สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ผู้บริหารSLCฟ้องกลับ 2กรรมการบ.CTH-เนชั่นฯ

ผู้บริหารSLCฟ้องกลับ'2กรรมการบ.CTH-เนชั่นฯ

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ผู้บริหาร SLC"ฟ้องกลับ"2กรรมการบ.CTH-เนชั่นฯ"โพสต์หมิ่นประมาท หลังSLC ทุ่ม2,000ล้าน ซื้อหุ้นสื่อ

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 16 ม.ค.58 เวลา 09.30 น. นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัดมหาชน หรือ SLC เดินทางมาพร้อมกับนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ยื่นฟ้องนายธนา ทุมมานนท์ อายุ 48 ปี กรรมการบริษัทเคเบิ้ลไทยโฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) หรือ CTH และนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ อายุ 53 ปี กรรมการผู้อำนวยการบริษัทเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย รวม 2 สำนวน ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ,328 และความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

โดยคำฟ้องบรรยายพฤติการณ์ สรุปว่า เมื่อวันที่ 19 - 20 และ 22 ธ.ค.57 นายธนา จำเลย ได้โพสต์ข้อความลงในเฟสบุ๊ค 3 ครั้ง กล่าวหาว่าโจทก์หรือ SLC เป็นกลุ่มทุนของตระกูลชินวัตร เข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทเนชั่น โดยต้องการครอบงำสื่อ ซึ่งข้อความดังกล่าวทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่า บริษัทโจทก์ ที่มีชื่อย่อว่า “ SLC ” เข้าไปซื้อหุ้นของบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนเชิด (นอมินี) ของกลุ่มชินวัตร ที่มีสื่อฟรีทีวี 6 ช่อง สามารถชี้นำสังคม ชี้นำผู้คนและควบคุมทิศทางข่าวให้เป็นไปตามที่โจทก์และกลุ่มชินวัตรต้องการ และยังใช้อำนาจในการต่อรองโฆษณา บีบบังคับให้บุคคลอื่นต้องจำยอมกระทำตามที่โจทก์และกลุ่มชินวัตรต้องการ เพราะมีช่องข่าวอยู่ในมือมากกว่าครึ่งและต้องการครอบงำสื่อ ซึ่งเป็นความเท็จ เนื่องจากการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท เนชั่นฯ ไม่ได้เป็นนอมินี ของกลุ่มชินวัตร เพราะการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท เนชั่นฯ เป็นการซื้อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีแหล่งที่มาของเงินลงทุนที่โจทก์ได้มาจากการเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และมีที่มาอย่างถูกต้องซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มชินวัตรแต่อย่างใด และโจทก์ก็ไม่เคยใช้อำนาจอิทธพลครอบงำสื่อหรือบังคับให้สื่อฟรีทีวีช่องใดนำเสนอข่าวไปในทิศทางที่โจทก์ต้องการ โจทก์ไม่เคยเข้ายุ่งเกี่ยวกับการบริหารสื่อฟรีทีวีใดๆ และไม่เคยใช้อำนาจอิทธิพลครอบงำสื่อ หรือบังคับให้สื่อฟรีทีวีช่องใดนำเสนอข่าวไปในทิศทางที่โจทก์ต้องการ อีกทั้งโจทก์ไม่เคยเข้ายุ่งเกี่ยวกับการบริหารสื่อฟรีทีวีใดๆ

ต่อมา วันที่ 23 ธ.ค.57 นายอดิศักดิ์ จำเลย ก็ได้นำข้อความที่กล่าวหาว่าโจทก์หรือ SLC เป็นกลุ่มทุนของตระกูลชินวัตรเข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทเนชั่นฯ โดยต้องการครอบงำสื่อ...ฯลฯ ไปโพสต์ในเฟสบุ๊คของตนเองอีกด้วย และได้ลงข้อความที่จะทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่า SLC หลอกล่อนักลงทุนใช้เล่ห์เหลี่ยมและอุบายให้นักลงทุนเข้ามาลงทุน โดยมีเงินซึ่งไม่ทราบที่มามีความน่าสงสัยและการเพิ่มทุนดังกล่าว เป็นการฟอกเงิน ผู้บริหารของโจทก์ไร้คุณธรรมจริยธรรมและข้อความอื่นๆ ล้วนเป็นความเท็จทั้งสิ้น เพราะการเพิ่มทุนของโจทก์เป็นเงินที่ได้มาจากผู้ถือหุ้นและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดไว้ทุกประการและการบริหารของโจทก์ไม่เคยกระทำการใดที่ไร้คุณธรรม จริยธรรม

การกระทำของการกระทำของนายธนา และนายอดิศักดิ์ จำเลยทั้งสองสำนวน จึงเป็นการกระทำอย่างเป็นกระบวนการเพื่อบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของโจทก์ ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ทำให้ผู้ถือหุ้น นักลงทุนทั้งใน - ต่างประเทศ และประชาชนทั่วไปเคลือบแคลงสงสัยถึงแหล่งที่มาของเงินทุนโจทก์ในการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท เนชั่นฯ ซึ่งความจริงแล้วเงินทุนในการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวมาจากการเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งกำหนดวันจองซื้อในวันที่ 17 -18 พ.ย.57 โดยโจทก์ได้รับเงินจากการเพิ่มทั้งสิ้น 2,192,206,269.70 บาท ดังนั้นแหล่งเงินทุนของโจทก์จึงมีที่มาอย่างชัดเจนถูกต้องตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และโจทก์ไม่เคยเป็นตัวแทนเชิดของกลุ่มชินวัตร ไม่เคยปิดกั้นหรือครอบงำสื่อแต่อย่างใด

ทั้งนี้ศาลได้รับคำฟ้องทั้ง 2 สำนวน ไว้ในสารบบคดีหมายเลขดำ อ.133/2558 และ อ.134 /2558 เพื่อนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ทั้ง 2 คดีในวันที่ 30 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น. และ 13.30 น.

ด้านนายอารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SLC โจทก์ กล่าวย้ำว่า การซื้อหุ้นนั้นเป็นไปตามปกติ และซื้อมาขายไปตามหลักธุรกิจถูกต้องตามหลักเกณฑ์ และขั้นตอนของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งการลงทุนซื้อหุ้นไม่ได้เจาะจงมาที่สื่อโดยเฉพาะ แต่เป็นการลงทุนในหุ้นต่างๆ โดยคำนึงถึงผลตอบแทนเพื่อให้ประสบความสำเร็จ โดยบริษัท SLC มีการเพิ่มทุนมาตั้งแต่วันที่ 17-18 พ.ย.57 และได้ทำการซื้อหุ้นบริษัทเนชั่นฯ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.57 ซึ่งเป็นการซื้อหุ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้นไม่ได้ กว้านซื้อสะสมมาเป็นเวลานานแต่อย่างใด เป็นการซื้อจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และได้รายงานต่อ กลต.อย่างถูกต้อง

ขณะที่นายสุวัตร ทนายความของ SLC กล่าวว่า การยื่นฟ้องคดีนี้ เพราะพบว่าได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว กล่าวหาบริษัท SLC เป็นกลุ่มทุนของตระกูลชินวัตร ที่เข้ามาซื้อหุ้นในบริษัทเนชั่นฯ เพื่อต้องการครอบงำสื่อ ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย หากเป็นเงินของตระกูลชินวัตรจริงตนจะไม่รับเป็นทนายความเพื่อฟ้องคดีให้

นายสุวัตร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา SLC ถือหุ้นในสปริงนิวส์ 99.99 % แต่ก็ไม่เคยเข้าไปก้าวล่วงบริหารเลย ดังนั้นที่มีการปล่อยข่าวโดยโพสต์ข้อความลงในเฟสบุ๊คกันมาตั้งแต่ต้น จึงไม่ถูกต้อง ขณะที่นายอดิศักดิ์ ได้นำข้อความของนายธนา ที่มีการหมิ่นประมาทไปไปโพสต์ต่อ ทำให้ผู้ลงทุนที่ได้จองซื้อหุ้น SLC ไว้แล้ว เกิดความเข้าใจผิดและได้ยกเลิกการซื้อหุ้นดังกล่าว จึงสร้างความเสียหายกับบริษัทSLC เป็นอย่างมาก ขณะที่การซื้อหุ้นก็ทำในตลาดทั่วไป ในโอกาสต่อไปเราก็ดูว่าบริษัทเป็นอย่างไร เป็นการซื้อมาขาย เพราะบริษัท SLC ก็เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ถูกควบคุมกำกับโดยกลต.ทั้งหมดอยู่แล้ว จะซื้อหุ้นที่ไหนก็ต้องรายงานตลอด การที่เรามีหุ้นอยู่ 12.27 % ก็ไม่ได้คิดที่จะไปปลดใครเลย

"ยืนยันว่าการซื้อหุ้นของ SLC ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทตระกูลชินวัตร บริษัทSLC ซื้อหุ้นในบริษัทเนชั่นฯ เพียง 12.27 % เท่านั้น กรณีไม่ถึง 25 % จึงไม่สามารถเทคโอเวอร์ หรือเข้าไปครอบงำเปลี่ยนแปลงการบริหารสื่อได้ ที่โพสต์กล่าวหาว่าเราเดินทางไปสิงคโปร์ก็ไม่เป็นความจริง"นายสุวัตร กล่าวและว่า ในสัปดาห์หน้า เตรียมจะยื่นฟ้องคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายอีกด้วย ทุนทรัพย์จำนวน800 ล้านบาท โดยการยื่นฟ้องทั้งคดีอาญาและแพ่งนั้น เป็นการฟ้องในนามส่วนตัวทั้งหมด ไม่ได้ฟ้องสื่อแต่อย่างใด


SLC'ฟ้องอาญายันไม่ได้เป็นนอมินี'ชินวัตร'

SLC ฟ้องอาญา "ธนา ทุมมานนท์" - "อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ" ยันไม่ได้เป็นนอมินี "ชินวัตร" เตรียมฟ้องแพ่งต่อ

นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC เปิดเผยว่า วันนี้และนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ได้เข้ายื่นฟ้องกับศาลอาญาต่อ นายธนา ทุมมานนท์ และนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่ง นายธนา ทุมมานนท์ ได้โพสต์เฟสบุ๊ก 3 ครั้ง โดยกล่าวหาว่าบริษัทฯเป็นกลุ่มทุนของตระกูลชินวัตร ซึ่งเข้ามาซื้อหุ้นของกลุ่มบริษัทเนชั่น โดยต้องการครอบงำสื่อ ซึ่งข้อความดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับบริษัทฯ และไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ซึ่งเป็นกรรมการและผู้บริหารของกลุ่มเนชั่นได้นำข้อความดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ

ทั้งนี้บริษัทฯจะเข้ายื่นฟ้องในคดีแพ่งต่อบุคคลทั้ง 2 ในสัปดาห์หน้าต่อไป เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายประมาณ 800-1,000 ล้านบาท เนื่องจากกระทำของทั้ง 2 คนข้างต้น สร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของ บริษัทฯ และทำให้ผู้ที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนสละสิทธิ์ ซึ่ง ณ ปัจจุบันประเมินมูลค่าได้กว่า 600 ล้านบาทแล้ว

โดยศาลอาญาจะนัดไต่สวนคดีดังกล่าว วันที่ 30 มี.ค. 58

"บุคคลทั้ง 2 คนได้มีการเผยแพร่ผ่านสื่อว่าเราเป็นนอมินีของตระกูลชินวัตรเข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทเนชั่นเพื่อต้องการครอบงสื่อ โดยนายธนาได้โพสต์เฟสบุ๊กถึง 3 ครั้ง ระบุว่า SLC เป็นตัวแทนของตระกูลชินวัตร มีสื่อฟรีทีวี 6 ช่อง สามารถชี้นำสังคมชี้นำผู้คนและควบคุมทิศทางข่าวให้เป็นไปตามที่บริษัทฯ และกลุ่มชินวัตรต้องการ และใช้อำนาจในการต่อรองโฆษณาบีบบังคับให้บุคคลอื่นต้องกระทำจำยอมตามที่บริษัทฯต้องการ ซึ่งขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และเราไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหารสื่อฟรีทีวีใดๆ" นายอารักษ์ กล่าว

ทั้งนี้การกระทำของนายธนา ทุมมานนท์ เป็นกระบวนการบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งทำให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงประชาชนทั่วไปเคลือบแคลงสงสัยถึงแหล่งที่มีของเงินทุนที่นำไปซื้อหุ้นของบริษัทเนชั่น ซึ่งความจริงแล้วได้มาจากการเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมเมื่อ 17-18 พ.ย.2557 โดยได้รับเงินเพิ่มทุนทั้งสิ้น 2,192.21 ล้านบาท ซึ่งถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

นอกจากนี้ บุคคลดังกล่าวยังมีการนำเสนอว่านายเสริมสิน สมะลาภา ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเนชั่นเป็นคนรวบรวมหุ้นมาให้ SLC ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยบริษัทฯทยอยซื้อหุ้นเนชั่นบนกระดานซื้อขายตามปกติ มิได้มีการซื้อขายในลักษณะบิ๊กล็อตแต่อย่างใด

นายธนา ทุมมานนท์ เป็นผู้สื่อข่าวไทยรัฐทีวี และได้โพสต์ข้อความส่วนตัวผ่านเฟสบุ๊ก ซึ่งบริษัทฯฟ้องเป็นรายบุคคลมิได้เกี่ยวข้องกับไทยรัฐทีวีแต่อย่างใด


เนชั่นยืนหยัดต่อสู้SLCฟ้องอาญา'อดิศักดิ์'

ผู้บริหารเนชั่นกรุ๊ปประกาศยืนหยัดต่อสู้เปิดเผยความจริงต่อสังคม กรณีSLC ฟ้องอาญา"อดิศักดิ์"

คณะผู้บริหารเครือเนชั่น (บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) : NMG ) นำโดย นายสุทธิชัย หยุ่น ประธานกรรมการ, นางสาวดวงกมล โชตะนา กรรมการผู้อำนวยการ, นายเทพชัย หย่อง บรรณาธิการเครือเนชั่น ร่วมประกาศ ยืนหยัดเคียงข้างเพื่อพิสูจน์ความจริง กรณีที่ผู้บริหาร SLC หรือ บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) ยื่นฟ้องศาลอาญา ต่อ นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้เขียนคอลัมน์ "คิดใหม่วันอาทิตย์" ในหัวข้อ "SLCทุนฉงน-ซ่อนกลฮุบ NMG"

โดยนายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SLC และนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2558 ต่อ นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ พร้อมกับ นายธนา ทุมมานนท์ ซึ่งปรากฎข้อเขียนผ่านเฟซบุค 3 ครั้ง ที่มีข้อความระบุว่า บริษัท SLC เป็นกลุ่มทุนของตระกูลชินวัตร ที่เข้ามาซื้อหุ้นของกลุ่มบริษัทเนชั่น เพื่อต้องการครอบงำสื่อ โดยยื่นคำฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

ทั้งนี้นายสุวัตร ยังระบุว่าได้เตรียมยื่นฟ้องในคดีแพ่ง ต่อบุคคลทั้งสอง ในสัปดาห์หน้า เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย 800-1,000 ล้านบาท เนื่องจากข้อเขียนของบุคคลทั้งคู่ ได้สร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของ SLC และทำให้ผู้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ SLC สละสิทธิ์ ซึ่งประเมินมูลค่าได้กว่า 600 ล้านบาท

ต่อกรณีนี้ คณะผู้บริหารเครือเนชั่น ยืนยันว่า พร้อมยืนหยัด เคียงบ่าเคียงไหล่นายอดิศักดิ์ เพื่อเปิดเผยความจริง โดยยึดหลักการและความถูกต้อง เพราะการต่อสู้ของเครือเนชั่นในครั้งนี้ มีเป้าหมายคือ รักษาไว้ซึ่งความเป็นสื่อสารมวลชนมืออาชีพให้อยู่กับสังคมไทย

“เรายินดีให้ศาลพิสูจน์ข้อเท็จจริง และความสุจริต เราถือว่าการต่อสู้ครั้งนี้ คือการต่อสู้เพื่อความจริง เพื่อนำข้อเท็จจริงทั้งหมดปรากฎสู่สาธาณะ และยืนยันกับภาคสังคมว่า เราคือสื่อมืออาชีพ และเชื่อว่าเราไม่ได้ต่อสู้โดยลำพัง ยังมีภาคสังคม และเพื่อนสื่อมวลชนที่สนับสนุนการต่อสู้ของเรา“ นายเทพชัย กล่าว

ด้านนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ผมพร้อมจะไปต่อสู้ในศาล เพื่อพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏ จะได้ไม่ให้นักลงทุนรายย่อยหลงเชื่ออีก"

ชมรมฯพิทักษ์สิทธิผู้ถือหุ้นร่วมปกป้อง

ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 ม.ค.2558 ตัวแทนจาก ชมรมอาสาพิทักษ์สิทธิผู้ถือหุ้น สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย จำนวน 80 คน ได้เดินทางจากตลาดหลักทรัพย์ฯ มารับฟังคำชี้แจงกรณีนี้ จากผู้บริหารเนชั่น ที่อาคารทีซีไอเอฟ ถ.บางนา-ตราด ซึ่งส่วนใหญ่ แสดงความประสงค์ว่า ต้องการให้ “เนชั่น”ยืนหยัดในฐานะมืออาชีพสื่อ ที่เที่ยงตรงเป็นกลาง และเป็นที่พึ่งของสังคม

นายอดิเรก พิพัฒน์ปัทมา รองประธาน ชมรมอาสาพิทักษ์สิทธิผู้ถือหุ้น สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ได้สอบถามถึงการซื้อขายหุ้นเนชั่นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งนายสุทธิชัย ชี้แจงว่าเป็นการซื้อขายในตลาดฯ และเพิ่งมาทราบว่ากลุ่มนี้ เข้ามาซื้อหุ้นจำนวนมาก จึงพยายามนำข้อมูลออกมาชี้แจง ซึ่งกลุ่มนักลงทุนรับทราบ พร้อมแสดงความจำนงว่า จะมาร่วมประชุมในวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเดือนเม.ย.2558 เพื่อร่วมออกเสียง และปกปักษ์รักษาสื่อมืออาชีพ ให้คงความเป็นอิสระ เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้สังคมต่อไป


SLCมั่นใจหานลท.ซื้อหุ้นPPได้ทันกำหนด

"SLC" มั่นใจ หานักลงทุนซื้อหุ้น PP ที่ถูกยกเลิกกว่า 600 ล้านบาท ได้ทันกำหนดเดือน ต.ค. นี้

นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน)หรือ SLC เปิดเผยว่า มั่นใจจะสามารถหานักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ที่ถูกยกเลิก ไปแล้วกว่า 600 ล้านบาท หลังมีข่าวการซื้อหุ้นบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ NMG โดยเชื่อว่าจะหาผู้ลงทุนรายใหม่เข้ามาใช้สิทธิแทนได้ทันกำหนดภายในเดือน ต.ค.นี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับนักลงทุนหลายราย

โดยหุ้นเพิ่มทุน PP ดังกล่าว บริษัทฯได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวงเงิน 750-780 ล้านบาท โดยจะใช้นำไปขยายธุรกิจในเครือ ซึ่งมีกำหนดครบอายุจากวันที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติในเดือน ต.ค.นี้ จึงมั่นใจว่าจะไม่กระทบกับแผนการขยายธุรกิจของ SLC

สำหรับกระแสข่าวลือที่ระบุว่า บริษัทฯจะมีการเข้าไปปลดพนักงานรวมถึงผู้บริหารในเครือเนชั่นนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะบริษัทฯลงทุนจากสิ่งที่เนชั่นสร้างสมมา นั่นก็คือทรัพยากรบุคคลเหล่านั้นซึ่งถือว่ามีคุณภาพสูง โดยหากบริษัทฯปฏิบัติตามกระแสข่าวลือดังกล่าวถือว่าผิดหลักการบริหาร และไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น เพราะ SLC ได้ยืนยันแล้วว่าจะไม่มีการแทรกแซงใดๆในการถือหุ้น NMG ครั้งนี้เป็นการเข้าลงทุนระยะยาวเท่านั้น


ประธานหอฯเชียงใหม่หวั่นสื่อถูกคุกคาม

ปธ.หอการค้าเชียงใหม่ชี้กรณีSLCซื้อเนชั่นเป็นเรื่องปกติบนความไม่ปกติหรือไม่ หวั่นหากทุนเข้าซื้อ-เข้าครอบงำสื่อ

นายเฉลิมชาติ นครังกุล ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เป็นเรื่องปกติเป็นไปตามกลไกทางธุรกิจ คนที่มีทุนสามารถทำได้ ในเชิงธุรกิจก็เข้าหลักการที่ว่า “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” ฉะนั้นการซื้อ-ขายหุ้นก็เป็นไปตามเรื่องของผลประโยชน์ทางธุรกิจ หากการซื้อ-ขายหุ้นแล้ว เจ้าของใหม่มีแนวทางที่ดีในการบริหารบริษัทใหม่ๆนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดีจะทำให้บริษัทเติบโตได้ แต่ในกรณีที่บริษัทโซลูชั่น คอนเนอร์ (1988) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ซื้อหุ้นของบริษัทเนชั่นนั้นอาจเป็นเรื่องปกติบนความไม่ปกติหรือไม่ เพราะเป็นบริษัทสื่อและถือเป็นบริษัทคู่แข่งขันกัน

หากมองในฐานะที่เป็นผู้บริโภคสื่อ แล้วมีทุนจากสื่ออีกช่องหนึ่งเข้ามาซื้อสื่ออีกช่องหนึ่งแล้วทำให้สื่อหลายๆช่องมีการนำเสนอสื่อที่แตกต่างหลากหลายและนำเสนอถูกต้องก็เป็นเรื่องที่ดีเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค แต่หากมีทุนจากสื่ออีกช่องหนึ่งเข้ามาซื้อสื่ออีกช่องหนึ่งแล้วมีการควบคุมสื่อ มีการนำเสนอที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันหมดก็จะกลายเป็นการครอบงำ และหากเจ้าใหญ่มีทุนมากเข้าซื้อสื่อเจ้าที่เล็กกว่าหลายๆเจ้า สื่อถูกซื้อถูกคุกคามไปหมดก็อาจเป็นอันตรายและส่งผลเสียต่อผู้บริโภค เพราะอาจมีการเสนอข่าวที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันหมด ซึ่งการซื้อ-ขายแบบนี้งดเว้นได้ดี


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ผู้บริหารSLC ฟ้องกลับ กรรมการบ.CTH เนชั่นฯ

view