สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เบื้องหลัง ป.ป.ช.ชงเชือด สุพจน์ ทรัพย์ล้อม รวยผิดปกติกรณีปล้น 18 ล้าน

เบื้องหลัง ป.ป.ช.ชงเชือด“สุพจน์ ทรัพย์ล้อม”รวยผิดปกติกรณีปล้น 18 ล้าน

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม 2012 เวลา 20:00 น. เขียนโดย isranews


เจาะเบื้องหลัง กระบวนการไต่สวนคดีสุพจน์ ทรัพย์ล้อม“รวยผิดปกติ”กรณีถูกปล้น 18 ล้าน คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. สรุปชงกรรมการชุดใหญ่เชือด 24 พ.ค.นี้เผยพยานให้การละเอียดยิบ

          ในการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) วันที่ 24 พฤษภาคมนี้จะมีวาระพิจารณาเรื่องการไต่สวนข้อกล่าวหากรณีนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ หลังจากคณะอนุกรรมการไต่สวนได้สรุปสำนวนเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2555

          ถ้าคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติว่านายสุพจน์ร่ำรวยผิดปกติจะต้องสำนวนให้อัยการยื่นฟ้องต่อศาล ให้มีคำพิพากษายึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน แต่ถ้าคณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่าไม่มีความผิดตามขอกล่าวหาก็ต้องยกคำร้องแต่ก็ต้องเผชิญกับข้อ กล่าวหาอื่นต่อไป

          สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเบื้องหลังการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีนายสุพจน์นำเสนอดังนี้

          ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ปล้นบ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2554 คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้หยิบเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุม เนื่องจากเป็นที่สนใจของประชาชนโดยเฉพาะจำนวนทรัพย์สินที่ถูกปล้นซึ่งตกเป็น ข่าวขณะนั้นว่ามีมากถึง 200 ล้านบาท และมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง 3 กรณีคือ

1.ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินถูกต้องตรงความเป็นจริงหรือไม่

2.ระหว่างรับราชการทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือไม่

3.มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติหรือไม่

          คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.มีความเห็นว่า ในการไต่สวนข้อเท็จจริง 2 กรณีแรกมีพยานเอกสารจำนวนมาก ต้องใช้เวลานานในการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง จึงมุ่งไต่สวนเฉพาะกรณีร่ำรวยผิดปกติโดยตัดเอาเฉพาะกรณีทรัพย์สินจำนวน 18 ล้านบาทมาพิจารณาก่อน กระทั่งสรุปสำนวนการไต่สวนเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนกรณียื่นบัญชีฯและกรณีทุจริตหรือไม่นั้นจะสอบสวนต่อไป

          กรณีร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ ประเด็นในการพิจารณาของ ป.ป.ช.ก็คือทรัพย์สินที่เจ้าหน้าตำรวจไปติดตามกลับคืนมาจากผู้ต้องหาปล้น บ้านนายสุพจน์จำนวน 18 ล้านบาทเป็นของนายสุพจน์หรือไม่ เนื่องจากนายสุพจน์ได้ปฏิเสธว่ามีทรัพย์สินที่ถูกปล้นเพียง 5,800,000 บาท เงินจำนวนนี้ได้มาจากเงินช่วยเหลืองานแต่งงานของบุตรสาว ส่วนเงินที่เหลือนายสุพจน์ ปฏิเสธว่าไม่ใช่เงินของนายสุพจน์

          คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาในประเด็นนี้ว่า เงินจำนวน 18 ล้านบาท น่าเชื่อว่าเป็นเงินของนายสุพจน์ทั้งหมด เพราะมีพยานหลักฐานให้การชัดเจนทั้งพยานในที่เกิดเหตุและพยานที่ได้จากการ ไต่สวน คณะอนุกรรมการได้ให้นายสุพจน์แสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และให้ชี้แจงข้อกล่าวหา 4 ครั้ง ครั้งสุดท้ายวันที่ 20 เมษายน 2555 กระทั่งวินิจฉัยว่านายสุพจน์ร่ำรวยผิดปกติจึงเสนอเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดในวันที่ 24 พฤษภาคม ถ้าคณะกรรมการ ป.ป.ช.วินิจฉัยว่านายสุพจน์ร่ำรวยผิดปกติ ตามขั้นตอน ป.ป.ช.จะส่งเรื่องให้อัยการยื่นคำร้องฟ้องต่อศาลขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของ แผ่นดินต่อไป

          ทั้งนี้ในชั้นไต่สวน คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ได้ใช้อำนาจตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริต พ.ศ.2542 อายัดทรัพย์สินนายสุพจน์ประกอบด้วย ที่ดิน 3 แปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 3 รายการมูลค่ารวมประมาณ 20 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือ บ้านเลขที่ 77 ซอยลาดพร้าว 64 แยก 2 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม.ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุถูกโจรปล้น เหตุผลที่ ป.ป.ช.ต้องอายัดทรัพย์สินเพราะนายสุพจน์ได้โอนทรัพย์สินให้กับลูกสาวเมื่อ วันที่ 15 และ 19 ม.ค.2555 ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่ ป.ป.ช.สอบสวน เกรงว่าหากไม่อายัดทรัพย์สินแล้วคดีถึงที่สุดหากนายสุพจน์มีความผิดจะมี ปัญหาในการบังคับคดีหลังคำพิพากษา เหมือนคดีนายรักเกียรติ สุขธนะ ที่ทรัพย์สินถูกโยกย้ายเปลี่ยนมือหลังศาลพิพากษายึดทรัพย์

          ด่านแรกคดีนายสุพจน์จะมีคำตอบในวันที่ 24 พ.ค.นี้


สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : เบื้องหลัง ป.ป.ช.ชงเชือด สุพจน์ ทรัพย์ล้อม รวยผิดปกติ กรณีปล้น 18 ล้าน

view