สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

คุกคามสื่อ!มือมืดบุกยิงรถข่าว ASTV 4 คันรวด

คุกคามสื่อ!มือมืดบุกยิงรถข่าว ASTV 4 คันรวด

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

มือมืดบุกยิงรถข่าว ASTV 4 คันรวดขณะจอดอยู่บริเวณหน้าบ้านเจ้าพระยาและสวนสันติชัยปราการ แถมยังยิงกระจกสำนักบริหาร ASTV อีก 2 นัด พบกล้องวงจรปิดจับภาพชายต้องสงสัยใส่เสื้อสีดำกางเกงสีขาวไว้ได้ ด้าน ผบช.น.ลั่นจับคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้
       
       วันนี้ (26 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.ท.นภสินธิ์ ปิยะรัฐ พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงพราม รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รถข่าว ASTV ที่จอดอยู่หน้าบ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์ แขวงวัดชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 พ.ต.อ.คณิตชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผกก.สน.ชนะสงคราม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.1 สน.ชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.)
       
       ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนชิดฟุตบาธหน้าบ้านเจ้าพระยาซึ่งเป็นที่ตั้ง ของสำนักข่าวเครือ ASTV พบรถยนต์ที่เป็นรถข่าวASTV ถูกยิงได้รับความเสียหาย 2 คัน คันแรกเป็นรถโตโยต้าอัลติสสีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ญษ 4978 กทม. ซึ่งเป็นรถข่าวสายเศรษฐกิจ ถูกยิงที่กระจกหน้ารถ 1 นัด คันที่ 2 เป็นโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฌง 6125 กทม. ซึ่งเป็นรถข่าวสายอาชญากรรม ถูกยิงเข้าที่กระจกหน้ารถ 1 นัด
       
       ห่างกันประมาณ 15 เมตร บริเวณหน้าสวนสาธารณะสันติชัยปราการยังพบรถข่าวASTV ถูกยิงได้รับความเสียหายอีก 2 คัน เป็นรถโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌง 6121 กทม. ซึ่งเป็นรถข่าวสายการเมือง ถูกยิงที่กระจกประตูหน้าฝั่งคนขับ ทะลุกระจกประตูหน้าฝั่งซ้าย 1 นัด และอีกคันจอดติดกันเป็นรถโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฌง 6124 กทม. เป็นรถข่าวสายกีฬา ถูกยิงเข้าที่กระจกประตูหน้าฝั่งคนขับ หัวกระสุนฝังอยู่ในรถ ในที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุน เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะใช้ปืนลูกโม่ขนาด .22 มม.
       
       จากการสอบสวน นายรุ่งโรจน์ ขาวประเสริฐ อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ป้อมหน้าทางเข้าบ้านเจ้าพระยา ให้การว่า ตนเข้าเวรกลางคืนตั้งแต่เวลา 19.00 น.ถึง 07.00 น. และเมื่อคืนที่ผ่านมาตนก็จัดระเบียบจอดรถข่าวริมถนนชิดฟุตบาธ เนื่องจากที่จอดด้านในเต็ม จึงต้องให้รถข่าว 4 คันจอดด้านนอก โดยมีรถของชาวบ้านจอดรวมอยู่ด้วย ซึ่งก็จอดกันเป็นปกติทุกวัน ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งเวลาประมาณ 03.25 น.ขณะที่ตนกำลังจะไปเข้าห้องน้ำ จึงให้เพื่อน รปภ.อีกคนมาอยู่ที่ป้อมหน้าทางเข้าแทน ระหว่างที่กำลังเดินไปเข้าห้องน้ำได้ยินเสียงคล้ายปืนดังขึ้น 4 นัด ระยะห่างกันไม่กี่วินาที
       
       "ตอนนั้นผมไม่ได้เอะใจอะไร เนื่องจากเมื่อคืนก่อนก็มีเจ้าที่มาติดตั้งป้ายจราจร ผมก็ไปเข้าห้องน้ำแล้วกลับมาเข้าเวรตามปกติ กระทั่งตอนผมจะออกเวรตอนเช้าประมาณ 07.00 น. และทีมนักข่าวก็จะเอารถไปทำงานก็มาพบว่ารถข่าวถูกยิงได้รับความเสียหาย จากนั้นก็ประสานคนที่เกี่ยวข้องแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ" นายรุ่งโรจน์ กล่าว
       
       


       ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นชายแต่งกายใส่เสื้อสีดำกางเกงสีขาว เดินเอื่อยๆ อยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามบ้านเจ้าพระยาเมื่อเวลา 03.26น. 42 วินาที ใกล้กับบริเวณป้ายรถประจำทาง


       
       


       เวลา 03.26น. 52 วินาที กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพรถข่าวโตโยต้าของเอเอสทีวีที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม ถูกกระสุนปืนยิงเข้าบริเวณด้านหน้ารถด้านคนขับอย่างชัดเจน


       
       จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของบ้านเจ้าพระยา สามารถจับภาพชายต้องสงสัยได้ 1ราย โดยเป็นชายแต่งกายใส่เสื้อสีดำกางเกงสีขาว เดินเอื่อยๆ อยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามบ้านเจ้าพระยาเมื่อเวลา 03.26น. 42 วินาที ใกล้กับบริเวณป้ายรถประจำทาง จากนั้นเวลา 03.26น. 52 วินาที กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพรถข่าวโตโยต้าของเอเอสทีวีที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม ถูกกระสุนปืนยิงเข้าบริเวณด้านหน้ารถด้านคนขับอย่างชัดเจน
       
       ต่อมาเวลา 03.28 น. ภาพจากล้องวงจรปิดก็จับภาพชายต้องสงสัยคนเดิมเดินผ่านกลับมาแล้วเดินเข้า ตรอกข้างบ้านพระอาทิตย์ โดยตรอกดังกล่าวสามารถทะลุไปยังถนนหลายแห่งในย่านบางลำภู
       
       นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบว่าอาคารอนุรักษ์ ซึ่งเป็นสำนักบริหารของ ASTV ที่กระจกชั้น2 ของอาคารถูกยิงกระจกแตก อีก 2 นัด เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบและเก็บหลักฐาน
       
       ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบมูลเหตุที่เกิดขึ้น ต้องรอพูดคุยซักถามกับทางASTV ก่อนว่าตั้งประเด็นหรือปมไว้แบบไหนอย่างไรบ้าง ยังมองประเด็นกว้าง ๆ ทั้งเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว ประเด็นการสร้างสถานการณ์ หรือ การก่อเหตุของมือที่สาม ส่วนจะเป็นการคุกคามสื่อหรือไม่นั้นต้องหารือกับทางASTV ก่อน
       
       "ขอยืนยันว่าจะทำงานอย่างเต็มที่และจับคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่คลี่คลายคดี พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดของ กทม. อีกหลายตัวในที่เกิดเหตุ เพราะอาจจะเห็นผู้ต้องสงสัยชัดเจนมากกว่านี้ ส่วนอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุน่าจะเป็นขนาด .22มม. เพราะเป็นปืนขนาดเล็ก สังเกตได้จากรูกระสุน ประกอบกับเสียงพยานที่เป็น รปภ.บอกว่าได้ยินไม่ชัดเจน เสียงค่อนข้างเบา ดัง แป๊ะ ๆ 4 ครั้ง ส่วนรูกระสุนที่ชั้น2 ของอาคารก็น่าจะเป็นเหตุการณ์เดียวกัน" ผบช.น. กล่าว


องค์กรวิชาชีพสื่อ จี้ ผบ.ตร.เชือดไก่ให้ลิงดู เร่งล่ามือยิงรถข่าว ASTV

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

องค์กรวิชาชีพสื่อ ซัดพฤติกรรมคนร้ายยิงรถข่าว ASTV เย้ยกฎหมายอย่างอุกอาจ จี้ ผบ.ตร.เร่งจับกุมดำเนินคดีเป็นเยี่ยงอย่าง อย่าปล่อยให้เรื่องหายเข้ากลีบเมฆ เตือนสติใช้ความรุนแรงไม่ช่วยแก้ปัญหา วอนเคารพการทำหน้าที่สื่อ หากกระทบสิทธิให้ว่ากันตามช่องทางกฎหมาย

       
       วันนี้(26ม.ค.) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย แถลงการณ์ร่วมกรณี ไอ้มืดบุกยิงรถข่าวของสำนักข่าว ASTV บนถนนพระอาทิตย์ ว่า จากกรณีที่มีบุคคลไม่ทราบฝ่ายบุกยิงรถข่าวของ ASTV 4 คัน ขณะจอดอยู่บริเวณหน้าบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงวัดชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. และยิงกระจกสำนักงานในเครือของ ASTV เมื่อเวลาประมาณ 03.20 น.ของวันเสาร์ที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา
       
       องค์กรวิชาชีพสื่อ โดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย มีความเห็นร่วมกันว่า
       
       1.เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำที่มีความอุกอาจ ใช้ความรุนแรงเพื่อมุ่งข่มขู่และการคุกคามสิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติหน้าที่ ของสื่อมวลชนโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
       
       จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าวและผู้ที่เกี่ยวข้องเคารพ สิทธิเสรีภาพ และเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน ที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อนำความจริงมาเสนอต่อสาธารณชนอย่างครบถ้วนรอบด้าน
       
       2.การปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน สามารถตรวจสอบได้ตามกลไกที่ชอบด้วยกฎหมาย หากผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน เห็นว่าสื่อมวลชนใช้สิทธิเกินขอบเขต สามารถใช้อำนาจฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย หรือใช้กลไกในการควบคุมทางจริยธรรมขององค์กรสื่อผ่านสภาการหนังสือพิมพ์แห่ง ชาติ และ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย แต่จะต้องไม่ใช้ความรุนแรงคุกคามสื่อ ซึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาใด ๆ ได้ และมีแต่จะสร้างความเสียหายแก่ทุกฝ่าย
       
       3.ขอเรียกร้องต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว ไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบหายไป เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในการข่มขู่คุกคามสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน รวมทั้งขอให้แถลงผลความคืบหน้าคดีต่อสาธารณชนทราบโดยเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยแก่ประชาชนและสังคมไทย
       
       ทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อ ขอให้สื่อมวลชนทุกแขนงทำหน้าที่นำเสนอข่าวสารและแสดงความคิดเห็น โดยยึดมั่นในกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ไม่ละเว้นการเสนอข่าวเพราะความลำเอียง หรือมีอคติจนเป็นเหตุให้ข่าวนั้นคลาดเคลื่อนหรือเกินจากความเป็นจริง การไม่ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ตกเป็นข่าว และพึงหลีกเลี่ยงคำไม่สุภาพและมีความหมายเหยียดหยาม ฯลฯ
       
       องค์กรวิชาชีพสื่อ ขอเป็นกำลังใจให้สื่อมวลชนทุกแขนงทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ซื่อสัตย์ในวิชาชีพ เพื่อประโยชน์และสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนต่อไป


คนร้ายยิงถล่มรถข่าวASTV ผู้จัดการ

จาก โพสต์ทูเดย์

คนร้ายยิงถล่มรถข่าวASTV ผู้จัดการ

บุกยิงรถข่าวของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี จำนวน 4  คันรวดกลางดึก ปานเทพเชื่อต้องการข่มขู่ เหตุไม่พอใจการนำเสนอข่าว

เมื่อเวลา 03.20น. วันที่ 26 ม.ค.คนร้ายบุกยิงรถข่าวของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี จำนวน 4 คัน ซึ่งจอดอยู่บนถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร บริเวณหน้าบ้านเจ้าพระยา 2 คัน และสวนสันติไชยปราการ 2 คัน  จำนวนหลายนัด บริเวณกระจกรถแตก และทะลุเข้าไปยังห้องโดยสารด้านใน เหตุการณ์ดังกล่าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่อย่างใด เนื่องจากเป็นรถข่าวที่จอดไว้รอการใช้งานในช่วงเช้า

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 3.20น. ของวันเสาร์ที่ 26 ม.ค. ตนได้ยินเสียงปืนบริเวณหน้าบ้าน แต่ไม่กล้าออกมาดู โดยหลังจากเสียงปืนเงียบจึงออกมาดูพบว่ารถข่าวทั้ง 4 คันที่จอดอยู่บริเวณด้านหน้าบ้านเจ้าพระยา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวีจำนวน 2 คัน และที่จอดอยู่บริเวณสวนสันติไชยปราการอีก 2 คัน โดนอาวุธปืนยิงใส่เป็นจำนวนหลายนัดบริเวณกระจกรถ และทะลุเข้าไปยังห้องโดยสารด้านใน
         
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีได้เข้าแจ้งความ ยังสถานีตำรวจชนะสงครามเพื่อมาตรวจสอบเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ด้าน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)และคอลัมนิสต์ นสพ.เอเอสทีวีผู้จัดการ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ทราบเรื่องแล้ว คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากความไม่พอใจในการนำเสนอข่าวของเอเอสทีวี จึงต้องการที่จะข่มขู่ และพยายามที่จะปราม จึงเลือกลงมือช่วงตี 3 เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ

ทั้งนี้คงต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย คือ แจ้งความหาคนทำผิด และตรวจวงจรปิดอีกครั้งว่า มีความชัดเจนแค่ไหน ซึ่งเหตุการที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งแรก แต่ถือเป็นเหตุแรกในรัฐบาลชุดนี้ ส่วนการจับคนร้ายขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่า จริงจังแค่ไหน เพราะการนำเสนอข่าวประเด็นขัดแย้งมาจากหลายกรณี จึงยังไม่ทราบว่าเกิดจากกรณีใด


น.1รุดสอบเหตุยิงรถข่าวเอเอสทีวี

จาก โพสต์ทูเดย์

"คำรณวิทย์" ตรวจสอบยิงรถข่าว "เอเอสทีวี"  เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด ล่าคนร้าย

เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.ท.นภสินธิ์ ปิยะรัฐ พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงพราม รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รถข่าวเอเอสทีวี ที่จอดอยู่หน้าบ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์ แขวงวัดชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 พ.ต.อ.คณิตชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผกก.สน.ชนะสงคราม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.1กับ สน.ชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.)

ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนชิดฟุตบาธหน้าบ้านเจ้าพระยาซึ่งเป็นสำนักข่าว เครือเอเอสทีวี พบรถยนต์ที่เป็นรถข่าวเอเอสทีวี ถูกยิงได้รับความเสียหาย 2 คัน คันแรกเป็นรถโตโยต้าอัลติสสีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ญษ 4978 กทม. ซึ่งเป็นรถข่าวสายเศรษฐกิจ ถูกยิงที่กระจกหน้ารถ 1 นัด คันที่2 เป็นโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฌง 6125 กทม. รถข่าวสายอาชญากรรม ถูกยิงเข้าที่กระจกหน้ารถ 1 นัด ห่างกันประมาณ15 เมตร บริเวณหน้าสวนสาธารณะสันติชัยปราการยังพบรถข่าวเอเอสทีวี ถูกยิงได้รับความเสียหายอีก 2 คัน เป็นรถโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌง 6121 กทม. ซึ่งเป็นรถข่าวสายการเมือง ถูกยิงที่กระจกประตูหน้าฝั่งคนขับ ทะลุกระจกประตูหน้าฝั่งซ้าย 1 นัด และอีกคันจอดติดกันเป็นรถโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฌง 6124 กทม. เป็นรถข่าวสายกีฬา ถูกยิงเข้าที่กระจกประตูหน้าฝั่งคนขับ หัวกระสุนฝังอยู่ในรถ ในที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนตกหล่น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะใช้ปืนลูกโม่ขนาด .22 มม.

จากการสอบสวนนายรุ่งโรจน์ ขาวประเสริฐ อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ป้อมหน้าทางเข้าบ้านเจ้าพระยา ให้การว่า ตนเข้าเวรกลางคืนตั้งแต่เวลา 19.00 น.ถึง 07.00 น. และเมื่อคืนที่ผ่านมาตนก็จัดระเบียบจอดรถข่าวริมถนนชิดฟุตบาธ เนื่องจากที่จอดด้านในเต็ม จึงต้องให้รถข่าว 4 คันจอดด้านนอก โดยมีรถของชาวบ้านจอดรวมอยู่ด้วย ซึ่งก็จอดกันเป็นปกติทุกวันที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งเวลาประมาณ 03.25 น.ตนจะไปเข้าห้องน้ำ จึงให้เพื่อน รปภ.อีกคนมาอยู่ที่ป้อมหน้าทางเข้าแทน ระหว่างที่กำลังเดินไปเข้าห้องน้ำได้ยินเสียงคล้ายปืนดังขึ้น 4นัด ระยะห่างกันไม่กี่วินาที

"ตอนนั้นผมไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ เนื่องจากเมื่อคืนก่อนก็มีเจ้าที่มาติดตั้งป้ายจราจร ผมก็ไปเข้าห้องน้ำแล้วกลับมาเข้าเวรตามปกติ กระทั่งตอนผมจะออกเวรตอนเช้าประมาณ 07.00 น. และทีมนักข่าวก็จะเอารถไปทำงานก็มาพบว่ารถข่าวถูกยิงได้รับความเสียหาย จากนั้นก็ประสานคนที่เกี่ยวข้องแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ"นายรุ่งโรจน์ กล่าว

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของบ้านเจ้าพระยาสามารถจับภาพชายต้องสงสัยได้ 1ราย แต่งกายใส่เสื้อสีดำกางเกงสีขาว เดินอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านเจ้าพระยาเวลา 03.25 น. จากนั้นเวลา 03.26 น.กล้องวงจรปิดอีกตัวสามารถจับภาพกระจกรถคันแรกแตกร้าวขณะถูกยิง ต่อมาเวลา 03.28 น. ภาพจากล้องวงจรปิดก็จับภาพชายต้องสงสัยคนเดิมเดินผ่านกลับมาแล้วเดินเข้า ตรอกไก่แจ้ ก่อนที่จะผ่านหน้าบ้านพระอาทิตย์ โดยตรอกดังกล่าวสามารถทะลุได้หลายที่ทั้งถนนพระสุเมรุ และตั้งฮั่วเส็ง ถนนจักรพงศ์

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบว่าอาคารอนุรักษ์ ซึ่งเป็นสำนักบริหารของ เอเอสทีวี ที่กระจกชั้น2 ของอาคารถูกยิงกระจกแตก อีก 2นัด เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบและเก็บหลักฐาน

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบมูลเหตุที่เกิดขึ้น ต้องรอพูดคุยซักถามกับทางเอเอสทีวี ก่อนว่าตั้งประเด็นหรือปมไว้แบบไหนอย่างไรบ้าง ยังมองประเด็นกว้างๆ ทั้งเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว ประเด็นการสร้างสถานการณ์ หรือ การก่อเหตุของมือที่สาม ส่วนจะเป็นการคุกคามสื่อหรือไม่นั้นต้องหารือกับทางเอเอสทีวี ก่อน ยืนยันว่าจะทำงานอย่างเต็มที่จับคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่คลี่คลายคดี พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดของ กทม. อีกหลายตัวในที่เกิดเหตุ เพราะอาจจะเห็นผู้ต้องสงสัยชัดเจนมากกว่านี้

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ยังกล่าวด้วยว่า อาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุน่าจะเป็นขนาด .22 มม. เพราะเป็นปืนขนาดเล็ก สังเกตได้จากรูกระสุน ประกอบกับเสียงพยานที่เป็น รปภ.บอกว่าได้ยินไม่ชัดเจน เสียงค่อนข้างเบา ดัง แป๊ะๆ 4 ครั้ง ส่วนรูกระสุนที่ชั้น2 ของอาคารก็น่าจะเป็นเหตุการณ์เดียวกัน


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : คุกคามสื่อ มือมืดบุก ยิงรถข่าว ASTV

view