัด จตุพร โวยป้อง ทักษิณ

ซัดกันนัว "รังสิมา"บี้ถุงยังชีพราคาแพง-โกงชัด "จตุพร" โวยป้อง "ทักษิณ"

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

“รังสิมา” ซัดอีกรอบ ถุงยังชีพราคาแพงเกินจริง บี้รัฐแจงให้ชัด เหน็บคนไม่เชื่อถือศปภ.-รบ. พร้อมโชว์รูปขวดน้ำติดชื่อ "จตุพร" เรือ ติดชื่อ "ทักษิณ" ทำ “คางคกตู่” ของขึ้นโวยมีปัญญาซื้อของบริจาค ลากปลากระป๋องเน่าแขวะอีก พร้อมป้อง "ทักษิณ" มีปัญญาจ่ายเงินซื้อเรือ ขณะที่ “วิฑูรย์” ลุกขึ้นโต้ปมปลาป๋องเน่า ชี้แม้ไม่มีความผิดแต่แสดงสปิริตลาออกเป็นแบบอย่าง
      
       วันนี้(11 พ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 16.00 น. ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม โดยเป็นการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ตามมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กรณีปัญหาภัยพิบัติอันเนื่องมาจากอุทกภัย ซึ่งน.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นอภิปราย โดยมีการนำรูปภาพของบริจาคที่ศปภ.มาแสดงประกอบการอภิปราย อาทิ เรือที่มีชื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ติดอยู่ รูปภาพขวดน้ำจำนวนหลายแพ็คที่มีชื่อของนายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ติดชื่อ พร้อมกับมีข้อความระบุว่า “ห้ามเคลื่อนย้าย”
       
       โดยน.ส.รังสิมา กล่าวว่า ดิฉันไม่ได้เป็นคนโกหกตอแหลพูดตรง พูดจริง เรือบริจาคมีชื่อพ.ต.ท.ทักษิณอยากถามว่าเป็นเงินบริจาคของใคร รูปภาพกล่องยาของกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นของหลวงก็เอาชื่อส.ส.ไปติด คนบริจาคเขามาเห็นก็จะรู้สึกเศร้าใจที่มีคนมาฉวยโอกาสทั้งผู้สมัครสอบตก สก. เรื่องถุงยังชีพ 300, 500 และ 800 บาท แตกต่างกันอย่างไร เอาเกณฑ์อะไรในการไปแจกให้ประชาชน ที่อ้างว่าถุงยังชีพราคา 500 แจกสำหรับต่างจังหวัดและราคา 800 แจกในกทม. แล้วถุงราคา 300 เอาไปแจกที่ไหน ทั้งนี้ ตนไปคิดค่าขนส่ง ซึ่งเฉลี่ยแล้วเป็นเงิน 153 บาทหักไปแล้วเหลือค่าของเท่าไหร่ อยากให้รัฐบาลช่วยแจกแจงด้วย เพราะไม่เคยพูดถึงเลย
       
       น.ส.รังสิมา กล่าวว่า ส่วนของอีกระแต ตาเข ที่เป็นข้าวสาร ไม่มียี่ห้อเลย ส่วนที่ตนได้ไปซื้อมาของยี่ห้อมาบุญครอง ราคาแค่ 130 บาทเท่านั้น ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่ามีคนบริจาคสิ่งของลดลง ตอนนี้ไม่มีใครบริจาคให้ศปภ.เลย เพราะกลัวศปภ.โกง เขาเห็นความไม่โปร่งใส นอกจากนี้ คนต่างประเทศและหน่วยงานต่างๆ ก็มาบริจาคเยอะมาก เช่น ประเทศจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย คูเวต เป็นต้น คิดแล้วเป็นจำนวนเงินมหาศาล แต่รัฐบาลไม่ได้มาชี้แจงเลยว่ารับมาเป็นเงินทั้งหมดเท่าไหร่ รวมทั้งสิ่งของต่างๆ ที่ให้มา ทั้งนี้ ศปภ.เองก็แจกของให้ประชาชนไม่ทั่วถึงให้เป็นจุดๆ เป็นคนๆ จะสังเกตว่าจะไปเฉพาะเขตส.ส.ของรัฐบาล แต่พรรคฝ่ายค้านแทบจะไม่เจอเลย ถ้าไปถุงยังชีพก็ไม่แจก ถ้าแจกก็เหลือถุงละ 300 บาท แต่เขตของท่านคงจะแจกถุงละ 800 บาท เรื่องนี้ทำให้ต่างชาติเขาหมดความเชื่อมั่น หมดความศรัทธาในความไม่โปร่งใสของรัฐบาลและศปภ. ได้ยินว่าอียูเองก็มอบเงินผ่านสภากาชาดแล้วโดยไม่ได้มอบผ่านศปภ.
       
       “นโยบายของรัฐบาลจะปราบปรามการทุจริตอย่างไร กรณีนี้เห็นอยู่แล้วว่าทำไมราคาถึงต่างกันมาก ถุงแยกยังไง ทำไมราคาสูงอย่างนี้ แบ่งให้ผู้ช่วยส.ส.ไปจัดซื้อจัดจ้างกันเอง ยืนยันว่าอีกระแตตัวมีตัวจริง รัฐบาลจะจัดการกับการทุจริตอย่างไร พอมาตั้งคณะกรรมการก็ตรวจสอบว่าไม่ผิด เพราะตั้งพวกเดียวกันเอง ดังนั้น อยากให้ท่านกล้านรงค์ จันทิก อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป. ช.) มาช่วยดู นอกจากนี้ ถ้ารัฐบาลคิดว่าโปร่งใสจริงอยากให้มาชี้แจงว่าได้เงินบริจาค และสิ่งของมาเท่าไหร่ ให้ใคร เขตไหน เท่าไหร่ ที่ไหน อย่างไร แต่ถ้าอึมครึมแบบนี้คนคงเชื่อว่ามีการทุจริต อย่าให้คนทุจริตลอยนวลแล้วหนีไปต่างประเทศอีกเลย" น.ส.รังสิมากล่าว
       
       ทำให้ นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ใช้สิทธิพาดพิงลุกขึ้นชี้แจงว่า ที่มีชื่อตนติดอยู่ที่ขวดน้ำบริจาคในศปภ.ว่าจองไว้ ห้ามเคลื่อนย้ายนั้น ตนได้เคยอธิบายแล้วว่ามีนักธุรกิจคนหนึ่งที่เป็นเสื้อแดงกับตน อยู่หมู่บ้านเดียวกับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เขาได้บริจาคน้ำขวดมา แต่มีข้อแม้ว่าตนต้องเป็นคนรับ เขาถึงจะให้ วันที่เขาเอาน้ำมาบริจาคตนไม่ได้อยู่ เจ้าหน้าที่เลยไปเขียนไว้เพราะเจ้าตัวเขามีความประสงค์เช่นนั้น จึงบอกว่าอย่าไปเคลื่อนย้าย ตนไม่ใช่คนเลวทราม น้ำขวดตนมีปัญญาซื้อ ให้ไปถามคนในศปภ.เลยว่าตนเป็นคนบอกเสมอว่าของบริจาคอย่าให้มีสภาพเหมือน รัฐบาลที่แล้วว่าปลากระป๋องอย่าให้เน่า ข้าวอย่าให้เป็นมอด การที่วิจารณ์ในทางเสียหาย เจ้าตัวคนบริจาคพร้อมแสดงตัว แล้วน.ส.รังสิมาพร้อมจะเอาเกียรติยศอะไรมาเดิมพันหรือไม่ การใช้สภามาใส่ร้ายคนเป็นเรื่องเลวทรามต่ำช้า การบริจาคให้รัฐบาลนี้ตรวจสอบได้ คนเขาเป็นจิตอาสา ส่วนเรือที่ในรูปใส่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณเขาใช้ตังค์ตัวเองซื้อ ผ่านคุณกนกพร มีแหล่งซื้อ มีใบเสร็จพร้อม อย่าแสดงความโง่ไปใส่ร้ายคนอื่น ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงตนจะด่าให้หนักกว่านี้" นายจตุพร ระบุ
       
       ขณะที่ นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องปลากระป๋องเน่า หลังจากมีการตรวจสอบมีความชัดเจน ชี้แจงกันในสภาฯ หลายครั้ง ที่ตนลาออกจากรัฐมนตรีครั้งนั้น เพื่อแสดงความรับผิดชอบให้ประชาชนสบายใจ วันนั้นยังไม่มีการตัดสินว่าถูกผิด และคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาตรวจสอบ ไม่เหมือนกับรัฐบาลนี้ที่ตั้งคนของรัฐบาลทั้งนั้น แต่ชุดที่สอบสวนตนมีกรรมการที่มาจากอาจารย์มหาวิทยาลัย สตง. สภาทนายความหลายชุด มีเอกสารประกอบเยอะแยะ มันแตกต่างจากที่รัฐบาลปัจจุบันทำ เรื่องของตนไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินแม้แต่บาทเดียว น้ำท่วมที่จ.พัทลุงมีคนเอาของมาบริจาค ตนก็ให้หน่วยงานราชการไปดำเนินการ ตนไม่มีสิทธิที่จะรู้ว่ามันดีไม่ดีอย่างไร ดูฉลากที่ปลากระป๋องก็ไม่หมดอายุ อย่าเอามาเปรียบเทียบกัน เรื่องของตนไม่ได้ทำให้ประเทศเสียงบประมาณ ที่ลาออกก็เพื่อเป็นแบบอย่างเท่านั้น เรื่องของตนน่าจะจบได้แล้ว อย่าเอามาตอดเล็กตอดน้อยอีกเลย
       
       ต่อมาจากนั้นนายจตุพร กล่าวว่า วุฒิภาวะของคนเป็นรัฐมนตรีก็ควรรู้ว่าสิ่งใดควรแจกให้ประชาชน ถ้าไม่ผิดลาออกทำไม แล้วคณะกรรมการที่ตั้งไปดูรายชื่อว่าพวกตัวเองเท่าไหร่ พวกตนไม่ยอมให้รัฐบาลชุดนี้ประพฤติตัวเหมือนรัฐบาลชุดที่แล้ว ของครั้งนี้รัฐบาลชี้แจงแล้วว่าคนเขามาบริจาคและมาจากการจัดซื้อ เชิญไปร้องป.ป.ช. ให้ไปตรวจสอบ อย่ามาอวดรู้ นายกฯ ทักษิณเขามีปัญญาซื้อเอง
       
       จากนั้นนายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตอนนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ในขณะนั้นก็ไม่ได้บอกให้ลาออก แต่ตนไปบอกเองว่าเพื่อต้องการให้เดินหน้าอย่างสบายใจ เรื่องแค่นี้ตนแสดงสปิริตรับผิดชอบลาออก การที่ลาออกจากรัฐมนตรีควรจะชื่นชมกันบ้าง ตนไม่ได้จนมุม ไม่ได้หน้าด้านอยู่ แต่ต้องการให้นักการเมืองรับผิดชอบ ตนจะผิดหรือไม่ผิดแต่เมื่อสังคมเกิดความสงสัย เห็นหรือไม่ที่ต่างประเทศมีรถไฟตกราง รัฐมนตรีเขาไม่ได้เป็นคนขับยังแสดงความรับผิดชอบลาออก ตนก็อยากทำให้เป็นแบบอย่างในอนาคตต่อไป


ยงยุทธโอดเหนื่อยใจปมถุงยังชีพ

จาก โพสต์ทูเดย์

ยงยุทธ  รับเหนื่อยใจแจงซื้อ"ถุงยังชีพ"กรณีพิเศษ ชี้หากไม่ทำคนกรุงก็ไม่มีอะไรกิน

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เปิดเผยกรณีฝ่ายค้านอภิปรายเรื่องการจัดซื้อถุงยังชีพที่มีราคาแพงเกินจริง ว่า การตรวจสอบกรณีจัดซื้อถุงยังชีพถือว่าจบแล้ว และไม่พบว่ามีการอะไรผิด ส่วนการซื้อเรือที่ระบุว่าราคาแพงเกินไปนั้น ก็ต้องมาทำความเข้าใจกันว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

“ผลการสอบก็จบแล้ว ถ้ามาถามผมตอนนี้ ผมก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะนำข้อเสนอแนะของฝ่ายค้านมีปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินการให้ดี ขึ้น " นายยงยุทธ  กล่าว

นายยงยุทธ ยอมรับว่า ระบบราชการเป็นอุปสรรคในการนำความช่วยเหลือไปถึงมือประชาชน เช่น คนกรุงเทพฯบอกว่าน้ำท่วมและกำลังจะอดตายอยู่แล้ว รัฐบาลก็ต้องจัดซื้อจัดจ้างสินค้าเพื่อบรรจุในถุงยังชีพด้วยวิธีพิเศษ แต่เมื่อซื้อมาในราคาแพงก็ตั้งถามกันอีก ตรงนี้ต้องยอมรับว่าสถานการณ์แบบนี้ ผู้ขายก็ต้องปรับเพิ่มราคา  

“คนในกรุงเทพฯ เขาบอกว่าน้ำท่วมจะอดตายอยู่แล้ว ข้าวปลาอาหารก็ไม่มีให้กิน รัฐบาลก็ต้องรีบไปซื้อถุงยังชีพแบบรวดเร็ว ใช้วิธีพิเศษ ทำให้ภายใน 1-2 วัน ได้ของไปแจก แต่ก็มีปัญหากันอีกว่า ทำไมต้องใช้วิธีพิเศษ ทำไมของในถุงราคาแพง ก็ต้องบอกว่าในโอกาสแบบนั้น ผู้ขายบางก็มีการขึ้นราคา มันก็เป็นแบบนี้ ยอมรับว่าเหนื่อย” นายยงยุทธ  กล่าว


ปชป.แฉซ้ำของบริจาคซื้อจากที่เดียว

จาก โพสต์ทูเดย์

ปชป.แฉซ้ำของบริจาค ทุจริต ซื้อจากที่เดียว ยงยุทธ มึนขอเวลาตรวจสอบ

นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ สส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า ศปภ.ได้นำเงินบริจาคและเงินเหลือจ่ายปี 2554 ไปจัดซื้อเรือไฟเบอร์กลาสช่วยเหลือผู้ประสบภัยจำนวน  2 ครั้ง  ครั้งแรก ซื้อ 30 ลำ ลำละ  2.5 แสนบาท  เกิดความพิลึกโดย บริษัทพูนเจริญพานิช เป็นผู้เสนอขาย  ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทนี้ได้ขายถุงยังชีพ 6 หมื่นถุงให้กับศปภ.มาแล้ว  ครั้งที่สอง ศปภ.ได้จัดซื้อเรือ  100 ลำ ลำละ 1.98 แสนบาท  มีการพูดกันว่า เรือล็อตนี้แตกสะบัดและราคาจริงแค่ลำละ  6 หมื่นบาท

นอกจากนี้ ศปภ.ยังจัดซื้อสุขากระดาษ ราคาชุดละ 245 บาท จำนวน 3 หมื่นชุด จากบริษัท เติมคอร์เปอเรชั่น อ้างว่า เป็นใยกระดาษดี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ทางบริษัทปูนซีเมนต์เสนอขายชุดละ 111 บาท แต่ฝ่ายซื้อบอกว่าเป็นของห่วยใช้งานไม่ได้  เมื่อตรวจสอบพบว่า บริษัทนี้ รับจ้างติดต่อเครื่องกำจัดมลพิษ และมีที่อยู่เดียวกับ  บริษัทพูนเจริญพานิช ที่ขายถุงยังชีพ 6 หมื่นถุง และขายเรือให้กับ ศปภ.โดยเป็นทาวเฮ้าส์ซึ่งปัจจุบันน้ำท่วมอยู่   เมื่อดูหน้าทาวเฮาส์หลังนี้ มีป้ายสองอัน ซ้ายมือเขียนว่า บริษัทพูนเจริญพานิช ขายถุงชีพ ขวามือ เขียนว่า บริษัทเติมคอร์เปอร์เรชั่น  สรุปคือ  การซื้อของช่วยผู้ประสบภัยของศปภ.ทั้งถุงยังชีพ เรือ และสุขากระดาษ ได้ซื้อจากบริษัทเดียวกัน แล้วอย่างนี้ทำเพื่อใคร

“หลังจากนี้จะมีข้ารชการกี่คน  จะต้องออกจากราชการ และไม่มั่นใจว่า จะมีรัฐมนตรีกี่คนจะต้องถูกปลดออกเพราะเข้าไปเกี่ยวข้อง ความจริงยังมีเรื่องเต้นท์อีก ถ้าสามารถอภิปรายถึงวันอาทิตย์ผมจะพูดให้ฟัง แต่ครั้งนี้นายกฯจะได้มีเหตุผลในการปรับครม. และเรื่องนี้จะส่งให้ ปปช.แน่นอน ”นายวิลาศ กล่าว

นายยงยุทธ ชี้แจงว่า กล่าวว่า ศปภ. มีโครงสร้างโดยใช้บุคลากรจากระทรวงมหาดไทย  การจัดซื้่อจัดหาทั้งสิ้น เริ่มต้นจากศปภ.ตามความจำเป็น ตนเองจะอนุมัติตามเอกสาร และในฐานะรองนายกฯไม่มีทางทราบเรื่องที่อยู่ว่า มาจากบริษัทเดียวกัน หรือเสนอราคาตรงกัน เรื่องพวกนี้ใช้เวลาวันเดียว มันตอบไม่ทัน  จะเอาข้อมูลที่ฝ่ายค้านให้มา ไปดำเนินการต่อ  ทั้งนี้ ไม่มีใครละเลยในสิ่งที่่ท่านกล่าวหา ผู้คนอดอยากลำบากแสนสาหัส  ถ้าผู้บริหารระดับสูงในรัฐบาลไปร่วมกระทำการอย่างนั้น มันนอกจากว่า ทุจริตประพฤติมิชอบ มันยังเป็นบาปกรรมแม้กฎหมายตามตามไม่ถึง แต่บาปกรรมตามถึง ถุงยังชีพที่ท่านบอกจะเป็นถุงปลิดชีพ  ถ้ากล่าวหาไม่มีหลักฐาน คนกล่าวหาก็จะถูกปลิดชีพ แต่ถ้าผิดจริงก็ต้องถูกบาปบุญลงโทษ จริงหรือไม่ต้องดูกันไป  แต่ยืนยันว่า  ถ้ามีคนของกระทรวงเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ต้องดำเนินการ


สภาซัดกันนัวใครทำน้ำท่วมกรุง

จาก โพสต์ทูเดย์

'ปชป.-เพื่อไทย' ซัดกันนัว ใครทำน้ำท่วมกทม. 'พุทธิพงษ์' จี้ 'ยิ่งลักษณ์' ลาออกก่อนให้ 'สุขุมพันธุ์' ไขก๊อก

การประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญกรณีปัญหาภัยพิบัติอันเนื่องมาจากอุทกภัย ในช่วงบ่ายเริ่มทวีความเข้มข้นมากขึ้นเมื่อสส.พรรคเพื่อไทย และ พรรคประชาธิปัตย์ มีการอภิปรายตอบโต้ถึงต้นปัญหาน้ำท่วมของกทม.โดยในส่วนพรรคเพื่อไทยได้ อภิปรายพาดพิงการทำงานของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าาฯกทม. ทำให้สส.พรรคประชาธิปัตย์ต้องออกมาตอบโต้

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า หากได้เป็นผู้ว่าฯกทม.เงา จะวางแผนแก้ไขปัญหา ติดตามสถานการณ์น้ำไปดูภาคเหนือ ที่ไหลผ่านจังหวัดในภาคกลางจนถึงกทม.เพื่อนำมาวางแผนอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้จะตั้งวอร์รูมและสั่งเปิดประตูระบายน้ำทุกบาน เฉพาะแค่ประตูน้ำคลองสามวาที่เป็นเรื่องของกทม.ยังต้องให้นายกฯสั่งเปิด ประตู ไม่ใช่ปล่อยให้ชาวบ้านในพื้นที่มาด่าว่าส.ส.ในพื้นที่หายไปไหนๆ ทั้งที่เป็นพื้นที่ของกทม. ก่อนน้ำมาก็จะสั่งให้มีการระบายน้ำออกจากคลองต่างๆ เมื่อน้ำเหนือมาก็มีพื้นที่รับน้ำและผันออกสู่ทะเลได้ทัน รวมทั้งจะให้บอกสำนักงานเขตที่ไม่ถูกน้ำท่วมระดมสรรพกำลังทั้งหมดเข้ามาช่วย เหลือเขตที่ถูกน้ำท่วม
       
ทั้งนี้ระหว่างที่นายจิรายุ อภิปราย ได้มีสส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์หลายรายออกมาตอโต้นำโดยนายชนินทร์ รุ่งแสง และ นายนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.กทม. ลุกขึ้นประท้วงเป็นระยะ เนื่องจากอภิปรายเสียดสีและพาดพิงผู้ว่าฯกทม.โดยเจ้าตัวไม่มีโอกาสชี้แจง

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ถ้าจะมาโทษว่าการทำงานของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ผิดพลาดและต้องให้ลาออกแบบนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องแสดงความรับผิดชอบเหมือนกันในฐานะที่บริหารจัดการน้ำผิดพลาดจนทำให้ พื้นที่ในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาหลายจังหวัดต้องถูกน้ำท่วมเสียหาย โดยต้องลาออกจากตำแหน่งตั้งนานแล้วก่อนหน้านี้ไม่ใช่มาผลักความรับผิดชอบให้ กับกทม.อย่างเดียว

ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม สส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เสริมว่า นายกฯได้รวบอำนาจในการบริหารสถานการณ์ไว้ที่ตัวเองทั้งหมดแล้วโดยอาศัย มาตรา31 ของพ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แสดงให้เห็นนายกฯจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวไม่ใช่กทม.
                 
นาย โกวิทย์ ธาราณา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ใครทำกรรมให้ประชาชนเขารู้ ใครโกหกประตูน้ำพัง 14 บาน รั่ว 20 จุด นิคมอุตสาหกรรมพังผู้ว่าฯกทม.ทำใช้หรือไม่ ที่ผ่านมาการจัดการรัฐบาลไม่เคยเปิดเผยความจริงให้กทม. อย่าพูดเอาแต่ได้ ทุกอย่างการอภิปรายต้องบอกความจริงอย่าเอาความผิดของรัฐบาลโยนใส่กทม. ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเกมการเมือง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ไม่มีน้ำ ฝีมือใคร

ด้าน นายนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แย้งว่า ในฐานะที่เป็นคนอยู่จ.ฉะเชิงเทรา ยืนยันได้พื้นที่บางน้ำเปรียวมีน้ำท่วมมานานแล้วกว่า 2 เดือน จึงอยากให้สส.ประชาธิปัตย์ลงพื้นที่ดูก่อนที่จะมาอภิปรายในรัฐสภาเพื่อไม่ ให้เกิดความสับสน


สว.สวดยับอัดรัฐบาลแก้ปัญหาน้ำท่วมพลาด

จาก โพสต์ทูเดย์

สว.รุมถล่ม  รัฐบาลเล่นเกมอุด เลือกผู้เล่นผิด  แก้น้ำท่วม  แนะ ใช้วิกฤติเป็นโอกาส จัดระเบียบผังเมืองคลี่คลายต้นเหตุน้ำท่วม  แนะออกกฎหมายให้อำนาจทำงาน ​กยอ. กยน.​​

นางนฤมล ศิริวัฒน์ สว.อุตรดิตถ์  กล่าวระหว่างการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญกรณีปัญหาภัยพิบัติอันเนื่องมาจากอุทกภัย ว่า หาก เปรียบการแก้ปัญหาของรัฐบาลเป็นกีฬา เหมือนรัฐบาลกำลังเล่นเกมส์อุดอย่างเดียว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ในฐานะโค้ชก็เลือกตัวผู้เล่นผิด ไม่ว่าเก่งแค่ไหนก็ถูกโจมตีได้  อีกทั้งการแก้ปัญหายังมองน้ำเป็นแค่น้ำ ซึ่งคู่ต่อสู้เวลานี้ไม่ใช่แค่น้ำ แต่เป็นเรื่องความพึงพอใจของประชาชน อีกทั้งที่ผ่านมายังมีปัญหาการสื่อสารสับสนที่ทำได้ไม่ดเพียงพอ

นอกจากนี้ ​บุคคลที่มีองค์ความรู้ด้านต่างไม่ได้ถูกนำมาใช้งาน ​คนใน ศปภ.เต็มไปด้วยฝ่ายการเมือง ข้อมูลที่ออกมาจึงไม่มีความน่าเชื่อ ประชาชนจึงไปเชื่อถือสื่ออนไลน์มากกว่า รวมไปถึงบริษัทประกันภัยจากต่างประเทศยังพิจารณาอยู่ว่าจะกลับมารับประกัน บริษัทที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณาแก้ไขสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น

นางนฤมล กล่าวว่า ต้องนำวิกฤติครั้งนี้มาเป็นโอกาส นำบทเรียนมาสรุปแก้ปัญหา ​ปรับโครงสร้างทั้งระบบ ถ้ารัฐบาลจะใช้เงินกู้จำนวนมาก ทุกคนก็พร้อมเห็นชอบด้วย แต่ในฐานะวุฒิสภาก็จะช่วยติดตามตรวจสอบอีกทางหนึ่ง ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะบอกว่าปีหน้าน้ำจะไม่ท่วม ตราบใดที่ยังไม่มีแผนและหลักการแก้ไขที่ชัดเจน
 
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สว.สรรหา กล่าวว่า ที่ผ่านมาการบังคับการใช้กฎหมายอ่อนแอมาก ไม่สนใจกฎหมายผังเมืองทำให้มีการบุกรุกลำน้ำมาก พื้นที่ควรสงวนแป็นทางน้ำผ่าน แก้มลิง เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้าง ขณะเดียวกันยังมีปัญหาขาดเอกภาพของหน่วยงานในการแก้ปัญหาน้ำท่วม ทั้งกรมชลประทาน รัฐบาล กทม.หรือท้องถิ่นที่ทะเลาะกันเอง นำไปสู่ความขัดแย้งของคนในพื้นที่ ทำให้เกิดมหาวิกฤตอุทกภัยครั้งนี้

นอกจากนี้ ​การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แม้รัฐบาลและกทม.เริ่มตั้งหลักได้แล้ว แต่อยากเสนอให้มีการเตรียมความพร้อมเรื่องการกู้พื้นผิวจราจรในพื้นที่น้ำลด ลง เพื่อเปิดทางให้การขนส่งสินค้าสะดวกขึ้น รวมถึงกระตุ้นแผนจัดเก็บขยะมูลฝอยในพื้นที่น้ำท่วมแล้วรถเข้าไม่ถึง  ส่วนการเยียวยาผู้เสียหาย หากใช้ทะเบียนบ้านเป็นเกณฑ์ ทำให้มีปัญหากับคนต่างจังหวัดที่มาทำงานใน กทม. จะไม่ได้รับการช่วยเหลือ ดังนั้นใช้ทะเบียนบ้านมาเป็นเกณฑ์เยียวไม่ได้

นายประสงค์ นุรักษ์ สว.สรรหา กล่าวว่า   การที่รัฐบาลตั้งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคต ประเทศ (กยอ.) ​และ  คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารทรัพยากรน้ำ (กยน.) นั้น หากเป็นยักษ์ แต่ไม่มีกระบองก็ไม่น่ากลัว ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรจะออกกฎหมายมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการทำงาน ไม่อยากให้ กยอ. แปลว่า กินยาอ่อน
 
นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ สว.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า  สนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุดโดยมีทุกภาคส่วน เช่นฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ผู้เชี่ยวชาญ ร่วมด้วย  แล้วเอาข้อมูลมาถกเถียงกันเพื่อวางแผนในอนาคต และถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องทบทวนแนวทางการพัฒนาประเทศเสียใหม่  เพราะกรุงเทพฯถือว่าเป็นเมืองที่ถมไม่เต็ม ถ้าเราไม่มีการกระจายออกไป ก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้

นอกจากนี้ ​นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ และชุมชนที่ตั้งขวางทางน้ำ  จะต้องวางผังเมืองกันใหม่ ว่าพื้นที่ใดเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม พื้นที่เกษตร ชุมชน หรือพื้นที่สีเขียว เพราะประเทศ เป็นประเทศเดียวในโลก ที่ถมที่เสรี ใครมีกำลังเท่าไหร่ก็ถมได้เท่านั้น   ดังนั้นเราต้องใช้วิกฤตครั้งนี้ เป็นโอกาสในการพัฒนาประเทศใหม่ ที่สำคัญจะต้องปลุกจิตสำนึกให้คนมีจิตสาธารณะ


'สมิท'ชี้น้ำท่วมเหตุประมาท นำมาเป็นเกมการเมือง


'รังสิมา-จตุพร'โต้เดือด ใครโกงของบริจาคช่วยชาวบ้าน


ตู่อัดปชป.กักน้ำ2เขื่อนวางยาปู

จาก โพสต์ทูเดย์

จตุพร สวน ปชป.ตัวการอุ้มน้ำสองเขื่อน วางยารัฐบาลยิ่งลักษณ์ อ้างได้กลิ่นจลาจลเดือนธ.ค.ล้มรัฐบาล

19.15น.นายจตุพร พรหมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวระหว่างการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญกรณีปัญหาภัยพิบัติอันเนื่องมาจากอุทกภัยว่า ในช่วงเดือนก.ค.แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับชัยชนะเลือกตั้งแต่ยังไม่ได้เข้า บริหารราชการแผ่นดิน โดยเวลานั้นพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลรักษาการณ์ แต่พบว่าเขื่อนภูมิพลและสิริกิตติ์พบว่ามีการเก็บน้ำรวมกันถึง 8.3 พันล้ายลบ.ม.มากกว่าปี2553 จึงสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีการพร่องน้ำ ดังนั้น จะมากล่าวหาพรรคเพื่อไทยว่าผิดพลาดในการบริหารจัดการน้ำไม่ได้ และไม่โดนวางยาแต่โดนวางน้ำเข้าไปเต็มๆ
นายจตุพร กล่าวว่า นอกจากนี้ ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เคยตั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ประงานงานการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศอช.)มา แล้ว จะแปลกอะไรหากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะตั้งพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ขณะเดียวกัน ในเว็บไซต์ของพรรคประชาธิปัตย์ได้ระบุว่าข้อมูลถึงประสิทธิภาพและเครื่องมือ ในการระบายน้ำว่าสามารถทำได้ถึง2พันลบ.ม.ต่อวัน ไม่เข้าใจว่าทำไมกทม.ต้องเรียกร้องอะไรจากศปภ.อีก

"มีความเป็นห่วงว่าจะเกิดจลาจลในช่วงเดือนธ.ค.หลังจากน้ำลดเพราะเริ่มมี การสร้างกระแสในเรื่อง สงสัยว่าจะเป็นกระบวนการล้มรัฐบาลหรือไม่เพราะที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยเลือก ตั้งชนะกี่ครั้งก็ถูกล้มทุกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ยืนยันว่าสู้ยิบตาแน่นอนเพราะยอมไม่ได้อีกแล้ว อย่างไรก็ตาม โชคดีที่กองทัพมีท่าทีชัดเจนว่าไม่เอาด้วยโดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา ผู้บัญชาการทหารบก ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์จะร้องไห้ก็ขอให้ร้องไม่เป็นไรไม่ได้เป็นความอ่อนแอเพราะ เป็นการร้องไห้ให้กับประชาชนที่มีความทุกข์" นายจตุพร กล่าว


สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี


Tags : ซัดกันนัว รังสิมา บี้ถุงยังชีพราคาแพง โกงชัด จตุพร ทักษิณ

view