ความเสี่ยงของประเทศไทยเพิ่มขึ้น : จากปัจจัยทางการเมือง

โดย : ดร.อาภรณ์ ชีวะเกรียงไกร

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะของสหภาพยุโรป ที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีทางออกที่ชัดเจนแล้ว ที่มีอยู่ 3 ประเด็นสำคัญ
คือ (1) บางประเทศในกลุ่มประชาคมยุโรปอาจต้องออกจากยูโรโซนที่ใช้เงินสกุลยูโรร่วมกันอยู่ในปัจจุบัน 17 ประเทศ และ (2) ผลกระทบลุกลามไปยังประเทศสมาชิกอื่นๆ ที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่มีนัยสำคัญ ได้แก่ สเปน และอิตาลี เพิ่มเติมจากในปัจจุบันที่ประเทศ กรีก ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส ต้องเข้าโครงการขอความช่วยเหลือทางการเงิน เพราะหากสเปนและอิตาลี จะมีปัญหาว่าเงินให้ความช่วยเหลือที่มีอยู่จะเพียงพอหรือไม่ และ (3) ธนาคารและสถาบันการเงินในประเทศสเปนและอิตาลีมีฐานะการเงินอ่อนแอ ที่จำเป็นต้องมีการเพิ่มทุนจากการเสื่อมค่าของสินทรัพย์ที่ถืออยู่ ดังจะเห็นได้จากประชาชนเริ่มมีความกังวลต่อฐานะของสถาบันการเงินจนเกิดภาวะการแห่ถอนเงิน ที่รัฐบาลต้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือในการเพิ่มทุน ซึ่งปัญหาวิกฤติหนี้จะเรื้อรังไปอีกระยะหนึ่ง


ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจไทยเริ่มสะท้อนด้วยตัวเลขการส่งออก ที่ในสี่เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-เมษายน) มีมูลค่า 71,561.5 ล้านดอลลาร์ และคิดเป็นอัตราขยายตัวติดลบ 3.86% ทั้งนี้การส่งออกในทุกตลาดชะลอตัวหรือลดลง ตลาดหลักได้แก่ อาเซียน (9 ประเทศ) ขยายตัวได้ 8.6% จีน 4.9% ญี่ปุ่น -7.13% สหรัฐอเมริกา 1.36% และสหภาพยุโรป (27 ประเทศ) -15.44% (เทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนการส่งออกขยายตัวได้สูงกว่าร้อยละ 20) และหากพิจารณากลุ่มสินค้าแล้ว สินค้าอุตสาหกรรมซึ่งมีสัดส่วนในการส่งออกรวมถึงประมาณร้อยละ 74  มีอัตราการขยายตัวของการส่งออกลดลงในอัตรา -6.3% ในขณะที่สินค้าเกษตรเองก็ขยายตัวติดลบถึง -10.9 ซึ่งการชะลอตัวของการส่งออกใน 4 เดือนแรกนั้นจะมาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ หนึ่ง การผลิตที่ประสบการชะงักงันจากภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปลายปี 2554 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่รวม 7 แห่ง สอง การชะลอตัวของความต้องการจากตลาดต่างประเทศเนื่องจากกำลังซื้ออ่อนตัวลง และ สาม การเผชิญการแข่งขันจากประเทศคู่แข่งอันเนื่องจากราคาสินค้าเกษตร เช่นข้าวสูงกว่าประเทศคู่แข่ง เช่นเวียดนามและอินเดียจากนโยบายการประกันราคาข้างของภาครัฐ
 

ดังนั้น เป้าหมายการส่งออกปี 2555 ที่กระทรวงพาณิชย์ที่ตั้งไว้ให้ขยายตัวร้อยละ 15 หรือมูลค่าการส่งออกในปี 2555 จะต้องมีมูลค่า 263,149 ล้านบาท ซึ่งหมายถึงว่าในอีก 8 เดือนข้างหน้าที่เหลือการส่งออกจะต้องขยายตัวได้เฉลี่ยร้อยละ 24 ต่อเดือน หรือคิดเป็นมูลค่าส่งออกประมาณเดือนละ 24,000 ล้านบาท (เทียบกับการส่งออกได้เฉลี่ย 17,890 บาท/เดือนในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้) ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นเป้าหมายที่ท้าทายยิ่ง หากคิดถึงว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอาจจะอ่อนตัวลงไปอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้ ในขณะที่ต้นทุนค่าแรงปรับสูงขึ้นในอัตราก้าวกระโดดประมาณร้อยละ 40 จึงเป็นสิ่งท้าทายต่อรัฐบาลนอกเหนือจากประเด็นราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์สูง       
 

ความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน เมื่อมีนำเสนอผ่านร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เข้าสู่การพิจารณาสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ทำให้เกิดการต่อต้านจนเกิดการประท้วงขัดขวาง พ.ร.บ.ปรองดอง เกิดขึ้นทั้งในสภาผู้แทนราษฎร และการชุมนุมประท้วงนอกรัฐสภา ที่ขยายไปอย่างกว้างขวาง  
 

อุณหภูมิทางการเมืองได้ร้อนแรงขึ้น จึงเป็นประเด็นว่ารัฐบาลซึ่งมีหน้าที่บริหารและแก้ไขปัญหาของประเทศ ที่จะถอดสลักชนวนความขัดแย้งนี้อย่างไร ก่อนที่จะลุกลามบานปลายไป เพราะหาก พ.ร.บ.ปรองดองดังกล่าวสร้างความแตกแยกของคนในสังคม ก็คงจะต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบรอบด้าน การจะอาศัยเสียงข้างมากในสภาเพื่อการเอาชนะ ที่แท้จริงแล้วจะเป็นชัยชนะของใคร? และชัยชนะของประเทศและประชาชนอยู่ที่ไหน และนอกจากนี้แล้วบรรยากาศทางการเมืองก็จะไม่เอื้อให้รัฐบาลบริหารประเทศได้ราบรื่นเช่นดังก่อนหน้านี้
 

เป็นที่น่าสังเกตว่าในขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองมีความขัดแย้ง และมีการต่อสู้กันแต่สื่อหลักหรือสื่อฟรี เช่นสถานีวิทยุโทรทัศน์หลักกลับไม่ได้ให้ความสนใจในการเสนอข่าวข้อเท็จจริงให้กับประชาชนทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดครบถ้วน แต่รายการยังคงเสนอรายการบันเทิงและภาพยนตร์โดยปกติ
 

การไม่สามารถพึ่งพาสื่อหลัก ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งได้หันไปใช้สื่อเคเบิลทีวีในการติดตามข่าวสารบ้านเมืองอย่างใกล้ชิด และจะมีผู้ชมสถานีวิทยุโทรทัศน์เองลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การติดตามข่าวสารของประเทศไทยนั้นไม่ควรที่จะยึดติดกับแหล่งหนึ่งแหล่งใด แต่ควรจะเปิดกว้างรับฟังข่าวที่หลากหลาย และใช้วิจารณญาณในการวิเคราะห์ว่าข่าวใดที่น่าเชื่อถือ และขอย้ำว่าประเทศไทยเป็นของทุกไทยคน หากทุกคนเพิกเฉยหรือถือว่าธุระไม่ใช่แล้ว ก็จะอาจจะเกิดความเสียดายหรือความเสียใจได้ในภายหลัง

สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน