สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ดร.เสรี โต้กรณีก้านธูปเป็นเรื่อง ทำผิด กม. ไม่ใช่ ล่าแม่มด

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

อดีตคณบดีวารสารฯ มธ.เผย “ก้านธูป” เข้าศึกษาที่ธรรมศาสตร์ ถือเป็นเสรีภาพบุคคล ผิดอะไรให้กฎหมายจัดการ เชื่อ แม้เปลี่ยนชื่อทำให้คนจำไม่ได้ แต่ถ้ามีคนจำได้ก็ถูกกดดันจากสังคม สุดท้ายต้องอยู่ไม่ได้ โต้คนละกรณีกับล่าแม่มดในอดีต เพราะมีหลักฐานทำผิดจริง ถือว่าเป็นอาชญากร เชื่อ จะถูกหยิบเป็นกระแสเหมือน “คดีอากง” แต่สังคมส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย
       
       วันนี้ (5 ม.ค.) เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์รายงาน ว่า รศ.ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักพูดชื่อดัง และอดีตคณบดีคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นกรณีที่ผู้ใช้นามแฝงว่า “ก้านธูป” ในโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถูกหมายเรียกไปรายงานตัวที่ สน.บางเขน ในข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งบุคคลดังกล่าวก่อนที่จะเข้าศึกษาที่ ม.ธรรมศาสตร์ ก็ได้ถูกตัดสิทธิ์ที่จะเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยศิลปากร ด้วยเหตุผลข้างต้น ว่า ในธรรมศาสตร์มักจะพูดถึงเรื่องอิสรภาพ ไม่มีเรื่องของการแบ่งแยก ถือเป็นเสรีภาพของบุคคล เพราะว่าถ้าหากมีความผิดอะไรต้องให้ส่วนของกฎหมายจัดการ ไม่มีการใช้การกดดันจากกลุ่มชนที่ไม่ใช่ข้อกฎหมาย
       
       ทั้งนี้ ทุกมหาวิทยาลัยจะมีข้อบังคับเกี่ยวกับการยึดถือประชาธิปไตยที่มีพระมหา กษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งข้อเท็จจริงต้องให้กฎหมายจัดการ ส่วนข้อเท็จจริงที่เข้าธรรมศาสตร์ได้ โดยไม่มีคนรู้ เพราะมีการเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล จึงทำให้ไม่มีคนจำได้ แต่เมื่อเข้าไปแล้วบางคนก็อาจจะจำได้ว่า เป็นคนเดียวกับที่มีคดีความผิดมาตรา 112 นั้น ก็อาจจะมีบ้างที่ถูกกดดันจากสังคม สุดท้ายก็ต้องอยู่ไม่ได้ ถึงแม้ผู้ใหญ่ในมหาวิทยาลัยจะรับเข้าไป แต่ในขณะที่ตำรวจยังไม่ได้พิสูจน์ แต่สิ่งที่ทำในเฟซบุ๊กชัดเจนอย่างนี้ การต่อต้านจากประชาคมน่าจะเกิดขึ้น
       
       รศ.ดร.เสรี กล่าวว่า ก้านธูปไม่มีความสำนึกในประวัติศาสตร์ หากตนยังคงเป็นคณบดี และเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัยที่ได้สอน ก็คงจะสอนไปเรื่อยๆ ไม่ได้ทำอะไร เรื่องนี้ต้องให้ทางกฎหมายจัดการ แต่ทางด้านประชาคมที่จะต่อต้าน ก็คงจะไม่ไปต่อต้านประชาคม ซึ่งเมื่อสามารถใช้เสรีภาพของเขาได้ เราก็ใช้เสรีภาพของเราได้เช่นกัน ซึ่งถ้าออกมาพิสูจน์แล้วว่ามีความผิดจริง ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
       
       ส่วนที่มีบางฝ่ายมีความเป็นห่วงว่า กรณีของก้านธูปนั้น จะเป็นกรณีการล่าแม่มด ดร.เสรี กล่าวว่า การล่าแม่มดนำมาใช้กับก้านธูปไม่ได้ เพราะไม่ใช่แม่มด แต่คือ อาชญากร ซึ่งถ้ามีความผิดจริง ก็จะเป็นอาชญากร อย่างการล่าแม่มด คือ การกล่าวหาโดยไร้หลักฐาน ส่วนกรณีนี้เรียกว่า ล่าแม่มดไม่ได้ เพราะมีหลักฐานของการทำผิด ซึ่งกรณีนี้มีหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว จะเป็นกรณีเดียวกับแม่มดไม่ได้
       
       “สำหรับกลุ่มหนึ่งที่ออกมาปกป้อง อ้างว่า เหตุที่สังคมกดดัน เป็นเพราะว่าอิงมาจากกระแสล่าแม่มดนั้น ไม่มีกระแสล่าแม่มดใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ ณ เวลานี้ เราเห็นว่าคนที่ไม่มีสำนึกในประวัติศาสตร์ และพยายามที่จะทำให้สถาบันของเราอ่อนแอลงมีอยู่จริง เพราะฉะนั้น ถ้าเราต้องการที่จะให้มีคำว่า ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ดำรงอยู่ ย่อมไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้น” รศ.ดร.เสรี กล่าว
       
       ส่วนกรณีที่มีบางคนกล่าวว่า สื่อมวลชนทำหน้าที่ที่อคติในการแทรกแซงให้เกิดการกดดันนั้น รศ.ดร.เสรี กล่าวว่า สื่อมวลชนเพียงแค่รายงานว่า บุคคลนี้ทำอะไร ส่วนการกดดันนั้นขึ้นอยู่กับความรับรู้ข้อมูลข่าวสาร บวกกับการคิดวิเคราะห์ว่าจะชื่นชม จะยินดี หรือ จะรู้สึกรังเกียจ การที่สื่อมวลชนแทรกแซงให้เกิดความกดดันไม่ได้ นอกจากให้ข้อมูลเท่านั้น มีหน้าที่แค่รายงานข่าวว่ามีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวอาจจะนำไปสู่กระแสสังคม อย่างคดีอากง ที่เกิดขึ้นได้อีก หากถูกคนบางกลุ่มไปใช้ประโยชน์ แต่ว่ารอบนี้จะไม่เหมือนกับคดีอากง เพราะกระแสสังคมก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่เอาด้วยนั้นเป็นเสียส่วนใหญ่
       
       สำหรับกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ น.ส.ณัฐกานต์ (ขอสงวนนามสกุล) ได้มีการโพสต์ข้อความลงบนเว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน โดยใช้นามแฝง “ก้านธูป” และเฟซบุ๊กของตัวเอง โดยมีเนื้อหาที่จาบจ้วงด้วยถ้อยคำเสียดสี หยาบคาย ต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างรุนแรง ทำให้สังคมออนไลน์ได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำดังกล่าวอย่างกว้างขวาง ระหว่างนั้น น.ส.ณัฐกานต์ ได้สอบผ่านและเข้าศึกษาต่อยังคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ในโครงการพิเศษ สาขาเอเชียศึกษา แต่ภายหลังทางมหาวิทยาลัยตัดสิทธิ์การศึกษาไม่ให้เข้าเรียน เนื่องจากก็มีผู้ส่งข้อมูล และประวัติ เพื่อคัดค้านการรับเข้าศึกษาต่อเป็นจำนวนมาก และเห็นว่า เป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพที่มีปัญหา หากเข้ามาเรียนน่าจะเข้ากับนักศึกษาคนอื่นไม่ได้
       
       ต่อมา น.ส.ณัฐกานต์ สอบผ่านและมีสิทธิสอบสัมภาษณ์ เพื่อเข้าศึกษาต่อคณะสังคมศาสตร์ เอกรัฐศาสตร์ (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่ขณะนั้นกระแสต่อต้านในเฟซบุ๊กถึงการเข้าศึกษาต่อใน ม.เกษตรศาสตร์ เกิดขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้ไม่ได้ไปรายงานตัวตามกำหนด อย่างไรก็ตาม ภายหลัง น.ส.ณัฐกานต์ ได้เปลี่ยนชื่อใหม่ ซึ่งในปี 2554 ได้สอบผ่านและเข้าศึกษาในคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต่อมา นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่าผู้ใช้นามแฝงก้านธูป ซึ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ได้รับหมายเรียกจาก สน.บางเขน ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 จากกรณีโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว กลางปี 2553 ภายหลังผู้ใช้นามแฝงก้านธูปได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอเลื่อนการเดินทางไปรายงานตัว ซึ่งได้รับอนุญาตจากทางเจ้าหน้าที่แล้ว เนื่องจากต้องเตรียมตัวสอบปลายภาค โดยกำหนดการเข้าให้ปากคำนั้นเลื่อนไปเป็นวันที่ 11 ก.พ.2555
      


สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี

Tags : ดร.เสรี โต้กรณีก้านธูป เป็นเรื่อง ทำผิด กม. ล่าแม่มด

view