http://www.108acc.com
  
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

หน้าแรก

วิสัยทัศน์/พันธกิจ

บริการของเรา

LINK 4 A/C

DOWNLOAD

ติดต่อเรา

.......... บทความ 108 ..........

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ธรรมนูญครอบครัว คนละเรื่องเดียวกัน (๔)

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ธรรมนูญครอบครัว คนละเรื่องเดียวกัน

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ธรรมนูญครอบครัว คนละเรื่องเดียวกัน (2)

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ธรรมนูญครอบครัว คนละเรื่องเดียวกัน (๓)

ราชกิจจาฯ ประกาศมาตรการคง VAT 7% ออกไปอีก 1 ปี ถึงวันที่ 30 ก.ย.61 ..... คั่นเวลา

บัญญัติ 10 ประการที่ต้อง คำนึงในการวางระบบบัญชี และการควบคุม ภายใน (1)

อะไรคือข้อมูลทางบัญชี ?

องค์กรในมุมมองของนักบัญชี

วิธีการเลือกสำนักงานบัญชี

เจ้าของกิจการควรไปพบ สรรพากรเองหรือไม่

บัญญติ 10 ประการที่ต้อง คำนึงในการวางระบบบัญชี และการควบคุมภายใน (2)

สำนักงานบัญชีในฝัน (2)

สำนักงานบัญชีในฝัน (3)

สำนักงานบัญชีในฝัน (4)

สำนักงานบัญชีในฝัน (5)

สำนักงานบัญชีในฝัน (6)

การสุ่มตัวอย่างทางสถิติในการสอบบัญชี

ค่าทำบัญชีปีละ 2-3 หมื่นบาท คุณไปอยู่ที่ไหนมา

พรก.ยกเว้นการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากร 2558 ยื่นดีไหม

ธุรกิจปั่นป่วน เจอปัญหาขาดแคลนผู้สอบบัญชี จริงหรือ(1)

คุณสมบัตินักบัญชีที่ดี

จรรยาบรรณ ของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี

ธรรมบรรยาย ชุด จริยธรรมกับบัณฑิต - พุทธทาสภิกขุ

คลิปนี้ ชอบมาก

KPI เท่าไหร่ถึงพอ (1)

KPI เท่าไหร่ถึงพอ (2)

สถิติการจ่ายภาษีรายจังหวัด

สถิติการจ่ายภาษีตามภาค

สำนักงานบัญชีในฝัน (1)

สมาชิก

ลืมรหัสผ่าน?
สมัครสมาชิก
Gold charts on InfoMine.com

Inverted Yield Curve สัญญาณเตือนเศรษฐกิจที่น่าจับตา

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ ช่วยกันคิด

โดย ธนันธร มหาพรประจักษ์ ฝ่ายนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย

ในช่วงนี้หากผู้อ่านติดตามข่าวเศรษฐกิจ จะเห็นคนพูดถึงปรากฏการณ์ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น หรือที่เรียกว่า “inverted yield curve” ที่เกิดขึ้นกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ผู้อ่านบางท่านอาจสงสัยว่าเหตุใดนักวิเคราะห์และนักลงทุนจึงให้ความสำคัญกับปรากฏการณ์ดังกล่าว จึงอยากชวนผู้อ่านมาทำความรู้จักกับปรากฏการณ์ inverted yield curve

Inverted yield curve คืออะไร ?

ก่อนอื่นขออธิบายก่อนว่า yield curve คือ เส้นแสดงความสัมพันธ์ระหว่างอัตราผลตอบแทน (yield) กับอายุคงเหลือของพันธบัตร (maturity) ในภาวะปกติพันธบัตรรัฐบาลที่ระยะยาวกว่า จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น เนื่องจากการลงทุนในระยะยาวมีความเสี่ยงโดยรวมมากกว่า จากระยะเวลาการถือครองพันธบัตรที่นานกว่า เช่น ความไม่แน่นอนของทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต

อย่างไรก็ดี inverted yield curve อาจเกิดขึ้นได้ในบางช่วงเวลา ในวงการตลาดการเงิน นักลงทุนมักจะติดตามเหตุการณ์นี้ โดยดูส่วนต่างระหว่างพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี และอายุ 2 ปี (2Y-10Y spread) โดยหากมีค่าติดลบแสดงว่า เกิด inverted yield curve ขึ้น

เหตุใดจึงต้องจับตามองภาวะดังกล่าว ? 

เนื่องจากที่ผ่านมา inverted yield curve มักเกิดก่อนที่เศรษฐกิจจะเป็นขาลง หรือเศรษฐกิจถดถอย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ มักจะเกิดขึ้นเมื่อเศรษฐกิจขยายตัวมากกว่าระดับศักยภาพ อัตราเงินเฟ้อเร่งสูงขึ้นมาก และสูงกว่ากรอบเป้าหมายที่ธนาคารกลางกำหนดไว้ ทำให้ธนาคารกลางจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวด โดยปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้สูงขึ้นมาก เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา และส่งผลให้ yield ของพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นปรับสูงขึ้น

ทั้งนี้ หากนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ในช่วงท้ายของวัฏจักรขาขึ้นแล้ว หรือมีโอกาสที่เศรษฐกิจจะเกิดภาวะถดถอย นักลงทุนจะคาดการณ์ว่าในระยะต่อไป ธนาคารกลางจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และจะย้ายการลงทุนไปเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงมากขึ้น โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว

เพื่อล็อกผลตอบแทนสูงไว้ให้นานที่สุด ก่อนที่ธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการที่นักลงทุนเน้นลงทุนในพันธบัตรระยะยาวจะกดดันให้ yield พันธบัตรรัฐบาลระยะยาวปรับลดลง จนทำให้ yield พันธบัตรระยะยาวน้อยกว่าระยะสั้น จนเกิด inverted yield curve ได้

Inverted yield curve จึงเป็นสัญญาณเตือนจากมุมมองของนักลงทุนที่ชี้ว่า เศรษฐกิจอาจหดตัวได้ในอนาคต โดยในอดีตที่ผ่านมา inverted yield curve สามารถพยากรณ์การเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้หลายครั้ง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ กรณีของสหรัฐ โดยหากมองย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงปี 1980 เป็นต้นมา พบว่า สหรัฐจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายใน 1 ถึง 2 ปี หลังจากเกิด inverted yield curve

อย่างไรก็ดี inverted yield curve เคยให้ค่าเตือนที่ผิดพลาดเช่นกัน (false signal) เช่น ในปี 1982 และ 1998 ที่แม้จะเกิด inverted yield curve แต่เศรษฐกิจสหรัฐก็ไม่ได้เข้าสู่ภาวะถดถอยตามมาในช่วงนั้น ดังนั้นแม้ว่าในปัจจุบัน ค่า 2Y-10Y spread ของพันธบัตรสหรัฐ ยังเป็นบวกอยู่ที่ร้อยละ 0.2 และมีโอกาสที่จะเกิด inverted yield curve ขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากทิศทางการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ที่มีแนวโน้มจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายช้าลง จึงส่งผลให้ความต้องการล็อกผลตอบแทนในระยะยาวลดลง

โดยประสบการณ์ในอดีตสะท้อนว่า ความเป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงต้นปี 2563 หรือ 2564 แต่เราจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของสหรัฐประกอบด้วยว่า มีโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่ ซึ่งหากพิจารณาเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐต่างบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังสามารถขยายตัวได้ เพียงแต่ในอัตราที่ชะลอลง จึงจำเป็นต้องติดตามพัฒนาการของเศรษฐกิจสหรัฐต่อไป โดยเฉพาะประเด็นเรื่องสงครามการค้าที่คลี่คลายขึ้นที่จะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐในระยะต่อไปปรับดีขึ้นได้

โดยสรุปแล้ว inverted yield curve เป็นสัญญาณที่ต้องจับตามอง แต่ภาวะดังกล่าวเพียงอย่างเดียวอาจไม่ได้เป็นสัญญาณที่บ่งชี้เศรษฐกิจถดถอยเสมอไป จึงจำเป็นต้องพิจารณาตัวเลขพื้นฐานทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ประกอบด้วย

หมายเหตุ – บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย


#สำนักงานบัญชี,#สำนักงานสอบบัญชี,#ทำบัญชี,#สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : Inverted Yield Curve สัญญาณเตือนเศรษฐกิจที่น่าจับตา

view

*

view