สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

อดทนห้าวินาทีดีกว่าเสียใจไปอีกห้าร้อยวัน

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ดร.บวร ปภัสราทร



อย่าเป็นคนที่ความจำดีเลิศในเรื่องแย่ แต่หลงลืมดีเด่นในเรื่องดี ต้องจำแม่นเรื่องดี หลงลืมเรื่องแย่
ความเห็นที่ไม่ตรงกันมีขึ้นเสมอ ดังนั้นการถกเถียงจึงเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ถ้าคนเราต้องทำงานร่วมกัน การถกเถียงเริ่มต้นมาจากการที่คนเราต้องการสื่อสารระหว่างกัน ถ้าต่างคนต่างทำโดยไม่พูดจาสื่อสารกัน โอกาสที่จะถกเถียงกันก็มีไม่มาก เว้นแต่ใครคนใดคนหนึ่งไปทำให้อีกคนหนึ่งเดือดร้อน แล้วยังไม่พูดไม่จาบอกกล่าวอะไรกันอีก ถ้าเป็นแบบนี้อาจไม่มีการถกเถียงกันแต่มีการวิวาทกันไปเลย

อย่างไรก็ตามเราพบกันอยู่เสมอว่าก่อนที่จะมีการวิวาทกันนั้น คนเรามักมีการถกเถียงนำมาก่อนเสมอ นานๆ สักครั้งที่คนจะตีกันโดยไม่ได้ผ่านขั้นตอนการถกเถียงต่อปากต่อคำกันมาก่อน การถกเถียงจึงเป็นเส้นทางไปสู่การสร้างความเข้าใจระหว่างกันได้เท่าๆ กับที่เป็นเส้นทางไปสู่ความบาดหมาง ทั้งที่รุนแรงไปถึงการวิวาทกัน หรือเบาๆ แค่เลิกคบกันไป กลยุทธ์ในการบริหารการถกเถียงจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น

ในการทำงานร่วมกันย่อมต้องมีการสื่อสารระหว่างกัน อาจจะเป็นระหว่างผู้บริหารกับพนักงาน หรือระหว่างเพื่อนร่วมงาน จึงต้องระมัดระวังไว้เสมอว่าการสื่อสารในทุกรูปแบบมีโอกาสที่จะเกิดความคลาดเคลื่อนผิดเพี้ยนระหว่างผู้พูดกับผู้ฟัง ผู้พูดตั้งใจบอกกล่าวเรื่องหนึ่ง แต่ผู้ฟังคิดไปอีกเรื่องหนึ่ง ความคลาดเคลื่อนในการสื่อสารระหว่างกันเป็นเหตุสำคัญหนึ่งที่นำพาไปสู่การถกเถียงที่ตามมาด้วยความไม่พอใจระหว่างกัน  

ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่รู้สึกว่าทำไมคนที่เรากำลังสื่อสารด้วยนั้นกลับตอบมาแปลกๆ เหมือนตั้งใจจะหาเรื่องกัน ทั้งๆ ที่สื่อสารไปนั้นไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตอะไร ให้ทบทวนประเด็นที่เราต้องการสื่อสารกันอีกครั้ง ที่ทำได้ง่ายที่สุดคือ บอกกล่าวไปอีกครั้งว่าที่เราได้บอกกล่าวไปในครั้งแรกนั้นเราได้บอกอะไรไป  ครั้งที่สองนี้ต้องเน้นประเด็นที่ต้องการสื่อสารให้ชัดขึ้นไปอีก และเลือกใช้ถ้อยคำที่ไม่ก้าวร้าวหรือแสดงอำนาจใดๆ ปนลงไปด้วย ไม่เช่นนั้นจะเหมือนกับราดน้ำมันลงไปในกองไฟที่เพิ่งจะเริ่มต้น เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้

แต่การที่จะทำเช่นนี้ได้นั้นต้องอดทนสักห้าวินาทีก่อนที่จะโต้ตอบไปเลย เพราะการโต้ตอบแบบอัตโนมัติ ได้ยินปุบตอบกลับปั้บนั้นไม่ใช่เรื่องที่เป็นประเด็นในการสื่อสารที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนั้นแน่ๆ แต่เป็นเรื่องดั่งเดิมที่สะสมกันมานานแล้วมากกว่า มีงานวิจัยที่บอกไว้ว่าการถกเถียงที่มีการตอบโต้กลับไปในทันทีนั้นแทบทั้งหมดเป็นการตอบโต้จากเรื่องเดิมที่ต่างฝ่ายต่างมีอยู่ในใจมาแต่เดิม ถ้าเราสามารถตอบจดหมายได้ในทันทีที่ได้รับซองจดหมายที่ระบุชื่อผู้ส่งมาโดยไม่ต้องอ่านข้อความในซองจดหมายนั้น ย่อมหมายความว่าเรานึกอยู่ในใจมาตลอดว่าคนที่ส่งจดหมายมาหาเรานั้นจะเขียนอะไรมา เราจึงตอบไปได้ทันทีโดยไม่ต้องอ่านจดหมายก่อน  

ตอบได้ทันทีจากสิ่งที่มีอยู่ในใจ ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในจดหมาย ตอบโต้สิ่งที่เราคิดว่าเขาคิด ไม่ใช่ตอบโต้จากสิ่งที่เขาบอก  เวลาที่อดทนห้าวินาทีนั้นคือเวลาที่เราจะใช้ในการทบทวนว่าข้อความที่บอกกล่าวกลับมานั้นคืออะไรกันแน่ เพื่อที่จะได้โต้ตอบกลับไปในประเด็นที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับประเด็นนั้น ถ้าเขาตอบโต้มาแล้วเรารู้สึกแปลกใจว่าทำไมกลายเป็นเช่นนั้นได้ ห้าวินาทีนั้นต้องใช้เพื่อพิจารณาประเด็นที่เขาตอบกลับมานั้นว่าสอดคล้องกับประเด็นที่เราสื่อสารไปมากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นคนละเรื่องกันเลยแสดงว่าการสื่อสารมีความคลาดเคลื่อนผิดพลาดเกิดขึ้นแน่ ๆ

ถ้าคนที่สื่อสารด้วยนั้นไม่ใช่ศัตรูกันมาตั้งแต่ปางก่อนคงไม่ตอบโต้มาแบบหาเรื่องกัน  ห้าวินาทีที่อดทนนั้นจะช่วยให้เรากล้าที่จะบอกล่าวสิ่งที่เราตั้งใจจริงๆ จะสื่อสารไปยังคนนั้นซ้ำอีกครั้ง และบอกกล่าวอย่างระมัดระวังมากขึ้นเพื่อให้สามารถลดความผิดพลาดคลาดเคลื่อนในครั้งก่อนได้

เมื่อใดก็ตามที่ได้รับฟังข้อความที่ไม่ถูกอกถูกใจ ได้ยินได้ฟังอะไรที่ชวนโมโหจากใครสักคนหนึ่งที่ไม่ใช่ศัตรูของเรา บางทีมาจากคนที่เรารักเราชอบด้วยซ้ำ  พระท่านแนะนำว่าให้หยุดพูด หยุดคิด หยุดทำ แล้วหายใจยาว ๆให้คลายอาการนั้นไปก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่ แ

ต่หลายคนหยุดคิด หยุดพูดไม่ได้ ปล่อยให้กลไลอัตโนมัติทำงานตอบโต้ไปในทันที ซึ่งได้บอกกล่าวแล้วว่าการตอบโต้โดยอัตโนมัตินั้นจริงๆ แล้วไม่ใช่ตอบโต้ข้อความที่สื่อสารมาในขณะนั้น แต่เป็นการตอบโต้เรื่องที่สะสมไว้ในตัวเรา  ซึ่งในยามที่กำลังโมโห กำลังไม่พอใจอยู่นั้น กลไกอัตโนมัติจะตอบสนองความโมโหหรือความไม่พอใจนั้นด้วยการสนันสนุนข้อมูลที่บอกความย่ำแย่ของคนนั้นให้เราทบทวนความทรงจำอย่างรวดเร็ว เรื่องสารพัดแย่ของคนนั้นจะพรั่งพรูออกมาให้เราเลือกใช้ในการโต้ตอบได้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ

คนรักคนชอบกันมาแท้ๆ แต่พอเวลาที่ได้ยินได้ฟังอะไรที่ชวนโมโห ชวนไม่พอใจแล้ว เรื่องดีเกี่ยวกับคนนั้นหายไปไหนหมดก็ไม่ทราบ มีแต่เรื่องแย่ๆ เต็มไปหมด เพราะปล่อยให้กลไกอัตโนมัติทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการของเรา โมโหใครอยู่ก็ต้องหาเรื่องแย่ๆ เกี่ยวกับคนนั้นมาให้มากที่สุดในเวลารวดเร็วที่สุดเสียด้วย การตอบโต้โดยอัตโนมัติจึงขยายวงเรื่องแย่ๆ ในการสื่อสารนั้นไปอย่างมากมายหลายประเด็น จนหาข้อยุติไม่ได้จากการที่มีแต่เรื่องแย่ระหว่างกันมากมายเหลือเกิน การถกเถียงจึงขยายขอบเขตไปจนกระทั่งถึงเรื่องส่วนตัวสารพัดแย่ที่จบลงด้วยการที่ต่างคนต่างไม่พอใจกันและกันมากขึ้นไปอีก จากคนรักคนชอบกันมาหลายปีกลายเป็นคนเกลียดคนชังได้ภายหลังจากการสื่อสารกันโดยต่างฝ่ายต่างใช้กลไกอัตโนมัติตอบโต้กันเพียงไม่กี่นาที

หลายครั้งที่ต่างคนต่างค้นพบหลังจากที่กลไกอัตโนมัติยุติหน้าที่ลงไปแล้วว่าจำไม่ได้ว่าแตกแยกกันเพราะอะไร แตกแยกเริ่มต้นมาจากอะไร จำได้แต่ว่าถกเถียงกันสารพัดเรื่อง และเป็นสารพัดเรื่องเกี่ยวกับความย่ำแย่ของแต่ละฝ่ายเท่านั้น เมื่อกลไกอัตโนมัติยุติบทบาทแล้วเราสั่งการให้กลไกปกติค้นหาความจริงเกี่ยวกับคนที่ถกเถียงกันมานั้น คราวนี้กลไกปกติจะบอกว่าส่วนใหญ่ยังมีอะไรที่ดีอยู่อีกเยอะ และเยอะกว่าสารพัดเรื่องย่ำแย่ที่ออกมาในอัตโนมัติส่งมาให้ในขณะถกเถียงกันเสียอีก ตอนนี้แหละที่หลายคนรู้สึกเสียดายที่เกิดเรื่องขึ้น แต่เมื่อเกิดเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาแล้ว ต่างคนต่างมีอัตตา การหวนกลับคืนไปเป็นเหมือนเดิมกับที่เคยเป็นก่อนการถกเถียงโดยกลไกอัตโนมัตินั้นไม่ใช่ที่จะกระทำได้ง่ายๆเสียแล้ว

ห้าวินาทีที่แนะนำให้อดทนนั้นคือห้าวินาทีที่จะไม่ให้กลไกอัตโนมัติเข้ามาทำหน้าที่ตอบโต้นั่นเอง ถ้าอดทนยับยั่งกลไกตอบโต้อัตโนมัติไว้ได้ การโต้ตอบผ่านกลไกปกติจะมีการประมวลในด้านต่างๆ อย่างรอบครอบก่อนที่จะบอกกล่าวถ้อยคำใดๆ ออกไป ซึ่งการโต้ตอบในกลไกปกติจะจำกัดให้อยู่ภายในประเด็นที่มีการถกเถียงกันอยู่ในขณะนั้น เรื่องเล็กยังคงเป็นเรื่องเล็ก เรื่องงานยังคงเป็นเรื่องงาน ไม่บานปลายกลายเป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าไม่อดทนในห้าวินาทีนั้น กลไกอัตโนมัติในการตอบโต้จะทำให้หลายคนต้องเสียใจไปอีกหลายร้อยวันจากการตอบโต้แบบอัตโนมัติกับพี่น้องเพื่อนฝูง  ตอบโต้ไปในทันทีแล้วรู้สึกสะใจอยู่ไม่กี่นาที รู้สึกมีชัยชนะไม่กี่นาที แต่ต้องมีเสียใจกับเรื่องราวที่ได้ตอบโต้ไปโดยที่เคยรู้สึกว่าได้ชัยชนะนั้นไปอีกนานนับร้อยนับพันวัน สะใจห้านาทีเสียใจต่อห้าร้อยวันก็มีให้หลายคนเห็นมาแล้ว

หนทางหนึ่งที่จะลดความรุนแรงของกลไกอัตโนมัติในการตอบโต้คนรักคนชอบกันในยามที่ขัดอกขัดใจกันนั้น ทำได้โดยพยายามลดเรื่องที่ไม่เข้าใจกันไว้ให้น้อยๆ ติดเรื่องใดอยู่ในใจโดยเฉพาะเรื่องที่คิดว่าแย่ของคนรักคนชอบก็ให้ใช้ช่วงเวลาปกติที่ไม่มีโอกาสที่จะมีการถกเถียงใดๆ เกิดขึ้น ทำความกระจ่างในใจตัวเราให้ชัดว่าที่แย่ๆ นั้นแท้จริงแย่หรือเปล่า หรือเป็นแค่ไม่ถูกใจเล็กๆ น้อยๆ ถ้ากระจ่างแล้วว่าเป็นเรื่องจิบจ้อยก็ลืมๆ ไปบ้าง อย่าเป็นคนที่ความจำดีเลิศในเรื่องแย่ แต่หลงลืมดีเด่นในเรื่องดี ต้องจำแม่นเรื่องดี หลงลืมเรื่องแย่

ทำได้เช่นนี้แล้วยามใดที่มีการถกเถียงกันแล้วเกิดไม่พอใจกันขึ้นมา และไม่สามารถอดทนได้แม้แค่ห้าวินาทีเพื่อให้กลไกปกติทำงานต่อไปได้แต่ปล่อยให้กลไกอัตโนมัติมาตอบโต้แทน ก็จะไม่มีเรื่องแย่ๆ ออกมาให้ตอบโต้ ทำได้อย่างมากแค่แสดงความน้อยอกน้อยใจ การถกเถียงที่ปราศจากการกล่าวหาว่าอีกฝ่ายหนึ่งย่ำแย่มีแต่บอกว่าฝ่ายเราน้อยใจนั้น ถ้าเป็นคนรักคนชอบกันจริงแล้วจบลงได้ง่ายกว่าถกเถียงกัน โดยยกความย่ำแย่ของแต่ละฝ่ายขึ้นมาว่ากันเยอะ   อยากรู้ว่าใครเป็นคนรักคนชอบกันจริง ท่านว่าให้ดูตอนถกเถียงกันนี่แหละ ถ้าต่างคนต่างยกสารพัดแย่มาว่ากันแล้วไม่ว่าต่อหน้าคนอื่นจะหวานแหววแค่ไหน ในใจก็คือคนเกลียดคนชังอย่างแน่นอน


สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : อดทนห้าวินาที ดีกว่าเสียใจ ห้าร้อยวัน

view