สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เงินเฟ้อ 64% ยังไม่พอ? ปธน.เวเนฯ ประชานิยมต่อ เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 15% - เริ่มระบบอัตราแลกเปลี่ยนหลายอัตรา

เงินเฟ้อ 64% ยังไม่พอ? “ปธน.เวเนฯ” ประชานิยมต่อ “เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 15% - เริ่มระบบอัตราแลกเปลี่ยนหลายอัตรา

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

       เอเอฟพี - ในสภาพที่ยากลำบากทางเศรษฐกิจของเวเนซุเอลา ที่มีอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงทะลุเพดานถึง 64% แต่กระนั้นประธานาธิบดีเวเนซุเอเลา นิโคลัส มาดูโร กลับยังทำประชานิยมต่อเนื่องเพื่อแก้ปัญหาสภาพเศรษฐกิจด้วยการประกาศ เพิ่มอัตราค่าแรงขั้นต่ำขึ้นอีก 15% และมีแนวคิดที่จะใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศแบบหลายอัตรา เมื่อวานนี้ (21 ม.ค.)
       
       “ระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทั้งหมดกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยน ผ่าน” ประธานาธิบดีเวเนซุเอเลา นิโคลัส มาดูโร แถลงในการแถลงการณ์ประจำปีกับประชาชนชาวเวเนซุเอลาเมื่อวานนี้ (21) ในประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงถึง 64% อาหารขาดแคลนและต้องใช้ระบบแบ่งปัน ซึ่งประชาชนในประเทศลาตินอเมริกานี้ตั้งความหวังว่าจะมีข่าวเปลี่ยนแปลง นโยบายทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่
       
       เอเอฟพีรายงานว่า อัตราแลกเปลี่ยนใหม่ที่จะนำมาใช้นี้ คาดว่าจะเป็น “ระบบอัตราแลกเปลี่ยนหลายอัตรา” หรือ multiple exchange rate system ที่เป็นอัตราการแลกเปลี่ยนเงินที่แตกต่างกันสำหรับกรณีการส่งเงินออกนอก ประเทศชนิดต่างๆ การจ่ายชำระหนี้การสั่งซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อประเทศก็อาจกำหนดอัตราให้ต่ำ กว่าสินค้าที่ไม่จำเป็น เป็นต้น
       
       อย่างไรก็ตาม ในการแถลงของผู้นำเวเนซุเอลา มาดูโรไม่ได้ให้รายละเอียดในการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับระบบอัตราแลกเปลี่ยน ใหม่ที่จะถูกนำมาใช้ ซึ่งเอเอฟพีรายงานว่า ในตลาดมืดเวเนซุเอลา อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดอยู่ที่ 177 โบลิวาร์/1 ดอลลาร์ ซึ่งทีมเศรษฐกิจของมาดูโรจะเปิดเผยถึงระบบอราแลกเปลี่ยนใหม่ในเร็ววันนี้ มาดูโรแถลง
       
       ทั้งนี้เป็นไปอย่างที่ทั่วโลกตระหนัก เศรษฐกิจเวเนซุเอลาดิ่งเหวลงก่อนหน้าที่จะเกิดราคาน้ำมันโลกตกต่ำ แต่กระนั้นเศรษฐกิจของเวเนซุเอลาถูกทุบซ้ำอีกครั้งด้วยราคาน้ำมันดิบโลกที่ ทรุดลงอย่างไม่มีที่สิ้นสุดผลจากที่รายได้หลักของประเทศมาจากการส่งออก น้ำมันถึง 96%
       
       ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า เวเนซุเอลาซึ่งมีแหล่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกต้องการให้ราคาน้ำมันดิบโลก สูงอย่างน้อยบาร์เรลละ 100 ดอลลาร์เพื่อรักษาสภาพสมดุลของงบประมาณประเทศ
       
       แต่กระนั้นมาดูโรตระหนักว่า คงไม่ง่ายนักที่ราคาน้ำมันดิบจะหวนกลับไปที่ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอย่างที่เป็นมาในอดีต และเป็นผลทำให้เขาเร่งที่จะต้องปรึกษาหารือถึงทางออกในการปรับเพิ่มราคา เพื่อชดเชยราคาน้ำมันที่ต่ำสุดในโลกในขณะนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่อ่อนไหวในเวเนซุเอลาในประเทศที่ผู้คนต่างรู้สึกว่า การได้ใช้น้ำมันราคาต่ำเป็นสิทธิพื้นฐานตั้งแต่แรกคลอด เพราะพบว่าราคาน้ำมันภายในประเทศไม่เคยปรับขึ้นเลยนับตั้งแต่ปี 1989 ซึ่งในขณะนั้นการเพิ่มราคาน้ำมันและค่าการขนส่งสาธารณะเป็นผลทำให้เกิดการ ลุกฮือประท้วงครั้งใหญ่ รวมไปถึงก่อจลาจล และมีการปล้นสะดม ซึ่งพบว่ามีผู้คนเสียชีวิตหลายร้อยคน
       
       เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า เฉพาะในปี 2013 พบว่าเวเนซุเอลาต้องใช้เงินถึง 15 พันล้านดอลลาร์เพื่อทำการชดเชยอย่างเดียว
       
       ด้านนักเศรษฐศาสตร์ เฆซัส คาซิค (Jesus Casique) ทวีตข้อความวิเคราะห์ถึงคำแถลงประจำปีของมาดูโรที่มีระยะเวลาร่วม 3 ชม.ว่า “เป็นประชานิยม และไม่มีความเชื่อมโยงกับสภาพเศรษฐกิจความเป็นจริงของเวเนซุเอลา”
       
       ก่อนหน้านี้มาดูโรได้ออกเดินทางไปเยือนจีน และประเทศสมาชิกกลุ่มโอเปกต่างๆ รวมไปถึง รัสเซีย อิหร่าน และอัลจีเรียเพื่อร้องขอความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ และต้องการให้มีการลดกำลังการผลิตเพื่อทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา คาราคัสล้มเหลวในการโน้มน้าวให้กลุ่มโอเปกประกาศลดกำลังการผลิตลง


ผู้นำเวเนฯขึ้นค่าแรง-คงอัตราแลกเปลี่ยน

ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโรของเวเนซุเอลา ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีก 15% หวังกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโรของเวเนซุเอลา ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีก 15% และมีแผนที่จะคงระบบอัตราแลกเปลี่ยนหลายอัตราไว้ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังเข้าขั้นวิกฤติ

นายมาดูโร กล่าวสุนทรพจน์ประจำปีต่อประชาชนเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีก 15% หลังจากเคยปรับขึ้น 15% เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และระบุว่า ระบบอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดเป็นระบบที่เปลี่ยนแปลงได้

อย่างไรก็ตาม ผู้นำเวเนซุเอลา ไม่ได้ให้รายละเอียดเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนมากนัก กล่าวแต่เพียงว่า อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นสกุลเงินสำคัญที่ใช้ในการซื้ออาหารและยา ปัจจุบันอยู่ที่ 6.3 โบลิวาร์ต่อดอลลาร์ ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนในตลาดมืดอยู่ที่ 177 โบลิวาร์ต่อดอลลาร์ พร้อมทั้งเสริมว่า ทีมเศรษฐกิจของเขาจะประชุมกันเรื่องระบบอัตราแลกเปลี่ยนเร็ว ๆ นี้

ปัจจุบัน ชาวเวเนซุเอลา กำลังได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงถึง 64% รวมถึงการขาดแคลนอาหาร และนโยบายจำกัดสินค้าของรัฐบาล นอกจากนี้ เวเนซุเอลายังเผชิญกับเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ตั้งแต่ก่อนราคาน้ำมันดิบจะลดลงอย่างหนักเช่นในปัจจุบัน ซึ่งซ้ำเติมวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศให้เลวร้ายยิ่งขึ้น เนื่องจากต้องพึ่งพารายได้จากน้ำมันถึง 96%

บรรดานักวิเคราะห์ ให้ความเห็นว่า เวเนซุเอลา ซึ่งพึ่งพาน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลก จำเป็นต้องขายน้ำมันในราคา 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพื่อรักษางบประมาณของตัวเอง ซึ่งนายมาดูโร ยอมรับว่า ราคาน้ำมันคงยังไม่กลับมาแตะที่ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเร็วๆนี้ จึงมองว่า ทุกฝ่ายจำเป็นต้องหารือกันเกี่ยวกับการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ได้รับการอุดหนุน ทำให้เป็นชาติที่บริโภคน้ำมันในราคาถูกที่สุดในโลก


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : เงินเฟ้อ 64% ยังไม่พอ? ปธน.เวเนฯ ประชานิยมต่อ พิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 15% เริ่มระบบ อัตราแลกเปลี่ยนหลายอัตรา

view