สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

Weekend Focus:โลกยานยนต์สั่นสะเทือน หลัง โฟล์คสวาเกน ทำงามหน้า โกงทดสอบค่าไอเสีย

Weekend Focus:โลกยานยนต์สั่นสะเทือน หลัง “โฟล์คสวาเกน” ทำงามหน้า โกงทดสอบค่าไอเสีย

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

        ทำเอาช็อกและตกตะลึงกันไปทั่วทั้งโลก โดยเฉพาะในบรรดาผู้เกี่ยวข้องกับแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึง ประชาชนทั่วไปที่เป็นผู้ใช้รถ หลังจากที่ “โฟล์คสวาเกน” ค่ายยานยนต์ยักษ์ใหญ่แห่งเยอรมนี ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นค่ายรถที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก และใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ของยุโรปในเวลานี้ ตกเป็นข่าวสุดอื้อฉาวในกรณี “โกง” การทดสอบค่าไอเสีย ซึ่งว่ากันว่า กลโกงที่ค่ายรถดังแห่งเมืองเบียร์นำมาใช้นี้ทำเอาอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก ถึงกับสั่นสะเทือน และกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอย่างเลวร้ายถึงขีดสุด
       
       เมื่อวันอังคารที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา โฟล์คสวาเกน (Volkswagen : VW) ค่ายรถใหญ่อันดับสองของโลกซึ่งก่อตั้งกิจการมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1937 และมีฐานอยู่ที่เมืองโวล์ฟสบวร์ก ในแคว้นโลเวอร์ แซกโซนีของเยอรมนีออกคำแถลงช็อกโลกยอมรับว่า มีการติดตั้งอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ซึ่งสามารถโกงการทดสอบค่าไอเสียของรถได้ใน ยานยนต์แบบเครื่องยนต์ดีเซลของบริษัท ที่ส่งไปจำหน่ายในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกจำนวนมากถึง 11 ล้านคัน
       
       การออกคำแถลงสารภาพความผิดของทางโฟล์คสวาเกนมีขึ้นราว 4 วัน หลังจากที่ข่าวการโกงทดสอบค่าไอเสียดังกล่าวถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนเป็นครั้ง แรกเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา โดยทางสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา หรือที่รู้จักกันดีในชื่อย่อว่า “อีพีเอ” ซึ่งได้จับมือกับทางหน่วยงานกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อมแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ออกมาแถลงว่า ตรวจสอบพบรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลราว 482,000 คันซึ่งผลิตในอเมริกาโดยกลุ่มโฟล์คสวาเกน เกี่ยวข้องกับเรื่องกลโกงสุดอื้อฉาวครั้งนี้
       
       ข้อมูลที่ตรวจสอบพบโดยสำนักงานอีพีเอและหน่วยงานสิ่งแวดล้อมแห่งแคลิ ฟอร์เนีย ระบุว่า รถยนต์ที่พบปัญหาอื้อฉาวนี้มีทั้งยี่ห้อ ออดี้ ในรุ่น เอ 3 รวมถึงยานยนต์ภายใต้แบรนด์ของโฟล์คสวาเกนอีกหลายต่อหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น รุ่นพาสสาท , กอล์ฟ , และบีเทิล
       
       รายงานระบุว่า ทางโฟล์คสวาเกนยอมรับว่า ได้ทำการติดตั้งซอฟต์แวร์โกงค่าไอเสีย ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษในรถจำนวน 11 ล้านคันดังกล่าว โดยที่ซอฟต์แวร์ที่ว่านี้จะไปปิดระบบควบคุมมลพิษ ระหว่างที่มีการขับขี่ตามปกติ และจะเปิดระบบก็ต่อเมื่อได้ตรวจพบว่ารถยนต์คันนั้นๆ กำลังถูกตรวจสอบการปล่อยไอเสียอยู่เท่านั้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ในระหว่างที่ระบบควบคุมไอเสียถูกปิดกั้นการทำงานโดยซอฟต์แวร์อยู่นั้น รถของโฟล์คสวาเกนอาจปล่อยก๊าซที่เป็นมลพิษ ซึ่งรวมถึงก๊าซพิษจำพวกไนโตรเจนออกไซด์ ออกสู่อากาศในปริมาณที่สูงลิ่วถึง “40 เท่า” ของมาตรฐานการปล่อยไอเสียตามปกติเลยทีเดียว
       
       แน่นอนว่าเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับกลโกงการทดสอบค่าไอเสีย นี้ ส่งผลกระทบไม่น้อยต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและบรรดานักลงทุนต่อกิจการ ของกลุ่มโฟล์คสวาเกน เห็นได้จากการที่หุ้นของโฟล์คสวาเกนดิ่งลงอย่างต่อเนื่องหลายวันตั้งแต่ 17 เปอร์เซ็นต์ ถึง 23 เปอร์เซ็นต์ ในการซื้อขาย ณ ตลาดหลักทรัพย์ในนครแฟรงค์เฟิร์ต ของเยอรมนี จนราคาหุ้นของโฟล์คสวาเกนร่วงลงมาเฉียด 100 ยูโร
       
       และเป็นที่คาดกันว่า เรื่องงามหน้าที่มาจากกลโกงของบริษัทในคราวนี้ จะส่งผลกระทบอย่างเลวร้ายต่อยอดขายและผลประกอบการของกลุ่มโฟล์คสวาเกนในปี นี้อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ถึงแม้ทางบริษัทจะประกาศเตรียมกันเงินสำรองในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2015 นี้เอาไว้สูงถึง 6,500 ล้านยูโร เพื่อรองรับผลกระทบทางการเงิน ที่จะเกิดขึ้นตามมาจากผลพวงของมรสุมข่าวฉาวคราวนี้
       
       ไม่เพียงเท่านั้น แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมยานยนต์ยังเปิดเผยว่า กิจการของกลุ่มโฟล์คสวาเกนอาจต้องสั่นสะเทือนหนัก จากการที่ทางบริษัทต้องถูกหน่วยงานด้านความปลอดภัย และหน่วยงานปกป้องสิ่งแวดล้อมของประเทศต่างๆ สอบสวนหรือฟ้องร้องดำเนินคดี ยังไม่รวมถึงการฟ้องร้องเอาผิดจากบรรดาผู้บริโภครายย่อยที่ตกเป็นเหยื่อของ “กลโกงลวงโลก” ที่เกิดขึ้น
       
       จนถึงขณะนี้มีรายงานว่า ทางการของอย่างน้อย 3 ประเทศ ประกาศสอบสวนเอาผิดกลุ่มโฟล์คสวาเกนอย่างเป็นทางการต่อเรื่องอื้อฉาวนี้แล้ว ประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และฝรั่งเศส โดยเป็นที่คาดกันว่า ลำพังการสอบสวนเอาผิดของทางการสหรัฐฯเพียงประเทศเดียว ก็อาจทำให้โฟล์คสวาเกนต้องจ่ายค่าปรับก้อนโตไม่น้อยกว่า 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว
       
       ในส่วนของกลุ่มโฟล์คสวาเกนเอง แม้จะมีการออกคำแถลงขอโทษอย่างเป็นทางการจาก มาร์ติน วินเทอร์คอร์น (Martin Winterkorn) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ในวัย 68 ปี ซึ่งนั่งเก้าอี้ตัวนี้มาตั้งแต่ปี 2007 แต่กลโกงสะท้านโลกที่ถูกเปิดโปงออกมานี้ ทำให้บรรดานักวิเคราะห์จากหลากหลายสำนักพากันฟันธงลงความเห็นว่า ซีอีโอชาวเยอรมันรายนี้ต้อง “ชะตาขาด” และต้องกระเด็นตกเก้าอี้ก่อนหมดวาระในปี 2018 เนื่องจากวินเทอร์คอร์นเป็นผู้ดูแลสายงานด้านการวิจัยและการพัฒนาของบริษัท ซึ่งสายงานดังกล่าวนี้ถูกระบุว่า เป็นต้นตอของการนำซอฟต์แวร์โกงการทดสอบไอเสียดังกล่าวมาใช้
       
       เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับกลโกงการทดสอบค่าไอเสียของกลุ่มโฟล์คสวาเกน ที่ถูกเปิดโปงออกมา ดูเหมือนยังอยู่ห่างไกลจากคำว่า “สิ้นสุด” เพราะนับจากนี้ เป็นที่คาดกันว่า คงมีการสอบสวน ขุดคุ้ยเบื้องลึกเบื้องหลังกลโกงนี้ออกมาอีกยาวเหยียดไม่ต่างจาก “มหากาพย์”
       
       ขณะเดียวกัน บรรดาผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไปว่า บทสรุปของเรื่องฉาวสะเทือนวงการยานยนต์โลกนี้จะลงเอยในแง่มุมใด และนับจากนี้เราทั้งหลายในฐานะผู้บริโภคที่ดี คงต้องมีสติกันมากขึ้น ก่อนที่จะยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อหารถยนต์ หรือแม้แต่สิ่งของเครื่องใช้อื่นๆในชีวิตประจำวัน เพราะถ้าแม้แต่แบรนด์ชั้นนำที่มีภาพลักษณ์ดีอย่างโฟล์คสวาเกนยังกระทำเรื่อง อื้อฉาวลวงโลกแบบนี้ได้แล้วเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า เราจะไม่ถูก “หลอกลวงสวมเขา” จากผู้ผลิตสินค้าและบริการรายอื่นๆ อีก


หุ้น BMW ดิ่ง หลังถูกแฉโกงการวัดไอเสีย ตามรอย Volkswagen

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

หุ้น BMW ร่วงเกือบ 10% ในตลาดหุ้นแฟรงก์เฟิร์ต หลังมีรายงานว่า เครื่องยนต์ดีเซลของรถยนต์ยี่ห้อดัง ปล่อยคาร์บอนเกินมาตรฐานสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรป (อียู) ถึง 11 เท่า

เอเอฟพีรายงานว่า หลังจากไม่กี่วันก่อนหน้านี้ มีการเปิดเผยว่า ยักษ์ใหญ่วงการรถยนต์อย่าง Volkswagen มีการบิดเบือนข้อมูลเรื่องการปล่อยมลพิษออกสู่อากาศของเครื่องยนต์ วันนี้มีรายงานว่า รถเครื่องยนต์ดีเซลของบริษัท BMW "บางรุ่น" มีการปล่อยก๊าซอันตรานออกมา มากเกินกว่ากำหนดของนโยบายต่อต้านมลภาวะของอียูเช่นกัน

โดยจากการ ทดสอบของคณะกรรมการนานาชาติเกี่ยวกับระบบขนส่งสะอาด (International Council on Clean Transportation : ICCT) ระบุว่า รถยนต์รุ่น X3 xDrive เครื่องยนต์ดีเซล 20d ของ BMW นั้น ปล่อยก๊าซอันตรายออกมาสู่สภาพอากาศเกินกำหนดของอียูถึง 11 เท่า

การ เปิดเผยดังกล่าว ส่งผลให้หุ้นของ BMW ในตลาดหุ้นแฟรงก์เฟิร์ตตกลง 9.7% อยู่ที่ราว 72.05 ยูโร ในช่วงสายของวันนี้ ขณะที่หุ้นของ Volkwagen ซึ่งราคาร่วงไปกว่า 20% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาเริ่มขยับสูงขึ้น 7.9% อยู่ที่ราว 120.30 ยูโร หลังนักลงทุนเริ่มช้อนซื้อและปัญหาเรื่องการโกงการวัดไอเสียเริ่มชัดเจนมาก ขึ้น


ทางการสวิสสั่งห้ามจำหน่ายรถเครื่องดีเซลทุกรุ่นของโฟล์คสวาเกน เซ่นพิษข่าวฉาวโกงทดสอบไอเสีย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

        เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ – ทางการสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศในวันเสาร์ ( 26 ก.ย.) สั่งห้ามการจำหน่ายรถยนต์เครื่องดีเซลทุกรุ่นของค่ายรถดัง โฟล์คสวาเกนของเยอรมนี หลังทางบริษัทก่อเรื่องอื้อฉาวด้วยการใช้กลโกงการทดสอบค่ามลพิษจนกลายเป็น ข่าวสะเทือนวงการยานยนต์ไปทั่วโลก
       
       ทางการสวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า มาตรการสั่งห้ามการจำหน่ายรถเครื่องยนต์ดีเซลดังกล่าว จะครอบคลุมทั้งรถยนต์ที่ผลิตภายใต้แบรนด์ของโฟล์คสวาเกนเอง รวมถึงแบรนด์อื่นๆ ที่อยู่ในเครือทั้ง “เซียต” และ “สโคดา” ด้วยเช่นกัน
       
       คำสั่งแบนล่าสุดของทางการแดนนาฬิกา คาดว่า จะส่งผลกระทบต่อรถยนต์ของเครือโฟล์คสวาเกนกว่า 180,000 คันที่ถูกผลิตไว้แล้วทั้งแบบเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร , 1.6 ลิตร และ 2.0 ลิตร เพื่อรอการส่งมาจำหน่ายในสวิตเซอร์แลนด์
       
       ด้านโธมัส โรห์บาค โฆษกสำนักงานความปลอดภัยทางท้องถนนของรัฐบาลกลางสวิส ออกมาระบุเพิ่มเติมว่า มาตรการห้ามจำหน่ายรถยนต์เครื่องดีเซลดังกล่าวจะมีผลครอบคลุมรถทุกรุ่นของ กลุ่มโฟล์คสวาเกน ที่รองรับระบบปล่อยมลพิษแบบ “ยูโร 5” แต่ไม่ครอบคลุมถึงรถที่ถูกผลิตเพื่อรองรับระบบการวัดมลพิษแบบ “ยูโร 6” ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดในการควบคุมการปล่อยไอเสียของทางสหภาพยุโรป (อียู)
       
       ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางการสวิสมีขึ้นภายหลังจากที่ “โฟล์คสวาเกน” ค่ายยานยนต์ยักษ์ใหญ่แห่งเยอรมนี ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นค่ายรถที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก (รองจากโตโยต้า) และใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ของยุโรปในเวลานี้ ตกเป็นข่าวสุดอื้อฉาวในกรณี “โกง” การทดสอบค่าไอเสีย ซึ่งว่ากันว่า กลโกงที่ค่ายรถดังแห่งเมืองเบียร์นำมาใช้นี้ทำเอาอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก ถึงกับสั่นสะเทือน และกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอย่างเลวร้ายถึงขีดสุด
       
       เมื่อวันอังคารที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา โฟล์คสวาเกน (Volkswagen : VW) ค่ายรถใหญ่อันดับสองของโลกซึ่งก่อตั้งกิจการมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1937 และมีฐานอยู่ที่เมืองโวล์ฟสบวร์ก ในแคว้นโลเวอร์ แซกโซนีของเยอรมนีออกคำแถลงช็อกโลก ยอมรับว่า มีการติดตั้งอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ ซึ่งสามารถโกงการทดสอบค่าไอเสียของรถได้ในยานยนต์แบบเครื่องยนต์ดีเซลของ บริษัท ที่ส่งไปจำหน่ายในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกจำนวนมากถึง 11 ล้านคัน
       
       การออกคำแถลงสารภาพความผิดของทางโฟล์คสวาเกนมีขึ้นราว 4 วัน หลังจากที่ข่าวการโกงทดสอบค่าไอเสียดังกล่าวถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนเป็นครั้ง แรกเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา โดยทางสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา หรือที่รู้จักกันดีในชื่อย่อว่า “อีพีเอ” ซึ่งได้จับมือกับทางหน่วยงานกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อมแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ออกมาแถลงว่า ตรวจสอบพบรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลราว 482,000 คันซึ่งผลิตในอเมริกาโดยกลุ่มโฟล์คสวาเกน เกี่ยวข้องกับเรื่องกลโกงสุดอื้อฉาวครั้งนี้
       
       ข้อมูลที่ถูกตรวจสอบพบโดยสำนักงานอีพีเอ และหน่วยงานสิ่งแวดล้อมแห่งแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า รถยนต์ที่พบปัญหาอื้อฉาวนี้มีทั้งยี่ห้อ ออดี้ ในรุ่น เอ 3 รวมถึงยานยนต์ภายใต้แบรนด์ของโฟล์คสวาเกนอีกหลายต่อหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น รุ่นพาสสาท , กอล์ฟ , และบีเทิล
       
       รายงานระบุว่า ทางโฟล์คสวาเกนยอมรับว่า ได้ทำการติดตั้งซอฟต์แวร์โกงค่าไอเสีย ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษในรถจำนวน 11 ล้านคันดังกล่าว โดยที่ซอฟต์แวร์ที่ว่านี้จะไปปิดระบบควบคุมมลพิษ ระหว่างที่มีการขับขี่ตามปกติ และจะเปิดระบบก็ต่อเมื่อได้ตรวจพบว่ารถยนต์คันนั้นๆ กำลังถูกตรวจสอบการปล่อยไอเสียอยู่เท่านั้น
       
       ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ในระหว่างที่ระบบควบคุมไอเสียถูกปิดกั้นการทำงานโดยซอฟต์แวร์อยู่นั้น รถของโฟล์คสวาเกนอาจปล่อยก๊าซที่เป็นมลพิษ ซึ่งรวมถึงก๊าซพิษจำพวกไนโตรเจนออกไซด์ ออกสู่อากาศในปริมาณที่สูงลิ่วถึง “40 เท่า” ของมาตรฐานการปล่อยไอเสียตามปกติเลยทีเดียว
       
       ในส่วนของกลุ่มโฟล์คสวาเกนเองแม้จะมีการออกคำแถลงขอโทษอย่างเป็นทาง การจาก มาร์ติน วินเทอร์คอร์น (Martin Winterkorn) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ในวัย 68 ปี ซึ่งนั่งเก้าอี้ตัวนี้มาตั้งแต่ปี 2007 แต่กลโกงสะท้านโลกที่ถูกเปิดโปงออกมานี้ ส่งผลให้ ซีอีโอชาวเยอรมันรายนี้ต้อง “ชะตาขาด” และต้องกระเด็นตกเก้าอี้ก่อนหมดวาระในปี 2018 หลังมีการแต่งตั้งมัทธิอัส มุลเลอร์ ผู้บริหารของแบรนด์รถหรู “ปอร์เช” เข้ามารับหน้าที่แทนเมื่อวันศุกร์ ( 25 ก.ย.) ที่ผ่านมา


กลุ่มสวล.สหรัฐจี้เอาผิดอาญาโฟล์คสวาเกน

โดย :

กลุ่มสวล.สหรัฐจี้เอาผิดอาญาโฟล์คสวาเกน หลังจากค่ายรถชั้นนำของโลกยอมรับว่าโกงการทดสอบระดับมลพิษของรถยนต์

ผู้อำนวยการด้านนโยบายของโคลลิชั่น ฟอร์ คลีน แอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อมไม่แสวงผลกำไร นายบิลล์ มากาเวิร์น กล่าวในงานประชุมแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนียว่า คณะผู้ควบคุมกฏระเบียบของรัฐควรดำเนินการทางกฏหมายเพื่อเอาผิดทางอาญาต่อ โฟล์คสวาเกน

ความเคลื่อนไหวนี้ มีขึ้นหลังจากนายอเล็กซานเดอร์ ดอบรินท์ รัฐมนตรีคมนาคมของเยอรมนี เปิดเผยว่า เตรียมสุ่มตรวจรถยนต์ในประเทศ หลังโฟล์กสวาเกน ยอมรับว่าโกงการทดสอบระดับมลพิษของรถยนต์โฟล์คสวาเกนในยุโรปอีก 11 ล้านคันแต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า มีรถยนต์กี่คันในเยอรมนีที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้

การติดตั้งซอฟต์แวร์โกงค่าไอเสียของโฟล์คสวาเกน กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวไปทั่วโลก หลังจากที่ทางการสหรัฐ ออกมาประณามการกระทำดังกล่าว และล่าสุด โฟล์คสวาเกน เตรียมงบไว้เป็นเงิน 6,500 ล้านยูโร เพื่อรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น


โฟล์คตั้งซีอีโอใหม่ฟื้นความเชื่อมั่น พบโกงไอเสียในเยอรมนี2.8ล้านคัน!

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

        รอยเตอร์/เอเอฟพี - โฟล์คสวาเกนแต่งตั้งนายแมตเธียส มุลเลอร์ ประธานปอร์เช่ ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) คนใหม่ตามความคาดหมายในวันศุกร์(25ก.ย.) ท่ามกลางเรื่องอื้อฉาวโกงการทดสอบไอเสียที่ลามสู่ยุโรป โดยรัฐมนตรีคมนาคมเยอรมนีบอกว่ามีรถดีเซลได้รับผลกระทบถึง 2.8 ล้านคันในประเทศ มากกว่าในสหรัฐฯเกือบ 6 เท่า
       
       นายแมตเธียส มุลเลอร์ วัย 62 ปี แถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทในเมืองโวลฟ์สบวร์กเมื่อวันศุกร์(25ก.ย.) ว่าเป้าหมายแรกของเขาคือเรียกคืนความเชื่อมั่นตามหลังการดำดิ่งของหุ้นโฟล์ค สวาเกนและการลาออกเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ของนายมาร์ติน วินเตอร์คอร์น ซึ่งนั่งเก้าอี้ซีอีโอของบริษัทมายาวนาน
       
       "ภายใต้การนำของผม โฟล์คสวาเกน จะทำทุกวิธีทางเพื่อสามารถพัฒนาและดำเนินการตามมาตรฐานธรรมาภิบาลอันเป็นที่ ยอมรับของอุตสาหกรรมทั้งหมดอย่างเคร่งครัดที่สุด" มุลเลอร์กล่าว พร้อมประกาศว่า "เราจะเอาชนะวิกฤตนี้" หลังจากบริษัทของเขาถูกเปิดโปงติดตั้งอุปกรณ์ซอฟต์แวร์ซึ่งสามารถโกงการ ทดสอบไอเสียในรถยนต์ดีเซลบางส่วน
       
       มุลเลอร์ยังประกาศจะทำให้บริษัทมีความโปร่งใสขั้นสูงสุดในอนาคตและ แสดงความเชื่อมั่นว่าหากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์แห่งนี้เรียนรู้จากความผิดพลาด อาจโผล่พ้นจากวิกฤตด้วยสถานะที่แข็งแกร่งกว่าเดิมในระยะยาว
       
       ซีอีโอคนใหม่เผยต่อว่ามีพนักงานจำนวนหนึ่งจะถูกพักงานจนกว่าราย ละเอียดการโกงตรวจวัดมลพิษจะกระจ่าง ต่อมาทางบริษัทแถลงเพิ่มเติมว่าจะลดจำนวนบอร์ดบริหารและยกเลิกตำแหน่งประธาน ฝ่ายผลิตด้วย ทั้งนี้ทางโฟล์คสวาเกน จะเปิดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ เพื่ออนุมัติการเปลี่ยนแปลงต่างๆ
       
       แม้ทางบริษัทบอกว่าจะตั้งบริษัทกฎหมายแห่งหนึ่งในสหรัฐฯเพื่อดำเนิน การสืบสวนอย่างครบถ้วน เช่นเดียวกับพักงานพนักงานบางส่วนและปรับโครงสร้างให้มีการกระจายอำนาจ มากกว่าเดิมด้วยลดจำนวนบอร์ดบริหาร
       
       แต่เรื่องอื้อฉาวยังลุกลามไม่หยุด หลังอเล็กซานเดอร์ โดบรินด์ท รัฐมนตรีคมนาคมเยอรมนีเผยว่าโฟล์คสวาเกนได้โกงทดสอบไอเสียในยุโรปเช่นกัน ด้วยมีจำนวนรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบในเยอรมนีราว 2.8 ล้านคัน หรือเกือบ 6 เท่าที่พวกเขายอมรับว่าโกงการทดสอบในสหรัฐฯ ขณะเดียวกันคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบและอัยการของประเทศต่างๆทั่วโลกก็อยู่ ระหว่างการสืบสวนเรื่องอื้อฉาวนี้
       
       ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าขอบเขตการโกงทดสอบไอเสียของโฟล์คสวาเกน นั้นใหญ่หลวงมากกว่าที่คิดไว้ในตอนแรก ขณะที่วิกฤตนี้ได้ฉุดหุุ้นของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่สัญชาติเยอรมนี ตกลงไปแล้วกว่า 40 เปอร์เซนต์ สูญเสียมูลค่าตลาดไปหลายหมื่นยูโร นับตั้งแต่ สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (อีพีเอ) เผยเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ว่าโฟล์คสวาเกนยอมรับได้ติดตั้งซอฟต์แวร์พิเศษควบคุมมลพิษในรถยนต์ใช้ เครื่องดีเซลราว 482,000 คันซึ่งผลิตในสหรัฐฯ
       
       โดยซอฟต์แวร์นี้จะเปิดใช้งานเฉพาะตอนที่รถยนต์เข้ารับการตรวจสอบการ ปล่อยไอเสีย แต่ระบบจะถูกปิดลงระหว่างที่มีการขับขี่ตามปกติ ซึ่งเท่ากับเป็นการปกปิดปริมาณการปล่อยมลพิษที่แท้จริง
       
       เมื่อวันอังคาร(22ก.ย.) โฟล์คสวาเกน แถลงยอมรับว่ารถยนต์ติดเครื่องดีเซลที่บริษัทผลิตส่งขายไปทั่วโลกจำนวนถึง 11 ล้านคัน มีการติดตั้งอุปกรณ์ซึ่งสามารถโกงการทดสอบไอเสีย


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : Weekend Focus โลกยานยนต์ สั่นสะเทือน โฟล์คสวาเกน ทำงามหน้า โกงทดสอบค่าไอเสีย

view