สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

มโหรีประเทศไทย

จาก โพสต์ทูเดย์

การจ้างบริษัทพีอาร์ให้ประเทศไทย เป็นการตีฆ้องร้องป่าวว่ารัฐบาลไม่ได้ “จำนน” กับข้อมูลด้านมืดที่ถูกปล่อยออกไปจากฝ่ายตรงข้าม

โดย...ทีมข่าวการเงิน

ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “โลกล้อมไทย” มาหลายปี แต่ดูเหมือนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่บรรลุเป้าหมาย

ล่าสุดส่ง นพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัวไปพบบุคคลสำคัญในสภาผู้แทนราษฎร “พญาอินทรี” ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา หวังรุกฆาตฉีกหน้ารัฐบาลไทย

แต่ผลลัพธ์ “กลับตาลปัตร” เมื่อสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐก็ลงมติด้วยคะแนน 411 เสียงต่อ 4 เสียง เรียกร้องให้ทุกฝ่ายในเมืองสยามยุติการใช้ความรุนแรง

พร้อมสนับสนุนแผนปรองดองของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ !!!

ยุทธศาสตร์โลกล้อมไทยถูก “เดินเกม”

ผ่านบริษัทล็อบบี้ยิสต์ระดับโลก อาทิ บริษัท บีจีไอ ซึ่งเป็นมืออาชีพด้านการประสานสิบทิศ จ้างทนายต่างชาติอย่าง โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่เดินสายไปองค์กรนานาชาติ ออกสื่อสากลอย่างซีเอ็นเอ็น และรวบรวมหลักฐานหวังจะฟ้องร้องศาลระหว่างประเทศ

 

มี การว่าจ้างมืออาชีพอิสระ หรือฟรีแลนซ์ทางด้านสื่ออย่าง คาเรน บรูกส์ ซึ่งมีเครือข่ายไม่ธรรมดา

 

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการว่าจ้างบริษัท พีอาร์ นิวส์ เน็ตเวิร์ก ในสหรัฐ ทำการประชาสัมพันธ์ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ให้ตกหล่นใน “สปอตไลต์” ของสื่อตะวันตกเรียกได้ว่าเครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ระดมสรรพกำลังมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากการไม่มีตำแหน่งแห่งหนในรัฐบาล ทำให้โอกาสในการหา “ที่ยืน” ทางหน้าสื่อสารมวลชน จำต้องใช้ความพยายามและหน้าตักที่สูงลิ่วเคยมีผู้นิยามศัพท์ของการเดิน เกมอย่างนี้ไว้ว่าเป็น วิธีทำการเมืองให้เป็นเรื่อง “ประชาสัมพันธ์” หรือสปิน ดอกเตอร์ส ถือเป็นยุทธวิธีที่นักการเมืองในสหรัฐนิยมใช้ และเพิ่งเผยแพร่สู่เอเชียไม่นานมานี้

การเดินทางไป กรุงวอชิงตัน ของ นพดล มีการวางหมากกันเป็นช็อตๆ เช่น ให้บริษัทพีอาร์ร่อนจดหมายถึงสื่อมวลชนให้มาร่วมโต๊ะอาหารอย่างเปิดเผย

หมากอีกกระดานอาศัยการเดินเกมของบรรดาล็อบบี้ยิสต์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจ้าง

บุคคลระดับสูงที่ นพดล ได้เข้าพบคือ เคิร์ต แคมป์เบลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ

ด้วยการอาศัย “คอนเนกชันเก่า” ก่อนของ เจมส์ เบเคอร์ อดีต รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ในรัฐบาล จอร์จ ดับเบิลยู. บุช

แน่นอนว่า จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ทั้งผู้เป็นพ่อและลูกกับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นเคยแนบแน่นกันมานาน

ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลก็เดินเกม “ไม่ธรรมดา” ส่ง เกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย หรือทีทีอาร์ ไปสหรัฐก่อนหน้านี้ไปเพื่อบล็อก “เกมต่างประเทศ” ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่โจมตีด้วยข้อกล่าวหารัฐบาลใช้ความรุนแรง ไม่เป็นประชาธิปไตย กลั่นแกล้ง และไม่ให้ความยุติธรรม

เมื่อเดินทางไปถึงปรากฏว่า เกียรติ ได้เข้าพบกับกลุ่ม สส.สหรัฐที่มีบทบาทสำคัญต่อการโหวตในสภา โดยเฉพาะกลุ่ม สส.ที่เป็นมิตรแท้ประเทศไทย หรือ Friends of Thailand ซึ่งมีการก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2552

เป็นการรวมตัวกันของ สส.สหรัฐประมาณ 2030 คน ถือเป็นนักการเมืองมะกันที่รักชอบประเทศไทย และติดตามข่าวสารของสยามเมืองยิ้มอย่างต่อเนื่อง

ถ้ามองประสบการณ์ของ เกียรติ ถือว่าไม่ธรรมดา เคยเป็นอดีตประธานหอการค้าไทยแคนาดา มีประสบการณ์ทำงานกับบริษัทต่างประเทศ และทำธุรกิจด้านพลังงานจนประสบความสำเร็จ

เรื่องการเจรจาจนถึงขั้นเดินเกมล็อบบี้ น่าจะเหนือชั้นกว่านักการเมืองทั่วไป ถึงขั้นสามารถแลกกันแบบ “หมัดต่อหมัด” กับทีมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้สบาย

จึงไม่แปลกที่ในช่วงที่ประธานทีทีอาร์เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่สหรัฐ จะมีทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ และสื่อมวลชนในสหรัฐเข้าพบกว่า 100 คน

ผลการโหวตในรัฐสภาของสหรัฐจึงออกมาอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวไปทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าการเดินเกมโดยอาศัยเครื่องมือในระบบราชการสถานทูตอย่างเดียวจะ ไม่เพียงพอ

เพราะหลังจากจบฟุตบอลโลก 2010 เที่ยวนี้ เกมบนดินใต้ดินทั้งในและต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะออกรสชาติและระห่ำมากกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน

ทำให้ กรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง อดีตวาณิชธนากรบริษัทการเงินระดับโลก โดดเข้ามาร่วมสู้ด้วยการจ้างบริษัท โพเดสตา กรุ๊ป ซึ่งถือเป็นบริษัทประชาสัมพันธ์มืออาชีพ ในวงเงิน 2.4 แสนเหรียญสหรัฐ หรือ 7.7 ล้านบาท มีการเซ็นสัญญา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

บริษัท โพเดสตา กรุ๊ป นี้ถือเป็นมืออาชีพด้านการประชาสัมพันธ์ในสหรัฐ จะรับหน้าที่แค่การให้ข้อมูลสื่อต่างประเทศถึงข้อเท็จจริงทางเศรษฐกิจไทย ล้วนๆ แต่จะไม่มีหน้าที่ในการเป็น “ล็อบบี้ยิสต์” เพื่อตอบโต้เกมของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ไม่เพียงเท่านั้น ในเอ็มโอยูที่ว่าจ้างบริษัท โพเดสตาฯ ยังระบุถึงการเป็นที่ปรึกษาให้แก่รัฐบาลอภิสิทธิ์ในการวางหมากการประชา สัมพันธ์ถึงสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศไทยว่าจะทำอย่างไร หลังมีเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมือง

หน้าที่ของบริษัท โพเดสตาฯ คือทำอย่างไรให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ดีได้กระจายไปถึงต่างประเทศ แทนที่จะออกไปแบบ “ตามมีตามเกิด”

อย่างล่าสุด กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ออกมาประเมินว่าจีดีพีของไทยในปีนี้จะขยายตัวระดับ 7% แทบจะสูงสุดในอาเซียน เป็นรองแค่สิงคโปร์เท่านั้น

กรณ์ บอกว่า หากไม่มีการประชาสัมพันธ์ที่ดี และมีการเสนอข่าวที่ไม่ถูกต้องชัดเจนกับผู้บริโภคข่าวในต่างประเทศ อาจทำให้ไทยเสียเปรียบประเทศคู่แข่ง และเสียโอกาสในการที่จะได้รับความสนใจ

“ผลกระทบทางการเมืองที่เกิดขึ้นมีผลต่อความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจของ ประเทศ และส่งผลกระทบต่อแนวโน้มโอกาสของไทยที่จะเสนอตัวเป็นประเทศที่น่าลงทุนใน ระยะยาว” รมว.คลัง ระบุ

แต่เมื่อย้อนเข้าไปดูประวัติลึกๆ ของบริษัท โพเดสตา กรุ๊ป แล้วพบว่าเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญการให้คำปรึกษา ปกป้องชื่อเสียงประเทศ ช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นนักลงทุนและการท่องเที่ยวให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2531 โดย โทนี โพเดสตา ชาวอเมริกันเชื้อสายกรีซ สมาชิกพรรคเดโมแครตของสหรัฐ มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นั่นหมายความว่าคอนเนกชันของบริษัทนี้ย่อมไม่เบาเช่นกัน

แน่นอนว่าบริษัทพีอาร์สหรัฐที่รัฐบาลจ้างจะต้องเจองานหนัก เพราะในเดือน ส.ค. นายกรัฐมนตรีจะเดินสายไปเยี่ยมเยือนประเทศสำคัญๆ

โดยเดือน ส.ค. จะไปสหภาพพม่า แน่นอนว่างานนี้คงมีเรื่องพูดกันเพียบ ตั้งแต่เรื่องของความร่วมมือด้านพลังงาน เงินกู้ที่มีปัญหา และแผนปรองดองในชาติ ซึ่งทั้งสองประเทศถูกจับตามองพอๆ กัน

จากนั้น อภิสิทธิ์ มีคิวต่อไป จีน และญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นสองเสาหลักทางเศรษฐกิจของเอเชีย และในช่วงเวลาเดียวกันนี้เอง บริษัทจัดอันดับเครดิตระดับโลกอย่างเอสแอนด์พี และมูดี้ส์ จะเดินทางเข้ามาเก็บข้อมูลเครดิตของประเทศไทยด้วย

ขณะที่เดือน ก.ย. อภิสิทธิ์ จะเดินทางไปเยือนสหรัฐ และสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพื่อการันตีหรือยืนยันว่าประเทศไทยยังคงได้รับการยอมรับในเรื่องของ ประชาธิปไตยบนเวทีโลก ต่างจากสิ่งที่บรรดาทนายต่างชาติและบริษัทล็อบบี้ยิสต์คอยให้ข้อมูล

งานนี้จะวัดฝีมือบริษัท โพเดสตาฯ ว่าสมราคาว่าจ้างหรือไม่!!!

มโหรีวงใหญ่ของรัฐบาลกำลังดำเนินไป ท่ามกลางสายตาของ “สไนเปอร์ทางการเมือง” ที่พร้อมจะสอยรัฐบาลชุดนี้ตลอดเวลา

เกมที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินในต่างประเทศนั้นไม่ธรรมดา ขณะที่เกมในประเทศก็ยังคงคุกรุ่น รอวันกลับมาของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยังรวมตัวกันเหนียวแน่น

การจ้างบริษัทพีอาร์ให้ประเทศไทย เป็นการตีฆ้องร้องป่าวว่ารัฐบาลไม่ได้ “จำนน” กับข้อมูลด้านมืดที่ถูกปล่อยออกไปจากฝ่ายตรงข้าม

ขณะเดียวกันเป็นสัญญาณเปิด “เกมรุก” เต็มสูบในเวทีระหว่างประเทศ ที่พอจะมองออกแล้วว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ

Tags : มโหรี ประเทศไทย

view