จากประชาชาติธุรกิจ
โดย ดร.กำพล อดิเรกมมบัติ หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธิ์ทิสโก้
เศรษฐกิจโลกในปีหน้ามีแนวโน้มที่จะขยายตัวเร่งขึ้น โดยเฉพาะการขยายตัวของประเทศพัฒนาแล้ว หลังจากความเสี่ยงต่าง ๆ เริ่มลดลง
เริ่ม กันที่เศรษฐกิจสหรัฐ ที่การขยายตัวมีแนวโน้มจะแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าปีนี้ โดยในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เครื่องชี้หลายตัวปรับดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดแรงงานและภาคการผลิต และคาดว่าการขยายตัวจะมีแรงส่งไปยังปี 2014 ขณะที่ความเสี่ยงหลักในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา คือ ความไม่แน่นอนทางการคลัง กลับลดลงไปมากในปีนี้ ล่าสุดสภาคองเกรสของสหรัฐผ่านแผนงบประมาณปี 2014/2015 ได้ภายในเดือนธันวาคม นับว่าเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่า อาจจะยืดเยื้อไปจนถึงต้นปีหน้า สะท้อนว่า สภาคองเกรสของสหรัฐคงไม่ต้องการให้ปัญหาการเมืองส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น เศรษฐกิจ
ดังที่เคยเกิด ขึ้นตอนรัฐบาลปิดทำการ (Government Shutdown) เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และทำให้คะแนนนิยมของนักการเมืองลดลง ด้วยเหตุนี้เชื่อว่า ในลำดับต่อไปที่สภาคองเกรสจะต้องพิจารณาเรื่องขึ้นเพดานหนี้สาธารณะ (Debt
Ceiling) ของสหรัฐนั้นน่าจะเรียบร้อยและผ่านได้ง่ายกว่าในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
การ ขยายตัวที่แข็งแกร่งและความเสี่ยงด้านการคลังที่ลดลง ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) กล้าที่จะเริ่มถอนการกระตุ้นทางนโยบายการเงินลง โดยการปรับลดวงเงินในการเข้าซื้อสินทรัพย์ภายใต้โครงการ QE ของตนลง หนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เหลือเข้าซื้อเดือนละ เจ็ดหมื่นห้าพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2014 เป็นต้นไป และคาดว่าน่าจะทยอยลดลงต่อเนื่อง จนหยุดการเข้าซื้อโดยสมบูรณ์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2014 แต่กว่าที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกนั้น ก็น่าจะปี 2015 ไปแล้ว
ข้าม มาฝั่งยุโรป เศรษฐกิจก็น่าจะเร่งขึ้นในปีหน้าเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดีการขยายตัวน่าจะยังคงเป็นไปในลักษณะ "อสมมาตร" กล่าวคือ เศรษฐกิจประเทศใหญ่ยังคงขยายตัวได้ดี แตกต่างจากเศรษฐกิจประเทศเล็กที่การขยายตัวยังคงอ่อนแอ เนื่องจากปัญหาเชิงโครงสร้างยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่คาดว่าผู้นำยุโรปจะเริ่มออกมาตรการแก้ไขปัญหาในภาคเอกชนมากขึ้น โดยจะเริ่มมุ่งเน้นไปในภาคธนาคารก่อน โดยผู้นำยุโรปดำริให้จัดตั้ง สหภาพธนาคาร (Banking Union) ขึ้น และให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เป็นคนดูแล ซึ่ง ECB จะเริ่มต้นด้วยการเข้าตรวจสอบงบดุลของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของยุโรป ซึ่งผลการตรวจสอบจะทยอยออกมาในช่วงปี 2014 และคาดว่าตลาดจะให้ความสนใจมาก
นอก จากนี้ความเสี่ยงทางด้านการเมืองในหลายประเทศและมาตรการช่วยเหลือในประเทศ เล็กยังไม่หมดไป และคาดว่าช่วงปลายปี 2014 ตลาดน่าจะให้ความสนใจการต่ออายุมาตรการของโปรตุเกสและกรีซมากขึ้น
ส่วน เศรษฐกิจเอเชียนั้นน่าจะยังขยายตัวในเกณฑ์ดี ได้รับแรงสนับสนุนสำคัญจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้ว และน่าจะผลักดันให้การส่งออกเร่งขึ้นจากปีก่อน การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะยังเป็นจุดสนใจสำคัญสำหรับเศรษฐกิจเอเชียในปี หน้า หลังจากในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ตลาดกังวลว่าเศรษฐกิจจีนอาจจะชะลอลงมาก (Hard Landing) อย่างไรก็ตามการที่เศรษฐกิจจีนชะลอลงในปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความตั้งใจของรัฐบาลที่จะเพิ่มสมดุลให้กับระบบเศรษฐกิจ และคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวขึ้นในปี 2014 ตามการฟื้นตัวของการส่งออก นอกจากนี้ความเสี่ยงขาลงมีน้อย เนื่องจากรัฐบาลมีศักยภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ หากจำเป็น
ผล ของเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น น่าจะสนับสนุนให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2014 ฟื้นตัวขึ้นได้บ้าง อย่างไรก็ตามการบริโภคภายในประเทศอาจไม่ขยายตัวมากนัก จากรายได้ภาคเกษตรและค่าจ้างที่ยังคงอ่อนแอ ด้านการลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มล่าช้าออกไปจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ส่วนเงินเฟ้อมี
แนวโน้มเร่งขึ้นอย่างช้า ๆ ซึ่งเอื้อให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนปรนต่อไปตลอดปี 2014
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
