สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

พินัยกรรมสูตรปรองดอง 21 ข้อที่ ยิ่งลักษณ์ ต้องอ่าน

จากประชาชาติธุรกิจ

ความจริงในเหตุการณ์ความรุนแรงเดือนพฤษภาคมปี 2553 กำลังจะถูกเปิดเผยโดยคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการ ปรองดองแห่งชาติ (คอป.)

โดยใช้ฤกษ์ 17 กันยายน 2555 ล้อกับสถานการณ์ครบรอบ 6 ปีที่ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ต้องลี้ภัยจากแผ่นดินไทย หลบพิษร้ายจากเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549

ณ โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน กรุงเทพฯ ถูกเลือกใช้เพื่อแถลงข่าวสำคัญใน 2 วาระ

หนึ่ง เปิดเผยรายงานความคืบหน้าฉบับสมบูรณ์ ซึ่งที่ประชุมสรุปเป็นเสียงเดียวกันว่า จากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคนเสื้อแดงจะเกลียด คอป.เข้าไส้ !

สอง ปิดฉากการดำเนินการของ คอป.อย่างเป็นทางการ โดยครั้งนี้ "ดร.คณิต ณ นคร" ในฐานะประธานได้จัดทำหนังสือเปิดใจคณะกรรมการภายใต้ภาวะกดดันทางการเมือง ตลอด 2 ปี

ข้อเสนอแนะ 21 ข้อ ที่เป็น "พินัยกรรม" ให้กับ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ประกอบด้วย

1.บรรยากาศ แห่งการปรองดอง เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา แต่ที่ผ่านมารัฐบาลกลับเพิกเฉยและเร่งรัดกระบวนการ เช่น การนำร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯเข้าสู่รัฐสภา โดยไม่ผ่านการมีส่วนร่วมของประชาชน ถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

"การดึงสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเชื่อม โยงกับประเด็นการเมือง จะก่อให้เกิดความขัดแย้งและการต่อต้านที่ลุกลามยิ่งขึ้น จึงเห็นว่าควรตัดสัมพันธ์กับบุคคลที่มีแนวคิดโน้มเอียงในการล้มล้างสถาบัน เพื่อรักษาบรรยากาศปรองดองให้คงอยู่ต่อไป"

2.การปรับใช้หลักความ ยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน การกระทำผิดกฎหมายที่เกิดขึ้นในระหว่างที่มีเหตุการณ์ความรุนแรง มิใช่พฤติกรรมที่เกิดขึ้นในภาวะปกติทั่วไป ผู้กระทำผิดจึงมิใช่อาชญากรโดยกมลสันดาน การใช้มาตรการลงโทษที่รุนแรงอาจเพิ่มความรู้สึกคับแค้นให้มากขึ้น

"การนิรโทษกรรม ไม่ใช่แนวทางในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และไม่ควรเริ่มต้นจากรัฐสภา"

3.ความ เป็นประชาธิปไตยในสังคมไทย แม้ระบอบประชาธิปไตยจะมีข้อบกพร่อง แต่ก็เป็นการปกครองที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ประชาชนต้องอดทนและแก้ไขปัญหาตามแนวทางสันติวิธี ไม่ควรเห็นด้วยกับการแก้ปัญหาด้วยการล้มล้างการปกครองอย่างการรัฐประหาร

4.การ เคารพสิทธิมนุษยชน รัฐควรพิจารณาทบทวนกฎหมายที่กระทบกระเทือนต่อสาระสำคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพ ของประชาชน เช่น กฎหมายที่มีผลเป็นการลบล้างความผิดโดยมิชอบ หรือมีผลย้อนหลังเป็นการลงโทษต่อผู้อื่น

5.ข้อเสนอเกี่ยวกับหลัก นิติธรรม ขอเรียกร้องให้รัฐบาลมีเจตนารมณ์ทางการเมืองอย่างชัดเจนที่จะยึดถือหลัก นิติธรรมในการบริหารประเทศ เพื่อลดความเคลือบแคลงระหว่างกัน

6.การ แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ต้องจัดให้มีเวทีสาธารณะหรือสานเสวนาเพื่อให้มีการอภิปรายถกเถียงเกี่ยวกับ บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ การใช้อำนาจขององค์กรตามรัฐธรรมนูญจะทำให้ได้มาซึ่งการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม

7.ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมอย่างเป็น ระบบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย ต้องระวังไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ

"รากเหง้าของความ ขัดแย้งมีจุดเริ่มต้นจากความเคลือบแคลงหลักนิติธรรมของกระบวนการยุติธรรมโดย เฉพาะคดีซุกหุ้นปี 2544 ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้กระทำผิดข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ผิดหลักกฎหมายโดยแท้"

8.สถาบันพระมหากษัตริย์ ขอให้ทุกฝ่ายงดเว้นการกล่าวอ้างถึงสถาบันเพื่อประโยชน์ในทางการเมือง โดยอาจกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ

"การ บังคับใช้กฎหมายหมิ่นสถาบันตามมาตรา 112 ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง หวังว่ารัฐบาล-รัฐสภาจะร่วมกันแสดงความกล้าหาญในการแก้ไขกฎหมายหมิ่นสถาบัน โดยศึกษาแนวทางอาญาของประเทศต่าง ๆ"

9.การแก้ไขปัญหาพื้นฐานในสังคม รัฐบาลต้องมีความมุ่งมั่นและมีเจตจำนงในทางการเมืองในการปฏิรูปเศรษฐกิจ สังคม การเมือง กระบวนการยุติธรรม และกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นฐาน

10.ขอ เรียกร้องให้สื่อทุกแขนงเพิ่มบทบาทในการกระตุ้นให้สังคมช่วยกันแสวงหา ทางออกอย่างสร้างสรรค์ มากกว่าการรายงานโต้แย้งระหว่างคู่ขัดแย้ง

11.ข้อ เสนอเกี่ยวกับทหาร ต้องปฏิรูปองค์กรด้านความมั่นคง โดยยึดหลักรัฐบาลพลเรือนเหนือทหาร ไม่ได้หมายถึงการต่อต้านทหาร แต่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างการเมืองและทหารมีความเหมาะสม

"รัฐต้อง ลดบทบาทของทหารในการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมฝูงชนหรือการสลายการชุมนุม ซึ่งต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจหรือเจ้าหน้าที่"

12.ให้ผู้นำและผู้ร่วม ชุมนุมยึดมั่นในหลักการที่ไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพผู้อื่น รัฐควรศึกษาตัวอย่างในต่างประเทศ เช่น กฎหมายการจัดการชุมนุมสาธารณะและการเดินขบวนของประเทศอังกฤษ

13.ทุก ฝ่ายควรคุ้มครองและอำนวยความสะดวกแก่บุคลากรทางการแพทย์ เพราะการช่วยเหลือจะอยู่บนหลักการด้านมนุษยธรรมสากลเป็นกลางไม่เลือกปฏิบัติ

14.บทบาท ของนักการเมืองและปัญหาการทุจริต ทุกพรรคควรร่วมกันจัดทำข้อตกลงว่าจะช่วยกันลดเงื่อนไขของความขัดแย้งที่เกิด ขึ้นได้อย่างไร เพื่อสร้างความไว้วางใจและบรรยากาศของการปรองดอง

15.ผู้นำทางศาสนาควรแสดงออกถึงความเป็นกลาง ในการแสดงธรรมหรือคำสอนทางจริยธรรม

16.การมีส่วนร่วมของประชาชน รัฐเปิดช่องทางให้มีการสื่อสาร ทำความเข้าใจ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน

17.ความปรองดองในระดับชุมชน รัฐต้องส่งเสริมประชาชนเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยเฉพาะในกลุ่มที่เคยขัดแย้งกันในอดีต

18.ภาคประชาสังคม ควรส่งเสริมบทบาทให้มีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะบทบาทการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน

19.การ ใช้เครื่องมือในการสร้างความปรองดอง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลขยายพื้นที่ให้ทุกฝ่ายได้มีโอกาสถกเถียง โดยเฉพาะการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ การตรากฎหมายเพื่อควบคุมการชุมนุม การนิรโทษกรรมที่ต้องครอบคลุมถึงรายละเอียดในการกำหนดความผิดและเงื่อนไข

20.ความ ต่อเนื่องของกระบวนการปรองดอง แม้ คอป.จะสิ้นสุดวาระในการดำเนินงาน แต่กระบวนการปรองดองยังต้องดำเนินต่อไป โดยรัฐควรส่งเสริมกลไกที่มีความเป็นกลาง และไม่ได้ถูกจัดตั้งขึ้นจากการใช้อำนาจรัฐ เช่น การจัดตั้งเครือข่ายด้านการปรองดองในชาติ

"การจัดเวทีสาธารณะ หากรัฐดำเนินการเสียเองอาจไม่ได้รับความไว้ใจจากประชาชนบางกลุ่ม เพราะยังถูกมองว่าเป็นคู่ขัดแย้ง ควรหนุนด้านงบประมาณแทน"

21.การ เผยแพร่รายงานฉบับสุดท้าย ขอให้รัฐบาลและสื่อมวลชนเผยแพร่ ซึ่งความเข้าใจดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญในการลดความรู้สึกโกรธแค้นชิงชัง เพื่อนำพาประเทศชาติไปสู่ความปรองดองได้ในที่สุด


สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : พินัยกรรม สูตรปรองดอง 21 ข้อ ยิ่งลักษณ์ ต้องอ่าน

view