ไทยยังเสี่ยงถูกลดอันดับ Tier 2 Watch List
โดย : ทนงศักดิ์ วัฒนบวรกุล
จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ความพยายามของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ในการที่จะปลดล็อก แก้ปัญหาค้ามนุษย์ เริ่มจะเห็นภาพของความร่วมมือกันของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
หลังจากที่ถูกทางสหภาพยุโรป (อียู) หยิบประเด็นเรื่องค้ามนุษย์ขึ้นมาโจมตีไทยเมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่าน ซึ่งมีการเผยแพร่สารคดีการค้ามนุษย์บนเรือประมงไทย ที่มีเนื้อหาโจมตีอุตสาหกรรมประมงของไทย และทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยระบุว่าประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตและส่งออกสินค้าอาหารทะเลเป็นอันดับสามของโลก และเป็นศูนย์กลางของการค้ามนุษย์
แม้ที่ผ่านมาหลายหน่วยงานของไทยจะออกมาชี้แจง แต่ก็ดูจะไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ไม่ต่างกับการถูกตีหัวเข้าบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานประมงต่างด้าวที่มักกลายเป็นจุดอ่อนให้ประเทศคู่แข่งใช้เป็นเงื่อนไขต่อรอง โดยเฉพาะการถูกจับตาจากประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ที่ยังคงจัดอันดับให้ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มที่ 2 บัญชีรายชื่อประเทศที่ต้องถูกจับตามอง (Tier 2 Watch List) ซึ่งต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 และหากรัฐบาลยังไม่เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา ความเสี่ยงที่ไทยจะถูกปรับลดอันดับลงเป็น Tier 3 ก็มีสูงขึ้น
เท่ากับสถานการณ์ของประเทศไทยในขณะนี้มีความเสี่ยงที่จะถูกลดระดับชั้นลงเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งหากภายในปีนี้ประเทศไทยยังไม่สามารถแสดงให้สหรัฐเห็นได้ว่า มีความพยายามหรือพัฒนาการอย่างเพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ตามมาตรฐานขั้นต่ำของกฎหมายสหรัฐ นั่นหมายถึงว่าเราอาจต้องสูญเสียตลาดส่งออกเพิ่มขึ้นไปอีก
โอกาสที่เราจะพลิกสถานการณ์ให้มีแต้มต่อ เราต้องมีหลักฐานเพียงพอที่จะไปแสดงให้เห็นว่าขบวนการค้ามนุษย์บนเรือประมงของไทยไม่มีอยู่จริง เพื่อหักล้างประเด็นที่ถูกโจมตี รวมถึงแรงงานในภาคส่วนอื่นๆ ที่ไม่ใช่แรงงานประมง ก็จะต้องถูกนำเสนอในมุมที่ดีๆ ออกสู่ประชาคมโลกให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ด้วย ที่สำคัญประเทศไทยต้องสามารถแสดงแผนงาน ตลอดจนความมุ่งมั่นที่จะใช้ความพยายามในการต่อต้านการค้ามนุษย์ให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรม
ซึ่งทุกวันนี้ข้อมูลที่มีอยู่ในทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมประมงก็ดี กระทรวงการต่างประเทศก็ดี กระทรวงแรงงานก็ดี ล้วนเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง หนักแน่น สามารถอธิบายตรวจสอบได้ มองว่าปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่ ประเทศไทยทำผิดกฎหมายค้ามนุษย์ แต่อยู่ที่เราไม่มีการสื่อสารข้อมูลในมิติที่ดีๆ ออกสู่ออกไปสู่ประชาคมโลกมากพอ
ล่าสุดสหรัฐอเมริกามีความพยายามเข้ามามีส่วนร่วม ในการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ โดยนายหลุยส์ ซีดีเบกา ผู้แทนเอกอัครราชทูตประจำสำนักงานติดตามและต่อต้านการค้ามนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา กล่าวหลังเข้าหารือกับนพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ว่ารู้สึกเป็นห่วงเรื่องการยึดพาสสปอร์ตและหักเงินค่าจ้างแรงงานต่างด้าวในกิจการประเภทต่างๆ เพื่อจ่ายเป็นค่านายหน้าในการเข้าทำงานในไทย และยังย้ำว่าไทยยังมีจุดอ่อนในเรื่องการลงโทษทางกฎหมายกับนายจ้างที่กระทำผิดเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งยังเป็นไปอย่างล่าช้าและไม่เข้มงวดเพียงพอ ทำให้นายจ้างไม่เกรงกลัว
พร้อมกับแนะให้กระทรวงแรงงานปรับปรุงเรื่องนี้โดยการประสานงานกับตำรวจให้เข้ามาช่วยตรวจสอบ จับกุมและดำเนินคดีกับนายจ้างให้มากขึ้น ประเด็นที่น่าสนใจคือ สหรัฐอเมริกาจะส่งคณะที่ปรึกษามาช่วยแนะนำกระทรวงแรงงานในเรื่องนี้ เพื่อให้ประเทศไทยมีความเข้มแข็งในการดำเนินการทางกฎหมายกับนายจ้างที่กระทำผิด
วันนี้ต้องบอกว่าสหรัฐอเมริกาเริ่มขยับรุกคืบเข้ามาจัดการปัญหาค้ามนุษย์ในไทยแบบใกล้ชิดข้อมูลมากขึ้น เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่าหากไทยยังแก้ปัญหาแบบเดิมๆ โอกาสที่อเมริกาจะใช้มาตรการทางกฎหมายมาบีบไทยก็มีความเป็นไปได้สูงทีเดียว
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
