สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ทนุศักดิ์ แจงโยก สุภา พ้น ปธ.ปิดจำนำข้าว เพื่อต้องการสลับงานรับผิดชอบตามความถนัด

ทนุศักดิ์” แจงโยก “สุภา” พ้น ปธ.ปิดจำนำข้าว เพื่อต้องการสลับงานรับผิดชอบตามความถนัด

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

รมช.คลัง ยันเดินหน้าแผนเดิม “รับจำนำข้าว” อุบกู้เพิ่มโปะโครงการ เพราะพาณิชย์ส่งเงินคืนแล้ว 1 แสนล้าน พร้อมแจงข่าวเปลี่ยนตัว “สุภา” ปธ.โครงการปิดบัญชี “จำนำข้าว” โบ้ยเป็นการตัดสินใจของ “ปลัดคลัง” เพราะได้มีการหารือโยกหน้าที่ระดับ “รองปลัด” เรียบร้อยแล้ว เพื่อต้องการสลับงานรับผิดชอบตามความถนัด หากมีข้อสงสัยพร้อมชี้แจงในสภา 29 พ.ค.นี้
       
       นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตามแผนรับจำนำข้าววงเงิน 410,000 ล้านบาท ขณะนี้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ยังกู้เงินเพื่อส่งมอบให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไม่ครบตามจำนวน หากกู้เงินครบแล้วถึงจะประเมินได้ว่า วงเงินรับจำนำข้าวเปลือกเพียงพอหรือไม่ ดังนั้น คาดว่ากระทรวงพาณิชย์คงยังไม่เสนอขอให้เพิ่มวงเงินกู้ และกระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่าจะระบายข้าวให้ได้ 200,000 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้
       
       นายทนุศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันส่งเงินจากการระบายข้าวให้ ธ.ก.ส.แล้ว 100,000 ล้านบาท ดังนั้น เหลือระยะเวลาอีก 6 เ ดือน กระทรวงพาณิชย์ ยังได้ยืนยันว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย แม้เงินบาทแข็งค่าจะส่งผลต่อการจำหน่ายข้าว แต่ต้องผลักดันให้ภาคเอกชนผู้ส่งออกช่วยลุยตลาดเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ยอมรับผลขาดทุนจากการขายข้าวไม่ได้มาจากเงินบาทแข็งค่า แต่เป็นเพราะรัฐบาลไม่ยอมลดราคาการขายข้าวเพื่อรักษามาตรฐานคุณภาพข้าว เพราะต้องการดูระยะเวลาที่เหมาะสม สำหรับสภาพคล่องของ ธ.ก.ส. ขณะนี้ยังสามารถรองรับการรับจำนำข้าวได้ตามปกติ
       
       ส่วนกรณีกระแสข่าวเปลี่ยนประธานคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำ ข้าวเปลือกจาก น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง นั้น นายทนุศักดิ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้มอบอำนาจให้รองปลัดเป็นผู้ดำเนินการ และช่วงที่ผ่านมา ได้หารือระหว่างรองปลัดกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้บริหารร่วมกันเกี่ยวกับการสลับหน้าที่การทำงานของระดับรองปลัดกระทรวง การคลัง ที่มี นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ และ น.ส.สุภา เพื่อต้องการสลับงานรับผิดชอบตามความถนัด ดังนั้น การเปลี่ยนผู้ดูแลการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวคงไม่มีอะไรน่าวิตกกังวล เพราะหากมีข้อสงสัยระหว่างการประชุมสภาวิสามัญวันที่ 29 พฤษภาคม 2556 นี้ ฝ่ายค้านจะนำเรื่องดังกล่าวมาตั้งกระทู้ถามในสภา ดังนั้น คงไม่มีอะไรน่ากังวล


เด้ง'สุภา'พ้นบอร์ดปิดบัญชีข้าว

สุภา ปิยะจิตติ ,เด้งสุภา,จำนำข้าว,คลัง,ปิดบัญชีข้าว

คลัง"เด้ง"สุภา"พ้นประธานกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว หลังจากประเมินรัฐขาดทุนกว่า 2 แสนล้านบาท สถานะโครงการทรุด "กิตติรัตน์" ปัดเอี่ยว

โครงการจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เริ่มปรากฏช่องโหว่มากขึ้น หลังจากรัฐบาลรับข้าวมาในราคาสูง และไม่สามารถระบายออกต่างประเทศได้ เป็นผลให้ประสบปัญหาขาดทุนจำนวนมาก โดยคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวสรุปผลขาดทุนเบื้องต้นกว่า 2 แสนล้าน ซึ่งเป็นการประเมินผลอย่างตรงไปตรงมามากเกินไป เป็นผลให้เกิดการโยกย้ายประธานกรรมการปิดบัญชีออกจากหน้าที่รับผิดชอบทันที

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากมีรายงานข่าวจากคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลช่วงเวลาการผลิตปี 2554/2555 ที่มีนางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ที่ได้รับมอบหมายจากนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ให้เป็นประธานคณะกรรมการชุดดังกล่าว ได้ประเมินโครงการจำนำข้าวปี 2554/2555 จะมีผลขาดทุนกว่า 2 แสนล้านบาท

ปรากฏว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานายอารีพงศ์ ได้มีคำสั่งให้มีการสับเปลี่ยนภารกิจของรองปลัดกระทรวงการคลังใหม่ทันที โดยโยกนางสาวสุภา ไปกำกับดูแลงานของสำนักปลัดกระทรวงการคลังและสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) แทนนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวง ที่จะมาดูแลงานของกรมบัญชีกลางและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ที่ นางสาวสุภา เคยกำกับดูแลมาก่อน รวมถึงการเป็นประธานคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกด้วย

โดยปลัดกระทรวงการคลัง ระบุเหตุผลในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่า ต้องการให้รองปลัดกระทรวงการคลังทุกคนได้เรียนรู้งานของแต่ละกรม เพื่อเตรียมตัวไว้ หากได้รับการแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมต่างๆ เช่น กรมบัญชีกลาง กรมสรรพสามิต สศค. กรมสรรพากร ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้มีผลตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา

"เป็นที่รู้กันว่าตัวเลขผลดำเนินงานของโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลนั้น มักมีข่าวออกมาในทำนองว่า มีผลขาดทุนจำนวนมาก หรือ เริ่มมีปัญหาการระบายข้าวทำให้มีเม็ดเงินไม่เพียงพอ ที่จะนำมาใช้รับจำนำในโครงการปีถัดไป ประกอบกับรองปลัดฯ สุภา ที่ดูแลโครงการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ก็มักจะรายงานตัวเลขอย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะตัวเลขการระบายข้าวแบบจีทูจีของกระทรวงพาณิชย์ที่ไม่ชัดเจนว่าได้ระบายขายไปให้ประเทศใด จำนวนเท่าไร ซึ่งทำให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ค่อนข้างไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงน่าจะเป็นเหตุผลสำคัญทำให้มีการสลับตำแหน่งของรองปลัดกระทรวงการคลังครั้งนี้" แหล่งข่าวระบุ

แผนคืนเงินขายข้าววืดเป้า

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ในส่วนของการจ่ายเงินระบายข้าวคืนให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นั้น พบว่าในช่วงเดือนเม.ย.-15 พ.ค. 2556 การจ่ายเงินคืนของกระทรวงพาณิชย์เริ่มมีปัญหาต่ำกว่าเป้าหมายที่ ธ.ก.ส.กำหนดไว้ โดยเดือนเม.ย. ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1.26 หมื่นล้านบาท แต่ได้รับเงินมาเพียง 3,386 ล้านบาทเท่านั้น โดยแบ่งเป็น เงินได้จากการระบายข้าวนาปี 2554/2555 จำนวน 502 ล้านบาท นาปรังปี 2554/2555 จำนวน 846 ล้านบาท และนาปี 2555/2556 จำนวน 2,037 ล้านบาท ขณะที่เดือนพ.ค. เป้าหมาย 1.34 หมื่นล้านบาท แต่ถึงวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้รับเงินมาเพียง 3,800 ล้านบาท แบ่งเป็นนาปี 2554/2555 จำนวน 328 ล้านบาท นาปรังปี 2554/2555 จำนวน 1,578 ล้านบาท และนาปี 2555/2556 จำนวน 1,894 ล้านบาท

ทั้งนี้ เป้าหมายรายได้ระบายข้าวที่กระทรวงพาณิชย์ต้องจ่ายคืน ธ.ก.ส.ในช่วงไตรมาสแรก กำหนดไว้ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท แต่ ธ.ก.ส.ได้รับเงินจริงเพียง 1 หมื่นล้านบาทเศษเท่านั้น ขณะที่เดือนมิ.ย. กำหนดไว้ 1.36 หมื่นล้านบาท เดือนก.ค. อยู่ที่ 1.16 หมื่นล้านบาท เดือนส.ค. อยู่ที่ 1.09 หมื่นล้านบาท เดือนก.ย. อยู่ที่ 1.14 หมื่นล้านบาท รวมรายได้ 3.3 หมื่นล้านบาท

เดือนต.ค. อยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท เดือนพ.ย. อยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท เดือนธ.ค. อยู่ที่ 1.27 หมื่นล้านบาท รวมทั้งปีเป้าหมายอยู่ที่ 1.56 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อคำนวณจากตัวเลขแล้ว คาดว่า ธ.ก.ส. จะได้รับเงินคืนเพียง 4.28 หมื่นล้านบาท เท่านั้น แบ่งเป็น นาปี 2554/2555 จำนวน1.19 หมื่นล้านบาท นาปรัง 2554/25555 จำนวน1.69 หมื่นล้านบาท และนาปรังปี 2555/2556 จำนวน 1.4 หมื่นล้านบาท

อ้างบาทแข็งหดเป้าคืนเงิน ธ.ก.ส.

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ อ้างว่าไม่สามารถจ่ายเงินระบายข้าวคืนได้ตามเป้าหมายนั้น เนื่องจากในช่วงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีปัญหาเงินบาทแข็งค่า แม้กระทรวงพาณิชย์จะระบายขายข้าวไปได้ แต่ระยะเวลาในการส่งมอบ ทำให้ช่วงเวลามาตรงกับช่วงที่เงินบาทแข็งค่า ทำให้เงินจากการขายข้าวเมื่อแปลงเป็นเงินบาทจึงมีมูลค่าลดลง จนต้องมีการปรับเป้าหมายการจ่ายเงินคืนให้ ธ.ก.ส. จากเดิมกำหนดไว้ที่ 1.56 แสนล้านบาท ลดเหลือเพียง 1.3 แสนล้านบาท

ทำให้ ธ.ก.ส. เริ่มกังวลว่าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2555/2556 อาจจะมีปัญหาเม็ดเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการ เพราะการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ยังคงมีการออกใบประทวนขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ต่อเนื่อง โดยล่าสุดปริมาณรับจำนำข้าวนาปี อยู่ที่ 13 ล้านตัน ใช้วงเงินไปแล้ว 2.2 แสนล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะรับจำนำเพิ่มถึง 15 ล้านตัน ซึ่งวงเงินอาจจะสูงถึง 2.4 แสนล้านบาท ขณะเดียวกันการรับจำนำข้าวนาปรังปี 2555/2556 ที่เริ่มมาเมื่อปลายเดือนพ.ค. ก็มีปริมาณ 2 ล้านตัน จากเป้าหมาย 7 ล้านตัน ใช้วงเงินไปแล้ว 3.3 หมื่นล้านบาท

อารีพงศ์แจงโยกเพื่อความเรียบร้อย

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เพื่อให้การบริหารราชการของส่วนราชการในกลุ่มภารกิจ แต่ละกลุ่มภารกิจของกระทรวงการคลัง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงจัดให้มีการสับเปลี่ยนหน้าที่ของรองปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มภารกิจของแต่ละกลุ่มภารกิจใหม่ โดยให้นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง มาปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน แทน นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ขณะที่ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ยังคงปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายได้ และนายจักรกฤษฏิ์ พาราพันธกุล ยังคงปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านทรัพย์สิน โดยมีคำสั่งอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 27 พ.ค. นี้

ด้าน นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เมื่สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้หารือกันอย่างเปิดเผย ทั้งส่วนตัวรวมถึงรมว.คลัง, ปลัดกระทรวงการคลัง และ 4 รองปลัดกระทรวงการคลัง เพราะถึงช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. จะมีการโยกย้ายตามปกติ จึงจำเป็นต้องขยับเพื่อให้การบริหารมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ขณะที่ นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมศุลกากร ที่จะเกษียณอายุในสิ้นเดือนก.ย. นี้

ส่วนกรณีการปรับเปลี่ยนภารกิจหน้าที่รองปลัดกระทรวงการคลังดังกล่าวนั้น จะมีผลต่อการปลดนางสาวสุภาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายทนุศักดิ์กล่าวว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของปลัดกระทรวงการคลัง พิจารณาความเหมาะสมเป็นรายบุคคลและมอบหมายให้ใครต่อ หากเนื้อหาสาระไม่ได้บิดเบือนก็ไม่ต้องกังวล

กิตติรัตน์เลี่ยงตอบผลขาดทุน

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การคลัง กล่าวถึงกรณีที่นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรมว.คลัง ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการรับจำนำข้าวหลังจากที่ คณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำผลผลิตการเกษตร ได้สรุปว่ารัฐบาลขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าวจำนวน 260,000 ล้านบาท โดยเรียกร้องให้นายกิตติรัตน์ ออกมารับผิดชอบ

นายกิตติรัตน์ เคยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2554 ว่า ถ้ารัฐบาลทำโครงการรับจำนำข้าวแล้วทำให้รัฐเสียหายมากกว่า 60,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่รัฐบาลชุดก่อนใช้ชดเชยในระบบประกันรายได้เกษตรกร พรรคเพื่อไทยคงอยู่ไม่ได้ และไม่ต้องตั้งคำถามว่า ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ จะรับผิดชอบอย่างไร โดยนายกิตติรัตน์ตอบสั้นๆ ว่า “ผมไม่ขอตอบเรื่องนี้”

โยนปลัดคลังโยกสุภาพ้นจำนำข้าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ปลดนางสาวสุภา นายกิตติรัตน์กล่าวว่า เรื่องนี้อธิบายว่ารองปลัดกระทรวงการคลัง จำนวน 4 คน สามารถสลับหน้าที่กันได้ตามการตัดสินใจของปลัดกระทรวงการคลัง ดังนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพราะไม่ใช่การดำเนินการปรับโยกย้ายระดับอธิบดีกรมที่ต้องเสนอเรื่องให้ ครม.พิจารณา ซึ่งกรณีที่จะปรับการรับผิดชอบรองปลัดกระทรวงในกระทรวงที่มีรองปลัดหลายคน เป็นหน้าที่ของปลัดกระทรวงดำเนินการตามความเหมาะสม

"ถ้าไปโยงกัน ผมเข้าใจอย่างนี้น่าจะถูกต้อง ท่านรองปลัดกระทรวงท่านนั้นดูแลในฐานะประธานปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ถ้าสลับตำแหน่งอะไรทั่วไป ก็ยังเป็นตำแหน่งรองปลัดเหมือนเดิม ส่วนคุณกรณ์ เป็นอดีตรมว.คลังไปแล้ว อยู่ในหน้าที่อดีตรมว.คลังอย่างเหมาะสมแล้วกัน มีอะไรไปพูดจากันในสภา" นายกิตติรัตน์ กล่าว

"บุญทรง"เผยต่างชาติสนจีทูจีเพียบ

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานประชุมข้าวนานาชาติปี 2556 หรือ ไทยแลนด์ ไรซ์ คอนเวนชั่น 2013 ระหว่างวันที่ 26-28 พ.ค. นี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า กระทรวงพาณิชย์ จะเจรจาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในงานนี้กับรัฐมนตรีการค้าจากประเทศผู้นำเข้าหลายประเทศ โดยรัฐมนตรีการค้าจากประเทศโตโก สนใจจะซื้อข้าวขาวจากไทยโดยตรง จากเดิมที่โตโกซื้อข้าวไทยผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศ

ส่วนรัฐบาลเกาหลีใต้นั้น ที่ได้เจรจาซื้อข้าวขาวแบบจีทูจีจากไทยมาก่อนหน้านี้นั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างการยกร่างบันทึกความตกลง (เอ็มโอยู) การซื้อขายระหว่างกัน เบื้องต้นกำหนดปริมาณจะซื้อขายประมาณ 1 ล้านตัน ภายในระยะเวลา 1 ปี นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายประเทศที่อยู่ระหว่างการเจรจาแบบจีทูจี เช่น บางประเทศในทวีปแอฟริกาใต้ บางประเทศในตะวันออกกลาง รวมถึงจีน เป็นต้น

เผยสต็อกไม่พอขายให้ผู้ซื้อ

"ตอนนี้หลายประเทศสนใจซื้อข้าวจากไทยแบบจีทูจี ซึ่งกำลังเจรจาอยู่ ถ้านับปริมาณที่เสนอซื้อเข้ามา น่าจะทำให้ข้าวในสต็อกปีนี้ไม่พอขาย และยังมั่นใจว่า ไทยจะยังมีมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดโลกเหมือนเดิม ส่วนของปริมาณยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป อีกทั้งยังมั่นใจว่าจะนำเงินจากการขายข้าวส่งคืนกระทรวงการคลังได้ตามเป้าหมาย และมีเงินเพียงพอใช้ในโครงการรับจำนำข้าวในปีหน้า"

นายบุญทรง จะเสนอกรอบการรับจำนำข้าวรอบใหม่ เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เร็วๆ นี้ โดยยังคงราคารับจำนำเท่าเดิมที่ตันละ 15,000-20,000 บาท ส่วนการสรุปค่าใช้จ่ายโครงการดูแลราคาสินค้าเกษตรปี 2554/55 นั้น ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และเป็นการประเมินค่าใช้จ่ายสินค้าเกษตรทั้งหมดไม่เฉพาะสินค้าข้าวเท่านั้น


มาร์ค" เสียดาย สุภา โดนโยกพ้น สบน.

จาก โพสต์ทูเดย์

อภิสิทธิ์ ยอมรับ เสียดาย "สุภา"โดนโยกพ้น สบน.  ทำงานตรงไปตรงมา 

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า  เสียดายที่มีการปรับเปลี่ยนความรับผิดชอบของ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลังจากเดิมที่ดูแล กรมบัญชีกลางและสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ไปดูแลสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง  เพราะ น.ส.สุภาเป็นคนตรง  รายงานแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา แต่ยังไม่ทราบว่าเกิดปัญหาอะไรจึงถูกปรับเปลี่ยนความรับผิดชอบ แต่ที่ผ่านมา  น.ส.สุภารับผิดชอบดูแลผลประโยชน์ส่วนรวมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในเรื่องการเป็นประธานปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลก็มีการ รายงานตามความจริง หากรัฐบาลย้ายความรับผิดชอบของ น.ส.สุภา ด้วยสาเหตุนี้ก็จะเป็นเรื่องแปลก

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา น.ส.สุภา ยังท้วงติงเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติในหลาย ๆ เรื่องด้วย จึงรู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถทำงานในจุดที่จะตรวจสอบเพื่อช่วยรักษาผล ประโยชน์ของประเทศต่อไปได้ เพราะถ้ารัฐบาลอ้างว่ามีนโยบายปราบปรามการทุจริตก็ควรใช้คนอย่างนางสาวสุภา ให้เป็นประโยชน์  ทั้งน้ี คนที่เป็นข้าราชการโดยอาชีพ ศักดิ์ศรีและคุณค่าของความเป็นข้าราชการคือการทำในสิ่งที่ถูกต้องและอยากให้ ข้าราชการทุกคนเชื่อมั่นในสิ่งนี้


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ทนุศักดิ์ สุภา ปธ.ปิดจำนำข้าว สลับงาน รับผิดชอบ ตามความถนัด

view