สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

รื้อ TOR ซื้อรถเมล์ NGV จบไม่ลง ขสมก.เดินผิดทางติดหล่มแก้ปมล็อกสเปก

รื้อ TOR ซื้อรถเมล์ NGV จบไม่ลง ขสมก.เดินผิดทางติดหล่มแก้ปมล็อกสเปก

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

รื้อ TOR รถเมล์ NGV ส่อแววสะดุดอีก ขสมก.ปรับเพิ่มเงื่อนเวลาซ่อมบำรุงเป็น 5 ปี และรับประกันตัวรถ 10 ปี หวั่นทำให้เอกชนไม่กล้าแบกรับความเสี่ยงและอาจไม่มีใครเสนอราคา แฉ ขสมก.เดินผิดทาง แก้สเปกรถร้อนเป็น Low Floor หมกเม็ดปมใช้แชสซีส์รถบรรทุกดัดแปลง หวังส่วนต่างต้นทุนกับราคากลางจนบานปลาย เผยค่ายรถ, นายหน้า อู่ต่อรถ รายใหญ่ บมจ.ช.ทวีฯ-เบสท์ริน ผู้นำเข้ารถยี่ห้อ Golden Dragon และ Sunlong ชะเง้อรอ ขสมก.ปิดดีล
       
       แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า โครงการจัดซื้อรถโดยสารเชื้อเพลิงก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท ซึ่งได้มีการประกาศร่างเอกสารการประกวดราคา (TOR) ในส่วนของการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน วงเงินโครงการจำนวน 2,200.500 ล้านบาท ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม-20 ตุลาคม 2557 นั้น นอกจากกำหนดส่งมอบรถโดยสารปรับอากาศจำนวน 489 คัน ภายในระยะเวลา 90 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบภายในประเทศทั้งหมดได้ทัน และยังมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขที่ถือเป็นสาระสำคัญในเรื่องการซ่อมบำรุง รักษารถโดยสารพร้อมค่าซ่อมบำรุงรักษาจากเดิมกำหนดรับประกัน 3 ปี เป็น 5 ปี โดยกำหนดอัตราค่าจ้างซ่อมบำรุงรักษารถโดยสารเฉลี่ยใน 5 ปีแรกไม่เกินจำนวน 925.91 บาทต่อคันต่อวันและให้เสนอราคาจ้างซ่อมบำรุงรักษาในปีที่ 6 ถึงปีที่ 10 ในอัตราบาทต่อคันต่อวันด้วย
       
       ทั้งนี้ การเพิ่มระยะเวลารับประกันซ่อมบำรุงจาก 3 ปี เป็น 5 ปี อาจเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ไม่มีเอกชนเสนอตัว เพราะมีอัตราความเสี่ยงที่ไม่คุ้มค่าในการลงทุนสูง เนื่องจากอาจต้องมีรถส่วนหนึ่งนำเข้า อีกส่วนประกอบในประเทศ ซึ่งกรณีนำเข้าจะต้องเสียภาษีถึง 40% เฉพาะราคารถกับราคากลางคันละ 4.5 ล้านบาทก็แทบไม่มีกำไรแล้ว และยังต้องแข่งขันที่ข้อเสนอค่าซ่อมบำรุงในปีที่ 6-10 อีกด้วย โดยหากไม่มีผู้ยื่นเสนอราคา ก็เท่ากับต้องล้มประมูล โดยอ้างเหตุเงื่อนไขใน TOR ที่ปรับเปลี่ยนไม่มีเอกชนรายใดทำได้ และกลับไปใช้ TOR เดิมที่ถูกร้องเรียน ซึ่งต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดย ขสมก.จะประกาศร่าง TOR ประมูลรถ 489 คันครั้งที่ 2 ในวันที่ 22-28 ตุลาคม
       
       “หากรถแอร์ 489 คัน นำเข้าภายใต้กรอบคันละ 4.5 ล้านบาทได้จะยิ่งน่าคิด เพราะเป็นราคาที่รวมภาษีถึง 40% ไว้ เท่ากับว่ารถแอร์ที่เหลืออีก 1,035 คัน ขสมก.จะสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกลง 40% จากราคากลางคันละ 4.5 ล้านบาทแน่นอน เพราะจะเป็นนำเข้าแชสซีส์และเครื่องยนต์มาประกอบในประเทศเสียภาษี 0%” แหล่งข่าวกล่าว
       
       นอกจากนี้ การที่ ขสมก.ยอมปรับแก้ TOR จัดซื้อรถเมล์ NGV จํานวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาทที่ผ่านมา เพื่อแสดงให้เห็นว่าโครงการมีความโปร่งใส เมื่อมีข้อร้องเรียนความไม่ถูกต้อง แต่แท้จริงแล้วปัญหาของโครงการนี้อยู่ที่มีข้อทักท้วงกรณีเปิดช่องให้ใช้แช สซีส์รถบรรทุกมาดัดแปลงเป็นรถโดยสารซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีอันตรายสูงหาก เกิดอุบัติเหตุ จึงต้องการให้เขียน TOR รถร้อนจำนวน 1,659 คันให้ชัดเจนว่าต้องเป็นแชสซีส์รถโดยสารของแท้เท่านั้น แต่ ขสมก.กลับปกปิด และกำหนดรถร้อนเป็นรถชานสูง (มีบันได 2 ขั้น) เพื่อเอื้อให้ใช้แชสซีส์รถบรรทุกมาดัดแปลงได้ ซึ่งการล็อกสเปกดังกล่าวเพื่อให้ต้นทุนจริงกับราคากลางมีส่วนต่างมากขึ้นสอด คล้องกับที่มีข้อครหามาโดยตลอดว่ามีการฮั้วประมูล รู้ว่าค่ายรถไหนจะได้งานตั้งแต่ยังไม่เปิดประมูล
       
       ซึ่งหาก ขสมก.ต้องการแก้ปัญหาเรื่องแชสซีส์ดัดแปลงและการร้องเรียนจากคนพิการ ในเรื่องความสูงของรถร้อน สามารถกำหนดสเปกรถร้อนเป็นรถกึ่งชานต่ำ (Semi Low Floor) ซึ่งมีบันได 1 ขั้น สูงขึ้นอีก 20 ซม.จาก Low Floor สามารถวิ่งในช่วงน้ำท่วมขังได้ไม่ต้องแก้เป็นรถ Low Floor ทั้งหมด และเชื่อว่าคนพิการจะยอมรับได้ เพราะรถ Semi Low Floor) เด็ก สตรีมีครรถ์ คนชราก็สามารถใช้บริการได้สะดวก แต่น่าแปลกที่ขสมก.ไม่เลือกวิธีนี้ กลับเลือกที่จะแก้สเปกเป็นรถ Low Floor ทั้งหมด เพื่อให้คนพิการถูกสังคมต่อว่าในท้ายที่สุด
       
       อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในวงการผู้ประกอบการรถโดยสารทราบกันว่ามีการวางตัวบริษัทที่จะได้ สัญญารถเมล์ NGV ทั้ง 3,183 คันไว้แล้ว โดยมีทั้ง บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน (CHO) และบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด (พรีเมียมบัส) ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารถโดยสารจากประเทศจีนภายใต้แบรนด์ Golden Dragon และ Sunlong และมีชื่อเสียงมากในช่วงรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ส่วนบริษัทไทยที่เป็นผู้ประกอบรถโดยสารมีชื่อทั้งนครชัยแอร์ อู่เชิดชัย บ้านโป่ง ธนบุรี ฯลฯ แต่สิ่งที่จะเป็นปัญหาคือ เรื่องกำลังการผลิต ซึ่งอู่ต่อรถหลายแห่งอยู่ในภาวะขาดแคลนแรงงานจนต้องลดกำลังการผลิตลงเหลือ ไม่ถึง 80% จากที่เคยผลิตได้
       
       ด้านนเรศ บุญเปี่ยม รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. ในฐานะประธานคณะกรรมการร่าง TOR จัดซื้อรถเมล์ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิง จำนวน 3,183 คัน กล่าวว่า การเพิ่มระยะเวลาซ่อมบำรุงจาก 3 ปีเป็น 5 ปี มีข้อดีคือทำให้ค่าซ่อมต่อคันต่อวันลดลงจากเดิมกว่า 1,000 บาทเหลือ 925 บาท แต่ยอมรับว่าอาจจะมีผลต่อการตัดสินใจประมูลเพราะเป็นระยะเวลาที่ยาวเกินไป รวมถึงจะต้องรับประกันความเสียหายของรถจาก 5 ปีเพิ่มเป็น 10 ปีอีกด้วย ซึ่งจากที่ได้ประกาศร่าง TOR รถแอร์ 489 คัน ครั้งที่ 1 ได้มีผู้แสดงความเห็นว่าระยะเวลารับประกันมากเกินไป
       
       ทั้งนี้ ได้รายงานความคืบหน้าโครงการซื้อรถเมล์ NGV ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก. ที่มีนายดำริห์ ตันชีวะวงศ์ รองประธานบอร์ด คนที่ 1 เป็นประธาน เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งบอร์ดมีความเห็นว่าการกำหนดร่าง TOR ควรพิจารณาด้วยความรอบคอบ มองทุกแง่มุม เช่น วิธีสืบราคากลาง อาจต้องเชิญผู้ผลิตมาให้ข้อมูล หรือราคาในกรณีที่ซื้อจำนวนมาก, กรณีการแยกเจรจาราคาตัวรถก่อนเมื่อได้รายใดแล้วค่อยต่อรองค่าซ่อมบำรุง ซึ่งอาจทำให้เสนอราคาตัวรถถูกเพื่อชนะประมูลแต่คิดค่าซ่อมแพง เป็นต้น ซึ่งจะเรียกประชุมคณะกรรมการร่าง TOR โดยเร็วเพื่อหารือถึงความเห็นของบอร์ดและข้อเสนอแนะจากเว็บไซต์ว่าจะมีการ ปรับแก้เงื่อนไข TOR อีกหรือไม่
       
       บอร์ดเห็นชอบของบหนุน PSO ปี 59 วงเงิน 2,400 ล้าน
       
       นายนเรศกล่าวว่า นอกจากนี้ บอร์ดยังเห็นชอบกรอบวงเงินสนับสนุนบริการเชิงสังคม (PSO) ในปี 2559 ในส่วนของรถใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง ยกเว้นรถเมล์ฟรีจำนวน 1,500 คัน วงเงิน 2,400 ล้านบาท หรือรถใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงวงเงิน 1,600 ล้านบาท อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อรองรับกรณีมีการรับมอบรถเมล์ NGV ที่จะทยอยเข้ามา ซึ่งตามระเบียบจะต้องทำแผนขอสนับสนุน PSO ล่วงหน้า 10 เดือน
       แม้ได้รับการสนับสนุน PSO และรถไฟฟรี แต่สถานะทางการเงินของ ขสมก.ยังคงขาดทุนเฉลี่ย 420 ล้านบาทต่อเดือน หากมีรถเมล์ NGV เข้ามาให้บริการ ขาดทุนจะลดลงเพราะค่าเชื้อเพลิงถูกกว่า


แนะ'ประจิน'เตือนขสมก.ควรซื้อรถเมล์ปรับอากาศ

"สามารถ" ปชป.แนะ"ประจิน"กรณีขสมก.ซื้อรถเมล์ ควรซื้อแบบปรับอากาศ และแบบพื้นสูง เหตุจราจรกทม.มีแต่มลพิษ

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีต ส.ส .ระบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตามที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กำลังจะจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 3,183 คัน แบ่งเป็นรถปรับอากาศจำนวน 1,524 คัน และรถธรรมดา (รถร้อน) จำนวน 1,659 คัน นั้น ตนเห็นว่า ขสมก. ควรจะซื้อรถปรับอากาศทั้งหมด 3,183 คัน ไม่ควรซื้อรถร้อนเลยแม้แต่คันเดียว เนื่องจากภาวะโลกร้อนทำให้อากาศในประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพฯ ร้อนมากขึ้นทุกปี อีกทั้งสภาพความแออัดของจราจรในกรุงเทพฯ ส่งผลให้อากาศในกรุงเทพฯ ร้อนยิ่งขึ้น ผู้โดยสารรถร้อนต้องทนไม่เฉพาะอากาศร้อน แต่ต้องทนสูดควันพิษที่ถูกปล่อยออกมาจากรถนานาประเภท

นายสามารถ กล่าวว่า จากเหตุผลนี้รถโดยสารประจำทางในกรุงเทพฯ ควรจะเป็นรถโดยสารปรับอากาศทั้งหมด แต่เหตุที่ ขสมก. จะจัดซื้อรถร้อนด้วยนั้น ขสมก.อ้างว่าเป็นการทดแทนรถเดิมที่มีรถทั้ง 2 ประเภท ซึ่งหมายความว่า ขสมก. ไม่มีแนวคิดที่จะพัฒนาเปลี่ยนแปลง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯให้ดีขึ้น แต่ใช้วิธีทดแทนของเก่าหรือแบบเก่าไปเรื่อยๆ โดยไม่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

นายสามารถ กล่าวว่า ในวงการรถเมล์หรือรถบัสต่างรู้กันดีว่า มีบริษัทรถยี่ห้อหนึ่งซึ่งไม่มีคัสซีรถโดยสารที่ใช้เครื่องยนต์ NGV มีแต่รถบรรทุกต้องการเข้าร่วมประมูล จึงมีการวิ่งเต้นให้ ขสมก. ซื้อรถร้อนด้วย เพราะคัสซีรถบรรทุกมีเครื่องยนต์อยู่ด้านหน้า ไม่เหมาะสมที่จะดัดแปลงเป็นรถโดยสารปรับอากาศ ทำให้ ขสมก. ต้องเขียนข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง (Terms of Reference หรือTOR) โดยไม่ระบุให้รถร้อนจะต้องเป็นรถพื้นต่ำหรือรถพื้นสูง แต่เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่า รถร้อนจะต้องเป็นรถพื้นสูง เพราะ ขสมก. ระบุใน TOR ว่ารถร้อนจะต้องสามารถวิ่งลุยน้ำที่สูงไม่น้อยกว่า 70 ซม. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเขียน TOR เช่นนี้ทำให้ ขสมก. ถูกกล่าวหาว่า ล็อกสเปก ให้ผู้ประกอบการรายนี้

นายสามารถ กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้ ขสมก. จึงต้องปรับแก้ TOR โดยเปิดกว้างให้รถร้อนจะเป็นรถพื้นสูงหรือพื้นต่ำก็ได้ แต่ก็หนีการถูกกล่าวหาว่าล็อกสเปกไม่พ้น เนื่องจากคงไม่มีผู้ประกอบรายใดจะเสนอรถร้อนเป็นรถพื้นต่ำ เพราะราคาแพงกว่ารถพื้นสูงมาก และกระแสความต้องการที่จะใช้รถพื้นต่ำของผู้โดยสารรถเมล์โดยเฉพาะคนพิการ คนชรา เด็ก และสตรีมีครรภ์ ทำให้รัฐบาลปัจจุบันสั่งการให้ ขสมก. ซื้อรถพื้นต่ำทั้งหมด 3,183 คัน แต่บริษัทรถบรรทุกยี่ห้อดังกล่าวยังไม่ยอมแพ้ โดยได้พยายามหาเหตุผล ที่จะชี้แจงให้ผู้มีอำนาจเปลี่ยนใจเปิดโอกาสให้รถร้อนเป็นรถพื้นสูงได้

“ ผมขอเรียกร้องให้ รมว.คมนาคม (พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง) คืนความสุขให้ผู้โดยสารรถเมล์ ด้วยการ (1) ยืนยันให้ ขสมก. ซื้อรถเมล์พื้นต่ำทั้งหมด 3,183 คัน และ (2) สั่งการให้ ขสมก. ซื้อรถปรับอากาศทั้งหมด 3,183 คัน ไม่ซื้อรถร้อนเลย โดยใช้วงเงินงบประมาณเท่าเดิมคือ 13,162.2 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยคันละ 4.135 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอแน่นอน” นายสามารถ กล่าว


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : รื้อ TOR ซื้อรถเมล์ NGV จบไม่ลง ขสมก. เดินผิดทาง ติดหล่ม แก้ปม ล็อกสเปก

view