จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ป.ป.ท.ปูดพบพิรุธ6เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน มีเอี่ยวออกโฉนดที่ดินอุทยานแห่งชาตสุเทพ-ปุย โดยมิชอบ
นายสัญชาติ อุปนันชัย นักสืบสวนสวบสวนชำนาญการพิเศษ ป.ป.ท. เขต 5 เปิดเผยถึงสถานการณ์การบุกรุกป่าในพื้นที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ว่า จากที่มีการร้องเรียนต่อป.ป.ท.มีหลายจุด โดยเฉพาะในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย พบว่ามีการบุกรุกซึ่งกำลังดำเนินการเร่งรัดเจ้าหน้าที่สอบสวน ถ้าหากพบว่าเป็นการบุกรุกโดยมิชอบจะเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี จากการตรวจสอบพบว่ามีการออกโฉนดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ทางป.ป.ท.ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวน1ชุด พบว่ามีการโฉนดโดยมิชอบ 29 โฉนดซึ่งต่อไปจะไต่สวนยต่อว่าการออกโฉนดของผู้ถือครองกระทำด้วยวิธีการใดที่ส่งผลให้เขตป่าสงวนหายไป ถ้าพบว่าเป็นการกระทำทุจริตก็จะแจ้งข้อกล่าวหาซ้ำ ซึ่งตอนนี้ทางป.ป.ท.ได้ประสานกับกรมทรัพยากรธรรมชาติเนื่องจากว่าเป็นเสมือนเจ้าของพื้นที่และรู้ว่าตรงจุดบริเวณไหนเป็นของกรมอุทยาน ในตอนนี้ทางป.ป.ท.ได้สอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาไปให้เจ้าหน้าที่ผู้ออกโฉนดแล้ว จากทั้งหมดที่ตรวจสอบพบในจำนวน29รายมีเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องจำนวน6ราย เป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานกรมที่ดิน ตั้งแต่ระดับ 7 ลงมา ตอนนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้เข้ามาชี้แจงแล้ว ถ้าพบว่ามีมูลความผิดก็จะแจ้งข้อหาส่งดำเนินคดีอาญา นอกจากนั้นก็จะมีหนังสือถึงกรมที่ดิน ให้ดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ออกโดยมิชอบด้วยกฏหมาย ในส่วนของผู้บุกรุกที่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเป็นหน้าที่ของกรมอุทยานที่จะดำเนินคดีต่อไป

นอกจากนี้นายสัญชาติ ยังกล่าวอีกว่า ในปัจจุบันกฏหมายได้ให้อำนาจกับป.ป.ท.สามารถส่งสำนวนให้อัยการฟ้องร้องคดีเองได้ซึ่งจะแตกต่างจากที่ผ่านมาซึ่งช่วยลดขั้นตอนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น

"สถานการณ์การบุกรุกป่าในภาคเหนือพบมากที่สุดในจังหวัดน่านและจังหวัดเชียงราย แต่กรณีที่พบบริเวณอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จ.เชียงใหม่ ถือได้ว่าเป็นกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นซึ่งจากสถิติของการร้องเรียนจากประชาชนพบว่ามีการบุกรุกป่าในพื้นที่ภาคเหนือเพิ่มขึ้นทุกปี"นายสัญชาติ กล่าว

นายดวงทิพย์ คำจ้อย ผู้ใหญ่บ้านปางไฮ หมู่ที่4 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน ยังไม่พบการกระทำผิด ตั้งแต่มีโครงการหลวงปักหลักการเข้มงวดตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งแตกต่างจากเมื่อ6-7ปีก่อนที่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านที่บุกรุกป่า ปีละ 3-4 วา เข้าไปเรื่อยๆ ส่วนกรณีที่นายทุนเข้ามาบุกรุกจะเป็นส่วนน้อยเป็นการซื้อพื้นที่1-2งานไว้ปลูกบ้านแต่ไม่มีการขยายอาณาเขต ส่วนใหญ่เป็นการขยายพื้นที่จากชาวบ้านเอง

ส่วนวิธีการดำเนินการกับผู้บุกรุกป่าผู้ใหญ่บ้านจะมีการตักเตือนก่อนในเบื้องต้น ถ้าหากยังเพิกเฉยก็จะแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินคดีทางกฏหมายต่อไป

ทางด้าน นายบุญศักดิ์ จิระวุฒิวงศ์ชัย ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักงานอนุรักษ์พื้นที่16 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า จากเดิมพื้นที่แห่งนี้เป็นป่าสงวนแห่งชาติซึ่งต่อมาเป็นอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย โดยในปีพ.ศ2548 มีการวงพื้นที่โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้เดิมก่อนส่งให้กรมที่ดินและมีการเปลี่นแปลงแนวและมีการออกโฉนดที่ดิน ทั้งหมด25แปลง ซึ่งมารู้ภายหลังเป็น29 แปลง ประมาณหนึ่งร้อยกว่าไร่ พบว่าเป็นการออกทับป่าและวิธีการแก้แผนที่ด้วยซึ่งมีการทับซ้อนอยู่ กระบวนการทั้งหมดนี้ได้แจ้งให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชในฐานะเจ้าของพื้นที่และกรมที่ดินรับทราบแล้วล่าสุดแจ้งให้ป.ป.ท.รับทราบ ซึ่งมีการทำงานร่วมกันอยู่แล้ว จากการตรวจสอบพบว่าผู้ออกโฉนดเป็นผู้มีอิทธิพลประจำท้องถิ่นซึ่งเมื่อออกโฉนกแล้วต้องรีบขายเพราะรู้ว่าออกโดยมิชอบตอนนี้เปลี่ยนมือไปหมดแล้วซึ่งต้องเจ้าของ

ส่วนการขีดเส้นแบ่งเขตจะต้องร่วมกันระหว่างกรมป่าไม้และกรมที่ดินร่วมกันขีด โดยกรมที่ดินจะส่งข้อมูลมาให้เราขีดก่อนเมื่อขีดเส้นแบ่งเขตเสร็จแล้วจึงส่งกลับไปส่วนเรื่องการแก้ไขหรือดำเนินการอย่างไรต่อไปก็ขึ้นอยู่กับกรมที่ดินในการดำเนินการต่อไป

สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน