แนวโน้มทางธุรกิจสำหรับปี 2012

โดย : รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์ pasu@acc.chula.ac.th

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

สวัสดีปี 2555 สำหรับท่านผู้อ่านทุกท่านนะครับ เปิดปีใหม่มาในสัปดาห์แรก ก็ขอเริ่มด้วยเรื่องเบาๆ และเป็นเรื่องของอนาคตก่อนครับ
นั่นคือ แนวโน้มทางธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับปี 2555 นี้ครับ โดยข้อมูลเหล่านี้ผมรวบรวมมาจากสื่อต่างๆ ในต่างประเทศและข้อสังเกตของตนเองนะครับ ก็ขอให้ลองพิจารณากันครับ เผื่อจะเป็นแนวทางสำหรับการดำเนินธุรกิจในปีใหม่นี้
 

แนวโน้มประการแรก คือ เรื่องของ Mobile ครับ ซึ่งในต่างประเทศถือเป็นแนวโน้มสำคัญอันดับต้นๆ เลย สำหรับบ้านเรานั้น ถ้า 3G สามารถประมูลผ่านไปได้ เรื่องของ Mobile นั้นจะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นครับ เพราะต้องยอมรับว่าพฤติกรรมของคนไทย (โดยเฉพาะในเมืองใหญ่) นั้นพร้อมที่จะรองรับต่อเรื่องของ Mobile กันอย่างเต็มที่แล้ว เพียงแต่รอให้เทคโนโลยีก้าวทันพฤติกรรมเท่านั้นเองครับ
 

คำว่า Mobile ของผมนั้นครอบคลุมตั้งแต่การใช้โทรศัพท์มือถือ หรือ Tablet ในการทำธุรกรรมต่างๆ โดยเฉพาะธุรกรรมที่ไม่เคยทำมาก่อนมากขึ้น เช่น การซื้อของผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือการเข้าไปหาข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือ การเสพข่าวสาร สาระ และความบันเทิงต่างๆ ฯลฯ ดังนั้น ธุรกิจเองก็คงต้องปรับตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งปรับเว็บหรือช่องทางของตนเองให้สามารถรองรับต่อปรากฏการณ์ mCommerce ที่จะทวีมากยิ่งขึ้น
 

แนวโน้มประการที่สอง คือ เรื่องของ Co-creation ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่านมา โดยการแก้ไขปัญหาหรือการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ นั้นจะมาจากความร่วมมือระหว่างทั้งภายในองค์กรกับภายนอกองค์กรมากขึ้น เราจะเห็นผลิตภัณฑ์และบริการหลายแห่งที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เข้ามามีส่วนร่วมในการคิดค้นสินค้าหรือบริการใหม่ๆ เช่นในปีที่ผ่านมามันฝรั่งยี่ห้อหนึ่งในประเทศก็เปิดโอกาสผู้บริโภคช่วยกันคิดรสให้ และทำออกมาขายจริง ถ้ารสไหนที่ขายดีที่สุด ผู้ที่ช่วยคิดรสดังกล่าวก็จะได้รับเงินรางวัลและส่วนแบ่งจากยอดขายด้วย ปีใหม่นี้เชื่อว่าเราจะเห็นตัวอย่างอื่นๆ ของ Co-creation กันมากขึ้นนะครับ
 

แนวโน้มประการที่สามคือเรื่องของ BCP / BCM / Crisis Planning ซึ่งเจ้า BCP / BCM นั่นก็คือ Business Continuity Plan / Management นั้นเองครับ แนวโน้มนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นหลักครับ จากเหตุการณ์อุทกภัยในปีที่ผ่านมา กับเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมเมื่อสองปีที่ผ่านมา ทำให้องค์กรธุรกิจต้องหันมาให้ความสนใจต่อทั้งการทำแผน และการบริหารจัดการเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ ไม่เกิดเหตุการณ์หยุดชะงักไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด และจากเหตุการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา ก็ทำให้นอกเหนือจากองค์กรธุรกิจแล้ว หน่วยงานภาครัฐหรือสถาบันการศึกษาก็ต้องหันมาทำเจ้าต้อง BCP กันมากครับ เนื่องจากไม่มีใครแน่ใจว่าในปี 2555 นี้ จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นอีกที่ทำให้การดำเนินงานขององค์กรจะต้องหยุดชะงักไป
 

แนวโน้มประการที่สี่ คือ รูปแบบของการทำกิจกรรม CSR จะเปลี่ยนไป จากในอดีตนั้นองค์กรต่างๆ มีการทำ CSR กันอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ถึงขนาดที่ว่าหลายๆ องค์กรตั้งหน่วยงานหรือผู้บริหารด้าน CSR ขึ้นมาโดยเฉพาะ และประจวบกับเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้ความคิดเรื่องของ CSR เรื่องของจิตสาธารณะ เริ่มเข้ามาอยู่ในใจของผู้บริหารและคนทั่วไปมากขึ้น อย่างไรก็ดี ประสบการณ์ในอดีตชี้ให้เห็นว่าการทำ CSR ของหลายๆ องค์กรนั้น มีความคาบเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์หรือการทำ PR อย่างแยกกันไม่ออก จนสุดท้าย ไม่แน่ใจว่าที่องค์กรทำไปนั้นเป็นการทำ CSR หรือ PR นอกจากนี้ จะพบว่าในกลุ่มคน Gen Y ที่มีการศึกษาจะให้ความสำคัญกับเรื่องของ CSR มากขึ้น และคน Gen Y เหล่านี้ต่างมีความคิดดีๆ ในเรื่องของ CSR และไม่ได้ต้องการทำ CSR เพื่อชื่อเสียงหรือการประชาสัมพันธ์
 

ดังนั้น ในปีนี้เชื่อว่าเราจะเริ่มเห็นรูปแบบใหม่ๆ ของการทำ CSR มากขึ้น โดยรูปแบบนี้เป็นการช่วยเหลือสังคมหรือช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่ได้หวังผลในด้านการประชาสัมพันธ์ แต่ต้องการช่วยเพราะอยากช่วยจริงๆ และกำลังสำคัญที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อน CSR ในมิติใหม่นี้จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เราเรียกว่า Gen Y ครับ
 

ก็ขอฝากแนวโน้มทั้งสี่ประการไว้ลองพิจารณากันนะครับ แล้วพอสิ้นปีเราอาจจะกลับมาทบทวนกันอีกครั้งว่าจะเป็นไปตามแนวโน้มที่มองไว้หรือไม่

สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี