จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

       เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์อินโดนีเซียออกโรงแฉ รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กระทำความผิดฐานทุ่มตลาด ด้วยการแอบนำข้าวของชาวนาไทยมาจำหน่ายในราคาสุดถูกในแดนอิเหนา หวังใช้เป็นช่องทางระบายข้าวที่ล้นโกดังจากผลพวงของ “โครงการรับจำนำข้าว” ขณะที่สหรัฐฯ อินเดีย และเวียดนาม อาจยื่นฟ้องเอาผิดรัฐบาลไทยต่อองค์การการค้าโลก (WTO) ฐานทุ่มตลาด ทำผู้ผลิตข้าวทั่วโลกเดือดร้อน
       
       รายงานข่าวสุดอื้อฉาวดังกล่าวซึ่งมีการเผยแพร่ผ่านสื่อหลายสำนักของ อินโดนีเซียในวันศุกร์ (21) ระบุว่า ผู้ที่ออกมาเปิดโปงเรื่องการทุ่มตลาดของรัฐบาลไทยในครั้งนี้ คือ บาชรูล ไชรี ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานการค้าต่างประเทศ ประจำกระทรวงพาณิชย์ของอินโดนีเซีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศ ที่ได้รับความไว้วางใจจากประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุทโธโยโน
       
       บาชรูล ไชรี แฉว่า พบข้อบ่งชี้และหลักฐานว่า มีข้าวของชาวนาไทยถูกนำมาทุ่มตลาดหรือขายในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุน ในประเทศอินโดนีเซีย จนส่งผลกระทบต่อข้าวของชาวนาอินโดนีเซียที่ถูกแย่งตลาดอย่างไม่เป็นธรรม
       
       “เราพบว่าซัปพลายเออร์จากเมืองไทยนำข้าวในโครงการรับจำนำข้าวของ รัฐบาลมาจำหน่ายในอินโดนีเซียในราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น” ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานการค้าต่างประเทศอินโดนีเซียกล่าว พร้อมเผยว่ารัฐบาลอินโดนีเซียกำลังสืบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น
       
       ทั้งนี้ ข้าวจำนวนมหาศาลกว่าหลายล้านตันของไทยที่เป็นผลพวงจากโครงการรับจำนำข้าวของ รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยกำลังประสบปัญหาในการหาตลาดรองรับ หลังจากที่หลายประเทศตัดสินใจยกเลิกคำสั่งซื้อไปก่อนหน้านี้ ทั้งกรณีของจีน และอิรัก ที่เคยเป็นลูกค้ารายใหญ่สำหรับข้าว “เมด อิน ไทยแลนด์”
       
       ขณะที่โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลไทยที่มีกำหนดจะสิ้นสุดในปลาย เดือนนี้ถูกระบุว่าเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำลายกลไกตลาดข้าวไทย ทำให้ข้าวไทย “สูญเสียศักยภาพในการแข่งขัน” ในตลาดโลก จากการที่รัฐบาลรับซื้อข้าวในราคาสูงเกินจริงจากชาวนาเพียงเพื่อหวังสร้าง “คะแนนนิยมทางการเมือง”
       
       ด้าน “Jakarta Globe” สื่อดังของอินโดนีเซียระบุว่า รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ซึ่งมีสถานะเป็นเพียงรัฐบาลรักษาการในเวลานี้ กำลังพยายามนำข้าวที่รับจำนำจากชาวนาไทยออกไปจำหน่ายในราคาสุดถูก เพื่อระดมเงินมาจ่ายให้กับชาวนาจำนวนหลายล้านคนที่ยังไม่ได้รับเงินจาก โครงการจำนำข้าวของรัฐ จนเกิดการลุกฮือของชาวนาไทยเพื่อต่อต้านรัฐบาล ซ้ำเติมวิกฤตทางการเมืองของไทยให้เลวร้ายยิ่งขึ้น
       
       สื่อดังแดนอิเหนายังระบุว่า รัฐบาลไทยได้ระบายข้าวออกไปแล้วเกือบ 1 ล้านตันจากโกดังของตนในเดือนกุมภาพันธ์นี้และเตรียมระบายข้าวอีกกว่า 500,000 ตันในสัปดาห์หน้า โดยข้าวเกือบทั้งหมดจะถูกโละขายในราคาที่ต่ำเตี้ย ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาข้าวโดยรวมในตลาดโลก และทำให้ประเทศผู้ส่งออกข้าวหลายรายเริ่มแสดงความไม่พอใจ
       
       รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา และประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลกอย่างอินเดีย และเวียดนาม อาจยื่นฟ้องต่อองค์การการค้าโลก (World Trade Organisation : WTO) ให้พิจารณาลงโทษรัฐบาลไทยที่ขาดความโปร่งใสในการจำหน่ายข้าว และการรับจำนำข้าวจากชาวนาในประเทศ เพียงเพื่อหวังการสนับสนุนทางการเมือง

“พาณิชย์” ยันรัฐบาลไม่เคยเร่ขายข้าวราคาถูกให้อินโดนีเซีย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

       “พาณิชย์” ยันรัฐบาลไทยไม่เคยเร่ขายข้าวราคาต่ำให้อินโดนีเซีย ชี้ข่าวไม่มีมูลความจริง หลังหลายประเทศรุมกินโต๊ะไทยกล่าวหาทุ่มตลาดข้าว
       
       นายสุรศักดิ์ เรืองเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากที่มีการเผยแพร่ข่าวจากผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ของอินโดนีเซีย โดยระบุถึงตัวแทนขายข้าวจากประเทศไทยได้นำข้าวจากสต๊อกของรัฐบาลไทยมาขายให้ อินโดนีเซียในราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ส่งผลชาวนาอินโดนีเซียถูกแย่งตลาดอย่างไม่เป็นธรรม และทำให้กลไกตลาดข้าวเสียหาย ไม่มีมูลความจริง เพราะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลไทยไม่เคยไปเร่ขายข้าวให้อินโดนีเซียในราคาต่ำอย่างแน่นอน
       
       “ข่าวนี้ถือว่าไม่มีมูลความจริง เป็นการสร้างข่าวในอากาศมานำเสนอ ซึ่งผมก็ไม่อยากจะแก้ข่าวกับข่าวลักษณะนี้ ใครอยากจะทำอะไรก็ทำ เพราะข้อเท็จจริงแล้วคือเราไม่เคยไปเร่ขายข้าวในราคาต่ำอย่างนั้นแน่นอน” นายสุรศักดิ์กล่าว
       
       ส่วนกรณีที่หลายประเทศจะฟ้อง WTO ก็ต้องปล่อยให้ฟ้องไป เพราะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน เป็นเพียงแต่การพูดให้ข่าวทางสื่อต่างประเทศเท่านั้น แต่รัฐบาลไทยยืนยันว่าไม่มีการดัมป์ราคาข้าว แต่ขายตามสภาพตลาด ซึ่งหากมีการฟ้องร้องจริงกรมฯ ก็พร้อมเตรียมข้อมูลหลักฐานชี้แจงต่อ WTO
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้กัมพูชาได้ออกมานำเสนอข่าวว่าได้รับผลกระทบจากสต๊อกข้าวของ รัฐบาลไทยที่ไทยไปขายข้าวราคาถูก ทำให้การส่งออกข้าวของกัมพูชาได้รับผลกระทบ รวมทั้งเวียดนามก็ได้แสดงความกังวลกรณีที่มีผู้ส่งออกข้าวไทยไปเสนอขาย ข้าวสารสต๊อกเก่าของรัฐบาลในราคาเพียง 370 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งต่ำกว่าราคาขายของเวียดนามที่ขายประมาณ 405-410 เหรียญสหรัฐ/ตัน
       
       ส่วนการเผยแพร่การทุ่มตลาดข้าวของไทยมาจากการนำเสนอของสื่อหลายสำนัก ในอินโดนีเซีย โดยระบุว่าผู้ที่ออกมาเปิดโปงเรื่องการทุ่มตลาดข้าวของรัฐบาลไทยในครั้งนี้ คือ นายบาชรูล ไชรี ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานการค้าต่างประเทศ ประจำกระทรวงพาณิชย์ของอินโดนีเซีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศ ที่ได้รับความไว้วางใจจากประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุทโธโยโน
       
       ในรายงานข่าวระบุว่า นายบาชรูลได้อ้างถึงข้อบ่งชี้และหลักฐานว่ามีข้าวของชาวนาไทยถูกนำมาทุ่ม ตลาดหรือขายในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนในประเทศอินโดนีเซีย จนส่งผลกระทบต่อข้าวของชาวนาอินโดนีเซียที่ถูกแย่งตลาดอย่างไม่เป็นธรรม โดยพบว่าซัปพลายเออร์จากเมืองไทยนำข้าวในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลมา จำหน่ายในอินโดนีเซียในราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งรัฐบาลอินโดนีเซียกำลังสืบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น
       
       อย่างไรก็ตาม ข้าวจำนวนมหาศาลกว่าหลายล้านตันของไทยที่เป็นผลพวงจากโครงการรับจำนำข้าวของ รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยกำลังประสบปัญหาในการหาตลาดรองรับ หลังจากที่หลายประเทศตัดสินใจยกเลิกคำสั่งซื้อไปก่อนหน้านี้ ทั้งกรณีของจีน และอิรัก ที่เคยเป็นลูกค้ารายใหญ่สำหรับข้าว
       
       นอกจากนี้ยังมีการระบุอีกว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา และประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลกอย่างอินเดีย และเวียดนาม อาจยื่นฟ้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) ให้พิจารณาลงโทษรัฐบาลไทยที่ขาดความโปร่งใสในการจำหน่ายข้าว

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน